กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--นีลเส็น
ผลการสำรวจออนไลน์เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคล่าสุดจากนีลเส็น ผู้นำด้านการวิจัยทางการตลาดและข้อมูลชั้นนำของโลก พบว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกตกลงต่ำสุดในรอบสามปีที่ผ่านมา
จากการสำรวจออนไลน์ของผู้บริโภคซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ครั้งต่อปีเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ข้อกังวล และการจับจ่ายเงินจาก 52 ประเทศ จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 26,000 คนตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ถึง วันที่ 6 ตุลาคม 2551
ผลการสำรวจในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นในระหว่างวิกฤตการณ์เงินทั่วโลก ผลสำรวจล่าสุดเปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลก ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 99 ในปีพ.ศ. 2549 มาแตะที่ระดับ 84 ในการสำรวจรอบนี้ โดยพบว่าจากทั้ง 52 ประเทศที่เราทำการสำรวจนั้น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคใน 43 ประเทศ (หรือคิดเป็น 83%) ลดลงจากผลการสำรวจในครึ่งปีแรก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกค่อนข้างสิ้นหวัง โดย 62 เปอร์เซ็นต์คิดว่า โอกาสทางด้านการงานข้างหน้าจะไม่ค่อยดี และมากกว่าสองในสามเชื่อว่า ภายใน 12 เดือนข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่ไไม่เหมาะสมที่จะซื้อสิ่งของที่พวกเขาต้องการ
ส่วนผู้บริโภคในประเทศที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว พบว่ายังคงมีความเชื่อมั่นในทางบวกโดยจะเห็นได้จากผลการสำรวจว่า อินเดียเป็นประเทศที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสูงที่สุดอันดับหนึ่งในโลก บราซิลและจีนมีระดับความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น ส่วนรัสเซียถูกจัดอยู่ในลำดับที่ห้าของโลกที่มองทิศทางในเศรษฐกิจในทิศทางที่ดี โดยประเทศทั้งหมดดังกล่าวจัดอยู่ในสิบลำดับแรกที่มีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจภายในประเทศของตน (ตารางที่1 )
นางจันทิรา ลือสกุล กรรมการผู้จัดการ นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ ท่ามกลางความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศดังกล่าว เราพบว่าสินค้าและบริการหลายอย่างยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และการใช้จ่ายของผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบในระดับที่รุนแรงเหมือนอย่างประเทศในทางตะวันตก ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจาก วิกฤติทางการเงินของโลกในขณะนี้ องค์กรต่างๆและผู้บริโภคในประเทศใหญ่ที่กำลังเติบโตเหล่านี้ ยังมีความมั่นใจต่อทิศทางของเศรษฐกิจของตนในระยะกลางถึงระยะยาวว่ายังแข็งแรงอยู่ ”
ส่วนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดวิกฤติเศรษฐกิจ พบว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วยดัชนีความเชื่อมั่นที่ต่ำสุดในระดับใหม่ที่ 82 ซึ่งลดลงจากระดับ 100 จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยผู้บริโภคมากถึงแปดสิบหกเปอร์เซ็นต์คิดว่าเศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ในภาวะถดถอยและมากกว่าครึ่งคิดว่าภาวะฯนี้จะยังคงยึดยาวไปอีกใน 12 เดือนข้างหน้า
ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทย เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการสำรวจในหกเดือนที่แล้วจาก 87 เป็น 89 โดยแปดในสิบของผู้บริโภคชาวไทยคิดว่าเศรษฐกิจของประเทศตนในขณะนี้อยู่ในภาวะถดถอย และสี่ในสิบของผู้บริโภคไม่เชื่อว่าประเทศของตนจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้ในอีกสิบสองเดือนข้างหน้า (ตารางที่2 )
จากการสำรวจยังพบว่าผู้บริโภคชาวไทย (72%) เชื่อว่าโอกาสทางด้านการงานภายใน 12 เดือนข้างหน้า จะไม่ค่อยดีหรือแย่ และผู้บริโภคชาวไทย (68%) เชื่อว่าในช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสมที่จะซื้อสิ่งของที่พวกเขาต้องการภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดยพบผู้บริโภคชาวไทยกว่าครึ่ง (58%) มีความประสงค์จะเก็บเงินในส่วนที่เหลือเพื่อเก็บออมหลังจากใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
“สิบสองเดือนที่ผ่านมาสำหรับผู้บริโภคทั่วโลกนั้นเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างวุ่นวายสับสน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยเช่นกันเนื่องจากระบบเศรษฐกิจมีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับความต้องการของตลาดโลก แต่ในด้านดีที่เราพบก็คือ กว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคชาวไทยมีความมั่นใจเกี่ยวกับสภาพทางการเงินของตนเองสำหรับปีหน้า และผู้บริโภคชาวไทยเพียงแค่ 5% กล่าวว่าพวกเขาไม่มีเงินเหลือเก็บเลย” นางจันทิรา กล่าวเสริม
ปัญหาที่กังวลมากที่สุดในอีกหกเดิอนข้างหน้า
เมื่อถามว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาเป็นกังวลมากที่สุดในอีกหกเดือนข้างหน้า ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจจัดอยู่ในลำดับแรกที่ผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงผู้บริโภคชาวไทยกังวลมากที่สุด โดยพบผู้บริโภคชาวไทย (40%) กังวลเรื่องเศรษฐกิจ รองลงมาคือความไม่มั่นคงทางการเมือง (27%) ราคาน้ำมัน ( 20%)ปัญหาหนี้สิน ( 18%) และความมั่นคงในงาน ( 16%) ตามลำดับ
โอกาสทางการตลาดในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
เมื่อถามถึงจุดมุ่งหมายในการใช้จ่าย ผู้บริโภคชาวไทย กว่าครึ่ง (58%) มีความประสงค์จะออมเงินหลังจากใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคชาวไทยสนใจที่จะลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ( Retirement Funds) เป็นจำนวนมาก
ในขณะเดียวกัน จากผลสำรวจของนีลเส็นจะสังเกตุได้ว่า ผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้ตั้งใจจะหยุดการใช้จ่ายทั้งหมด แต่ยินดีที่จะจับจ่ายใช้สอยหากมีข้อเสนอที่ดี ถึงแม้ว่าผู้บริโภคจะอยู่ในช่วงความรู้สึกที่ต้องระมัดระวังในการใช้จ่าย เรายังคงเห็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทท่องเที่ยว กลุ่มผู้ค้าปลีก กลุ่มด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยี่ เนื่องจากผู้ ผู้บริโภคชาวไทยยังคงสนใจกับการใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยวและการพักผ่อนหย่อนใจ (51%) การปรับปรุงและตกแต่งบ้าน (34%) และสินค้าทางด้านเทคโนโลยี่ (32%) ตามลำดับ
ในขณะที่ไม่มีใครสามารถจะคาดการณ์ได้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจของโลกจะยืดเยื้อไปอีกนานเท่าไร นีลเส็นได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย พบว่า ผู้บริโภคชาวไทยได้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยพบว่าพวกเขาได้ตัดค่าใช้จ่ายในเรื่องต่อไปนี้ (ตารางที่3 )
ประหยัดไฟ (60%)
ลดการออกไปหาความบันเทิงนอกบ้าน (57%)
ซื้อเสื้อผ้าใหม่น้อยลง (56%)
ใช้รถยนต์น้อยลง (49%)
ลดค่าโทรศัพท์ ( 44%)
นางจันทิรา กล่าวเสริมว่า “การอยู่ในบ้านจะเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับผู้บริโภคในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งเทรนด์นี้ก็ถิอเป็นโอกาสทางการตลาดใหม่ๆที่ดี สำหรับธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จที่มีคุณภาพสูง รวมถึงทางเลือกของสิ่งบันเทิงใหม่ๆ ซึ่งเจาะกลุ่มเฉพาะเพื่อความบันเทิงในบ้าน ”
ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังชะลอตัว สิ่งที่สำคัญสำหรับนักการตลาดที่ควรนึกถึงก็คือ ช่องว่างและโอกาส บริษัทที่ยังคงลงทุนในผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของตน และยังคงรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายของตนอย่างต่อเนื่องในช่วงภาวะวิกฤตินี้ได้ก็จะเป็นผู้ชนะ เนื่องจากผู้บริโภคจะจดจำบริษัทและสินค้าที่เข้าใจความต้องการที่เปลี่ยนไปของพวกเขาในช่วงวิกฤตินี้ สำหรับนักการตลาด ไม่มีอะรที่จะเป็นสิ่งสำคัญมากไปกว่าการที่จะสร้างและรักษาความภักดีต่อแบรนด์ในสภาวะเศรษฐกิจ เช่นนี้ เพื่อวันที่ดีกว่าข้างหน้า”
เกี่ยวกับนีลเส็น
บริษัทนีลเส็น จำกัด เป็นบริษัทเกี่ยวกับสื่อและข้อมูลทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงการตลาดเป็นอย่างดีอาทิ “เอซีนีลเส็น” ซึ่งให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลทางการตลาด , “นีลเส็นมีเดีย รีเสริช” ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลทางสื่อ “BASES” ให้บริการเกี่ยวกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ( New product launch ) , สิ่งพิมพ์ทางธุรกิจอาทิ Billboard, The Hollywood Reporter และ Adweek รวมถึง Trade show และส่วนงานหนังสือพิมพ์ ( Scarborough ) โดยเป็นบริษัทเอกชนที่เปิดดำเนินการมากกว่า 100 ประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Haalem เนเธอร์แลนด์ และ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nielsen.com
ประเทศ ระดับความเชื่อมั่นครึ่งหลังของปี2551
อินเดีย 114
เดนมาร์ก 112
อินโดนีเซีย 110
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 110
นอร์เวย์ 109
บราซิล 109
ออสเตรเลีย 104
รัสเซีย 104
ฟิลิปปินส์ 102
เนเธอร์แลนด์ 99
โปแลนด์ 98
นิวซีแลนด์ 98
เวียดนาม 97
สวิตเซอร์แลนด์ 97
แคนาดา 96
โคลัมเบีย 96
จีน 96
เวเนซูเอล่า 96
CONTACT: สำหรับเผยแพร่ทันทีนิจวรรณ คูหา ( นิกกี้ ) Email: [email protected]
Tel:02-674-6000 ext.5131 or 089-772-7707