กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--ปตท.
ยืนยันกรรมการแปรรูป ปตท.ไม่มีบุคคลที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน การดำเนินงานทุกขั้นตอนรวมถึงการขายหุ้นเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
นายพิชัย ชุณหวชิร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและบัญชีองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ชี้แจงกรณี องค์กรผู้บริโภคเตรียมฟ้อง ปตท. เกี่ยวกับการดำเนินการแปรรูป ว่าคณะกรรมการ 3 ชุด ที่เกี่ยวกับการแปรรูป ปตท. มีผลประโยชน์ทับซ้อน และ ปตท.ไม่มีสิทธิใช้อำนาจรอนสิทธิ์เพื่อวางท่อก๊าซฯ รวมทั้งการแปรรูป ปตท.ได้ทำลายความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น โดยเฉพาะธรรมาภิบาลในตลาดทุน ซึ่งประเด็นทั้งหมดนี้ ปตท. มั่นใจว่าได้ทำถูกต้องตามกฎระเบียบทุกขั้นตอน สามารถชี้แจง และมีเอกสารพร้อมให้ตรวจสอบได้ โดยคณะกรรมการทั้ง 3 ชุด คือ คณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ มีนายปองพล อดิเรกสาร เป็นประธาน คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้ง มีนายมนู เลียวไพโรจน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานโดยตำแหน่ง และชุดสุดท้าย คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีนายปริญญา นุตาลัย ประธาน ซึ่งเป็นนักวิชาการอิสระ และไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ในขณะนั้น
สำหรับเรื่องเกี่ยวกับอำนาจต่างๆที่ ปตท.ได้รับโอนมาหลังจากการแปลงสภาพนั้น เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดย ปตท.ได้หารือกับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาในประเด็นข้อกฎหมายมาโดยตลอด เนื่องจากปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจแรก ที่แปลงสภาพโดยใช้ พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ปตท.ได้ชำระค่าตอบแทนที่ราชพัสดุให้กับกรมธนารักษ์ตามข้อตกลง การเช่า หรือ การใช้ที่ดิน อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างในที่ราชพัสดุ กับกรมธนารักษ์อย่างครบถ้วน และ ปตท.ไม่ได้รับโอนที่ดินที่ได้มาจากการเวนคืนในช่วงที่เป็นการปิโตรเลียมฯ มายัง บมจ.ปตท.แต่อย่างใด
นายพิชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเด็นการเสนอขายหุ้น ปตท.ในช่วงปี 2544 ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์และกติกาสากล โดยในขณะนั้น ปตท. และกระทรวงการคลังได้มีการเสนอขายหุ้นในประเทศทั้งหมดจำนวน 591 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 20,685 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของการขายหุ้นให้กับกลุ่มผู้ลงทุนรายย่อยจำนวนรวม 330 ล้านหุ้น สามารถกระทำได้ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจาก ปตท. และตัวแทนจำหน่ายหุ้น ซึ่งประกอบด้วยธนาคารขนาดใหญ่จำนวน 5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้นำระบบการจองซื้อหุ้นผ่านสาขาของทั้ง 5 ธนาคาร จำนวนรวมกว่า 2,500 สาขาทั่วประเทศ โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากกว่า 10,000 หน้าจอ ซึ่งมีผลให้ ปตท. สามารถกระจายการขายหุ้นสู่ผู้ลงทุนรายย่อยจำนวนมากมายถึงกว่า 10,000 รายทั่วทั้งประเทศในเวลาอันรวดเร็ว
นอกจากนั้น ปตท.ยังได้มีการจำหน่ายหุ้นจำนวน 261 ล้านหุ้นให้ผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศอีกจำนวนนับล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนผ่านกองทุนต่างๆ ในประเทศ ซึ่งการขายหุ้นดังกล่าวช่วยกระตุ้นภาวะตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยที่ซบเซามานานหลังจากประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและโดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2546 เป็นต้นมา การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและทั่วโลกดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวสูงขึ้น และราคาหุ้นบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น ราคาหุ้น ปตท. ก็ปรับขึ้นเช่นเดียวกัน กอปรกับการบริหารจัดการที่ดีของ ปตท. มีผลให้การดำเนิน- งานดีขึ้น ราคาหุ้น ปตท.จึงปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ดีกว่าตลาด
สำหรับในเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่ง ปตท.ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกนั้น จะเห็นได้ว่า ภายหลังการแปรรูปและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปตท.ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านการดำเนินงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเห็นได้ชัดเจนจากรางวัล คณะกรรมการแห่งปี 2548 หรือ Board of the Year 2005 ซึ่งมอบให้โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมสถาบันกรรมการบริษัทไทย อีกทั้ง ยังได้รางวัลด้านอื่นๆอีกมากมายจากวารสาร สถาบัน และองค์กรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) นิตยสารต่างๆ อาทิ Business Week, Finance Asia, Asiamoney, Euromoney, Institutional Investor, สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ดี การกำกับดูแลกิจการที่ดี การนำเสนอข้อมูลองค์กรอย่างครบถ้วน โปร่งใส รวมถึงเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลสูงสุดทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด
ดังนั้น ในกรณี ปตท. จึงควรมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำออกมาพูดในที่สาธารนะ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน อาจส่งผลกระทบในวงกว้างจนยากจะแก้ไข ทั้งนี้ ปตท. ไม่เคยปกปิดข้อมูล โดยได้ชี้แจงเรื่องการแปรรูปและการเสนอขายหุ้นของ ปตท. ต่อสังคมและหน่วยงานต่างๆของรัฐจนเป็นที่ชัดเจนมาโดยตลอด
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2537-2159,60 โทรสาร 0-2537-2174
************************************