กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ไอบีเอ็ม
รายงานของไอดีซีระบุ ไอบีเอ็มยังคงครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งด้าน รายได้ในตลาดเซิร์ฟเวอร์โดยรวมในประเทศไทยด้วยสัดส่วนรายได้ 37.2% จากรายได้รวมในตลาด ที่สำคัญ ไอบีเอ็มได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดยูนิกซ์เซิร์ฟเวอร์ด้วยสัดส่วนรายได้ 42.2% ซึ่งคิด เป็นสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 26.1% โดยสามารถเข้าชิงส่วนแบ่งการตลาดยูนิกซ์จากคู่แข่ง
นอกจากนี้ ตามรายงาน IDC Asia/Pacific Quarterly Enterprise Server Tracker ประจำไตรมาส ที่สองของปีนี้ ไอบีเอ็มยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สำคัญในอีกหลายส่วน ได้แก่
- ธุรกิจเบลดเซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็มมีอัตราเจริญเติบโตทางด้านรายได้เร็วที่สุด โดยรายได้รวม ของไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่สองของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากรายได้รวมของไตรมาสแรก ถึงไตรมาสที่สองของปีที่แล้วถึง 314.2% ทั้งนี้ ในไตรมาสที่สอง เบลดเซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็มมี ส่วนแบ่งรายได้คิดเป็น 24.4% จากรายได้รวมในตลาด หรือเพิ่มจากไตรมาสเดียวกัน ของปีที่แล้ว 10.5%
- ไอบีเอ็มมีส่วนแบ่งรายได้ในตลาดลีนุกซ์เซิร์ฟเวอร์ 30.7% ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 1.3%
นายธันวา เลาหศิริวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจ Systems and Technology Group บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ”ไอบีเอ็มประสบความสำเร็จสูงสุดอีกครั้งหนึ่งในช่วงไตรมาสที่สอง ที่ผ่านมา เราสามารถรุกเข้าไปในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และฐานธุรกิจขนาดกลางและย่อม ซึ่งเป็นฐานลูกค้า สำคัญของคู่แข่ง ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจไทยได้เห็นถึงศักยภาพของไอบีเอ็มที่จะเข้าไปช่วยพวกเขาปรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ใช้บริหารจัดการง่าย ไม่ซับซ้อน ระบบสามารถแจ้งเตือนและซ่อมแซมระบบได้ด้วยตัวเอง รวมทั้ง ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากระบบไอทีที่ลงทุนไปให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีเวอร์ชวล ไลเซชั่น (Virtualization) เทคโนโลยีการทำ Multiple-workload consolidation เทคโนโลยี POWER5+ และอื่นๆ”
ปัจจุบัน มีองค์กรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษาชั้นนำมากมายในประเทศไทย ไว้วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีออนดีมานด์ในเซิร์ฟเวอร์ของไอบีเอ็มเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในการดำเนิน กระบวนการทางธุรกิจ อาทิ
- ไอบีเอ็มได้ร่วมมือกับเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีภายใต้บันทึกความเข้าใจในโครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการพัฒนาทักษาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยฯ ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เมนเฟรมในโครงการ Virtual IT Playground ที่ใช้ IBM System z890 โดยนักศึกษาสามารถเรียนวิชาไอทีและทดลองทำการพัฒนาแอพพลเคชั่นเสมือนมีเซิร์ฟเวอร์ส่วน ตัว
- ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) บริษัท เดนโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล และธนาคารทิสโก้ เลือกใช้เทคโนโลยี Capacity On Demand ใน IBM System i5 บริหารจัดการระบบทำงานหลักทั้งทางด้านประกันภัยและการให้บริการทางการเงิน เช่นเดียวกับ ที่บริษัท อิตัล-ไทย ดิเวลอปเม้นต์ บริษัท ไทย บริดจสโตน และบริษัทด้านอุตสาหกรรมไทย ปาร์กเกอร์ไรซิ่ง ใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมระบบเปิด (Open-standard solutions)
- บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เลือกใช้ IBM System p5 เพื่อโครงสร้าง พื้นฐานไอทีหลัก เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจไปทั่วเอเชีย ขณะที่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ปรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีครั้งใหญ่ โดยเลือกใช้ IBM Systems p5+ และจัด สร้างระบบตามหลักการ Server Consolidation
- ขณะที่โครงการไทยกริดได้จัดสร้างโครงข่ายพื้นฐานกริดของชาติเชื่อมต่อ 14 สถาบันพันธมิตร และเกมส์ Special Force ใหม่จากทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เลือกใช้ IBM System x3 และ IBM BladeCenter เพื่อรองรับธุรกิจหลักและพร้อมขยายตัวเพื่อธุรกิจที่กำลังเติบโต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
คุณอรอุมา วัฒนะสุข โทร 02-273-4117
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net