กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--IDC
เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่าไอที คือหัวใจสำคัญ หลักในการทำให้ธุรกิจเติบโต ซึ่งสิ่งนี้กำลังถูกจับตามองจากบรรดาผู้ใช้งานทั้งหลาย ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกนี้ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบดาต้าเซ็นเตอร์ (ศูนย์ข้อมูลกลาง) ของตน ให้สอดคล้อง และ ตอบ สนองต่อการทำธุรกิจที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน จากผลการสำรวจเรื่องพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ที่ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนประจำปี พ.ศ. 2551 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก พบว่า ความท้าทายในการดำเนิน ธุุรกิจที่สำคัญ 3 อันดับแรกที่องค์กรต่างๆ กำลังประสบอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ การขยายตัวไปทำธุรกิจใหม่ อย่างประสบความสำเร็จ การควบคุมต้นทุนให้ต่ำ และ สร้างความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงขึ้นด้วย การจัดหาสิ่่งที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้า
นายอาฟนิช แซคเซนา ประธานกลุ่มผู้บริหาร ด้านคอมพิวเตอร์ สตอเรจ และ ซอฟท์แวร์ ประจำ IDC เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "การแปลงระบบดาต้าเซ็นเตอร์กำลังเป็นสิ่งที่ต้องกระทำในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่ ได้พูดถึงการนำผลิตภัณฑ์ของรายหนึ่งรายใดมาแทนที่ แต่หมายถึงการชุบชีวิตดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งระบบ เพื่อมาตอบสนองงานด้านไอทีภายในองค์กร ด้วยความสำคัญทั้งด้านเวลา เงินทุน และ ความมุ่งมั่น ที่ จะสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ขึ้น มีสิ่งสำคัญบางประการที่ผู้ใช้งานต้องทำความเข้าใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ การวางแผน การสร้าง และ การบริหารดาต็าเซ็นเตอร์ให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างไร ดังนั้น การจัดงานสัมมนาของ IDC ในปีนี้ จึงให้ความสำคัญในเรื่อง “การปรับเปลี่ยนศูนย์ข้อมูล : การเลือกสิ่ง ที่ดีที่สุด” โดยที่หัวข้อที่มานำเสนอจะมุ่งนำเสนอเรื่องต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น"
IDC ได้จัดประเภทดาต้าเซ็นเตอร์ในปัจจุบันออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ โดยแบ่งตามประเภทการใช้งาน "ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Web 2.0 กำลังเป็นตัวนำในเรื่องของการแปลงระบบ เพราะมีการ สร้างมาตรฐานใหม่ๆ ทางด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรม" นายอาฟนิช กล่าว บริษัทเหล่านี้เป็น บริษัทที่เกิดใหม่ และแทบจะต้องเริ่มต้นจากศูนย์กับการเรียนรู้โครงสร้างด้านไอทีใหม่นี้ เพื่อนำมาช่วย งานธุรกิจของเขา ขณะที่ โฮส-ดาต้าเซ็นเตอร์ และ ดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิม เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้อง ได้รับการปรับเปลี่ยน เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และ ต้องตอบโจทย์ทาง ธุรกิจใหม่ๆ อีกด้วย
ผู้ใช้งานเกือบทั้งหมด ได้ตระหนักถึงความต้องการในการแปลงดาต้าเซ็นเตอร์ของเขาแต่ก็ยังไม่ทราบว่า จะเริ่มอย่างไรดี และ ควรจะเลือกใครเป็นคู่ค้าด้วย แถมยังต้องสับสนกับเรื่องของ รูปแบบดาต้าเซ็นเตอร์ ในอุดมคติ ที่จะต้องตอบสนองตรงกับความต้องการของเขาในอนาคต ซึ่งทำให้พบคำถามที่ถูกถามอยู่ เสมอจากผู้ใช้งานเช่น
เมื่อใดที่เราจะทราบว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยน หรือ ขยายขนาดดาต้าเซ็นเตอร์ของเราปริมาณพลังงานที่ใช้และระบบทำความเย็นประเภทใดที่เหมาะสมรูปแบบใหม่ของสถาปัตยกรรมเซิฟเวอร์และสตอเรจใดที่เราควรเลือกติดตั้งซอฟท์แวร์โซลูชั่นด้านโครงสร้างพื้นฐานประเภทใด ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น และ ลดดาวน์ไทม์แบบที่ไม่ได้กำหนดไว้ได้เราจะสามารถปรับปรุงให้เกิดความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้นได้อย่างไร ในขณะที่ต้องการคง ไว้ซึ่งความง่ายต่อการใช้งานอย่างที่เคยใ้ช้งานมา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
คุณศศิธร แซ่เอี้ยว
ที่หมายเลข 662-651-5585 ต่อ 113
Email: [email protected]