กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา รวมถึงพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระรามหก ตลอดจนชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำในเขตกรุงเทพฯ เตรียมความพร้อมในการรับมือน้ำล้นตลิ่ง ในระยะนี้ โดยให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จัดทำแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น และเตรียมขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นขึ้นที่สูง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง กรมชลประทานจึงได้บริหารจัดการน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระรามหกเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งในบางพื้นที่ ริมฝั่งแม่น้ำโดยเฉพาะภาคกลางตอนล่าง ประกอบกับในระยะนี้เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง โดยเฉพาะในวันที่ ๑๔ — ๑๕ พฤศจิกายนนี้ อาจทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา รวมถึงพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนพระรามหก ตลอดจนชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำในเขตกรุงเทพฯ กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว เตรียมความพร้อมในการรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง ขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของไว้บนที่สูง และเสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น หมั่นติดตามพยากรณ์อากาศ การขึ้น — ลงของน้ำจากกรมอุทกศาสตร์ และการปล่อยน้ำจากกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ควรจัดเวรเฝ้าระวังสถานการณ์ และตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำให้มีความแข็งแรง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน พร้อมจัดเตรียมสิ่งของเครื่องใ ช้ที่จำเป็นไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยารักษาโรค เป็นต้น และขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้บนที่สูงหรือบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง เช่น ปลั๊กไฟ ตู้ เตียง และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๒ สุพรรณบุรี เขต ๑๖ ชัยนาท และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งประสานให้จังหวัดในพื้นที่ลุ่มภาคกลางตอนล่างแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัย ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือภาวะน้ำล้นตลิ่ง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ด้วยการจัดเตรียมเครื่องจักรกล ยานพาหนะ เรือท้องแบนไว้ให้บริการขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป