อยุธยาแกรนด์โฮเต็ล เตรียมขยับมาตรฐานบริการสู่ 4 ดาว หนุนโรงแรมผ่านการรับรองฯ มุ่งสู่สากลรับเปิดเสรี

ข่าวทั่วไป Thursday July 14, 2005 15:55 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กู๊ด เน็ตเวิร์ค
เผยโรงแรมตัวอย่างผ่านการรับรองมาตรฐานระดับ 3 ดาว “อยุธยาแกรนด์โฮเต็ล” แจงประโยชน์การมีมาตรฐาน ดาวโรงแรมกำกับ ช่วยทำตลาด ลูกค้าและบริษัททัวร์เข้าใจ เลือกใช้บริการตามต้องการอย่างสะดวก ชี้การวัดระดับมาตรฐานดาวของโรงแรมที่สมควรอยู่ในระดับดาวใดถึงเหมาะสม ผู้ประกอบการโรงแรม ต้องวิเคราะห์สภาพโรงแรมของตนเองอย่างท่องแท้และยอมรับในมาตรฐานกลาง เผยลงทุนเพิ่มอีก 100 ล้านบาท ขยายเครือข่ายธุรกิจโรงแรมรองรับอนาคต ตั้งบริษัทฯ ลูก สร้างห้องพักอีก 78 ห้อง เสร็จปลายปี 2549 พร้อมเตรียมขยับมาตรฐานการบริการให้สูงขึ้น เป็น 4 ดาว
การที่หน่วยงานสำคัญด้านการท่องเที่ยวของไทย ประกอบด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) และสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ร่วมจัดตั้งหน่วยงานกลางระดับมาตรฐานสากล ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบพิจารณารับการรับรองมาตฐานดาวให้กับโรงแรมทั่วประเทศ ภายใต้หน่วยงานชื่อ “มูลนิธิพัฒนามาตรฐานและบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว” และเปิดให้ผู้ประกอบการยื่นความประสงค์ขอรับรองมาตรฐานดาวของโรงแรมมาต่อเนื่องในปี 2548 นี้ เป็นปีที่ 3 กับความพยายามส่งเสริมและผลักดันให้โรงแรมทั่วประเทศได้มีมาตรฐานดาวระดับสากล เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการบริการที่เหมาะสม ชี้ให้เห็นถึงการมีมาตรฐานดาวก่อให้เกิดประโยชน์กับโรงแรมในอนาคตเพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานการบริการโดยรวมที่ถูกต้อง และยังรองรับการเปิดเสรีทางด้านธุรกิจโรงแรมในอนาคต
นายมังกร ภิรมย์พานิช รองกรรมการผู้จัดการ โรงแรมอยุธยาแกรนด์โฮเต็ล หนึ่งในโรงแรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานโรงแรมในระดับ 3 ดาว กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการนี้ ก็เพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่องานบริการของโรงแรม สามารถแจกแจงให้ลูกค้าทั้งชาวไทยชาวต่างชาติและบริษัทต่างๆ เข้าใจในการบริการและรับทราบการบริการของโรงแรมในระดับมาตรฐาน 3 ดาวอย่างถูกต้องตามที่ลูกค้าคาดหวัง
“ผมมองตั้งแต่แรกแล้วว่า การยืนขอการรับรองมาตรฐานดาวระดับ 4 ดาว ในขั้นแรกอาจมีอุปสรรคบางประการ ถึงแม้ว่าหลายอย่างของโรงแรมจะอยู่ในมาตรฐาน 4 ดาวก็ตาม แต่ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ โดยรวมที่จะต้องนำมาพิจารณาด้วย เราต้องยอมรับความจริง แต่เราก็มีเป้าหมายที่จะขยับงานบริการโรงแรมให้สูงขึ้นเป็น 4 ดาวต่อไป” นายมังกรกล่าวและเสริมอีกว่า การที่ผู้ประกอบการโรงแรมจะยืนขอการรับรองมาตรฐานโรงแรมในระดับดาวใดก็ตาม จะต้องมองสภาพโดยรวมในคุณภาพบริการของโรงแรมตนเองอย่างเข้าใจ และมีการวิเคราะห์ในเบื้องต้นอย่างท่องแท้เพื่อให้ได้มาตรฐานดาวในระดับดาวที่ตนเองต้องการ
สำหรับเป้าหมายสู่การเป็นโรงแรมมาตรฐานในระดับ 4 ดาวต่อไปนั้น นายมังกร เปิดเผยว่า ทางโรงแรมจึงได้ลงทุนสร้างโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้นอีก จำนวน 78 ห้องพัก ใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างบนพื้นที่ 2 ไร่ ซึ่งติดกับโรงแรมอยุธยาแกรนด์โฮเต็ลที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ในปัจจุบัน โดยจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมารองรับ และสร้างมาตรฐานบริการของโรงแรมสร้างใหม่นี้ให้อยู่ในมาตรฐานระดับ 4 ดาว กำหนดการสร้างเสร็จในปลายปี 2549 รองรับตลาดการสัมมนาที่ปัจจุบันทางโรงแรมให้บริการได้ไม่เพียงพอ
กลุ่มลูกค้าในปัจจุบันของโรงแรมที่เป็นลูกค้าประจำ (Long Stay) มีประมาณ 30 % และส่วนมากจะเป็นคนญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีก 30 % เป็นลูกค้าที่มาจากลุ่มบริษัททัวร์ และที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มสัมมนาจากหน่วยงานราชการเป็นส่วนมาก หากเทียบลูกค้าของโรงแรมทั้งหมด ส่วนใหญ่ 60% เป็นชาวต่างชาติ และ 40 % เป็นลูกค้าคนไทย มีอัตราการเข้าพักในเกณฑ์เฉลี่ยทั้งปี 70 % โดยช่วงปลายปีมักเป็นช่วงที่ห้องพักเต็มตลอดทุกๆปี เนื่องจากทางจังหวัดมีงานเทศกาลใหญ่คือ งานมรดกโลก และเป็นช่วงอากาศที่ค่อนข้างดีและไม่ค่อยร้อนมาก
ทางด้าน ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลงในขณะนี้และภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้น มีผลทำให้โรงแรมเพิ่มความเข็มงวดในเรื่องการควบคุมต้นทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการควบคุมด้านอาหารเครื่องดื่ม ค่าใช้จ่ายสำนักงาน หันมารณรงค์ประหยัดไฟ เพื่อรับมือกับภาวะต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับโรงแรมในอนาคต
ส่วนภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดอยุธยาในปีนี้ ตกลงบ้างเมื่อเทียบกับปีก่อน ผลกระทบจากปัญหาโรคซาร์ ไข้หวัดนก ส่วนภัยพิบัติคลื่นซึนามิ กระทบไม่มากนัก เพราะปกตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมาอยุธยาเพียงแวะพักแรมเต็มที่แค่คืนเดียว แล้วถึงไปเที่ยวต่อยังจังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงและสัมผัสศิลปวัฒนธรรมในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดได้ง่าย
ยุทธวิธีกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดอยุธยาที่ดียิ่งขึ้นอีกนั้น มีความเห็นว่า ภาครัฐควรกระตุ้นและสนับสนุนจัดกิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง มีการวางแผนแม่บทด้านท่องเที่ยว ทั้งในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจริงจังขึ้นกว่าเดิม ควรจัดระเบียบการก่อสร้างอาคารรอบบริเวณเขตเมืองโบราณละสถานที่สำคัญๆ อย่างเหมาะสม เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวในจังหวัดมากขึ้น
นายมังกร แสดงความคิดเห็นอีกว่า สิ่งหนึ่งที่กระทบและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในด้านการแข่งขันกับธุรกิจโรงแรมของจังหวัดอย่างมากขณะนี้ คือ การมีธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์รายวันเกิดขึ้นมาก ถึงแม้จะมีข้อกำหนดทางกฎหมายออกมาทำการควบคุมแล้วก็ตาม แต่ก็มีการละเลยหน้าที่ในการตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่กลับมาเข็มงวดกับธุรกิจโรงแรมในหลายๆสิ่งที่มีความเห็นว่าไม่สมควรเข็มงวด
อนึ่ง เหตุจูงใจในการสร้างโรงแรม อยุธยาแกรนด์ (Ayutthaya Grand Hotel) สืบเนื่องจาก เดิมบริษัทโรจนะเรียลเอสเตท จำกัด มีที่ดินว่างเปล่าอยู่จำนวน 60 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความต้องการจะพัฒนาให้เกิดความเจริญ เป็นศูนย์การค้า/ศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ของจังหวัดฯ จึงได้ทำการจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็นสถานีขนส่ง และจัดสรรพื้นที่ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์ จุดประสงค์ในการจัดทำสถานีขนส่งเพื่อที่จะได้เป็นศูนย์กลางในการคมนาคมในการเดินทางไปยังจังหวัดในภาคเหนือ และรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคตโดยมีศูนย์การค้าอยู่บริเวณโดยรอบหลังการพัฒนาสร้างศูนย์การค้า/ศูนย์ธุรกิจแล้ว
แต่ปรากฏว่าอาคารพาณิชย์รอบๆ บริเวณสถานีขนส่งสามารถขยายได้หมด แต่อาคารพาณิชย์บริเวณส่วนปลายของพื้นที่ไม่สามารถขายได้ ดังนั้น เพื่อเพิ่มจุดขายให้กับอาคารพาณิชย์ บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะสร้างโรงแรมชั้นหนึ่งขึ้นมา ณ บริเวณพื้นที่ส่วนปลายที่ยังคงเหลืออยู่ประมาณ 5 ไร่ จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการเป็นจุดเสริมของการขายอาคารพาณิชย์ ณ บริเวณนั้นให้หมด และประกอบกับในขณะนั้นทางจังหวัดอยุธยา มีการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรม และทางบริษัทได้ทราบว่า จะมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดอยุธยาประมาณ 3-4 แห่ง ซึ่งตอนนั้น บีโอไอได้ยกเว้นภาษีสำหรับการนำเขาอุปกรณ์ เช่น ลิฟท์ แอร์ เป็นต้น จึงเป็นเหตุจูงใจดังกล่าว
เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ในนามมูลนิธิพัฒนามาตรฐานและบุคลากร
ในอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว
โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณ ภาวินี ชนะพลชัย โทร 0-9770-2659--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ