ปตท. นำลดเบนซินอีก 40 สตางค์ เป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องในสองสัปดาห์

ข่าวทั่วไป Wednesday February 15, 2006 16:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--ปตท.
สะท้อนตามต้นทุนและเป็นไปตามกลไกของตลาด ถึงณ วันนี้ ปตท. ได้ลดราคาน้ำมันแก่ผู้บริโภคในประเทศไปแล้ว 1.20 บาท/ลิตร
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ตัดสินใจประกาศปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินภายในประเทศลงทันที หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับราคาลง ล่าสุด (15 ก.พ.2549) ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 56.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันสำเร็จรูปอยู่ในระดับทรงตัว โดยน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 63.10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดีเซล อยู่ที่ระดับ 64.88 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่เนื่องจากในช่วงนี้อัตราแลกเปลี่ยนสกุลบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น ทำให้ ปตท. สามารถปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินทุกชนิด (รวมน้ำมันแก๊สโซฮอล์) ให้แก่ผู้บริโภคในประเทศได้ 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่พรุ่งนี้(16 ก.พ.49) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 26.04
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.54
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 25.24
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 24.29
น้ำมัน พีทีที ไบโอดีเซล / น้ำมันดีเซล-ปาล์ม (บริสุทธิ์) 23.79
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ปตท. กล่าวว่า การลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว รวม ปตท. ลดราคาขายปลีกในประเทศลงไปแล้ว 1.20 บาท/ลิตร ซึ่งสะท้อนตามต้นทุนและเป็นไปตามกลไกของตลาด โดย ปตท. พร้อมที่จะพิจารณาปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกลงให้แก่ผู้บริโภคทันทีที่ราคาต้นทุนในตลาดโลกปรับตัวลดลง นับเป็นนโยบายของ ปตท. ที่ถือปฏิบัติมาโดยตลอด
สำหรับสาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบทุกชนิดช่วงนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลงนั้น มาจากกลุ่มประเทศโอเปกเปิดเผยว่าไม่มีความจำเป็นต้องลดเพดานการผลิตน้ำมันจากระดับปัจจุบันซึ่งกำหนดไว้ 28 ล้านบาร์เรล/วัน สำหรับการประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 มี.ค.ศกนี้ และ Reuters Polls คาดการณ์ปริมาณสำรองน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐอเมริกา (ซึ่งผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ของโลก) อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการนำเข้าน้ำมันที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้น รวมทั้งแหล่งผลิตน้ำมันดิบแหล่งใหม่ในไนจีเรียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 500,000 บาร์เรล โดยผลิตได้ 220,000 บาร์เรล/วัน นอกจากนี้ ด้วยค่าการกลั่นที่ปรับลดลงอาจทำให้โรงกลั่นต้องลดกำลังการกลั่นลง และส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบลดลงไปด้วย ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปทำให้ราคาอยู่ในระดับทรงตัวและอ่อนตัวลงตามน้ำมันดิบเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามผู้บริโภคก็ไม่ควรวางใจจากเหตุการณ์ความไม่สงบของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน กรณีที่ นาย Javad Vaeedi รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของประเทศอิหร่าน ออกมาเปิดเผยว่า อิหร่านได้รื้อฟื้นการเพิ่มประสิทธิภาพแร่ยูเรเนียมที่โรงงานในเมือง Natanz ซึ่งแสดงถึงการเดินหน้าพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ต่อไป แม้ว่านานาชาติจะควบคุมการเคลื่อนไหวให้อยู่ในขอบเขตจำกัดก็ตาม นอกจากนี้ยังมีปัจจัยความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ พายุหิมะ ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันได้อีกด้วย ซึ่ง ปตท. ต้องติดตามสถานการณ์รอบโลกอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อดูแลการจัดการเรื่องพลังงานของประเทศให้ดีที่สุด นายชัยวัฒน์ กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538--จบ--

แท็ก ปตท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ