กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
“การทำอาหารของผม เปรียบได้กับหม้อปรุงอาหารที่ผสมผสานไปด้วยหลากหลายวัฒนธรรม” ซูซูร์ ลี กล่าวอธิบายถึงความสามารถของเขา เขาเป็นเจ้าแห่งการทำอาหารฟิวชั่นที่มีต้นกำเนิดในประเทศฮ่องกง ลุฟท์ฮันซ่าสตาร์เชฟคนใหม่นี้จะทำหน้าที่ให้บริการผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจด้วยอาหารชั้นยอดที่จะมาให้บริการบนเครื่องบินในเที่ยวบินออกจากเยอรมันนีในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อาหารเรียกน้ำย่อยที่เสริฟในชั้นหนึ่งมีทั้ง tomato chutney หรือ mango salad ไปจนถึง marinated halibut with wild rice และ mushroom ragout served with potato and celery ragout ส่วนชั้นธุรกิจนั้นมี chocolate espresso pav? with cilantro and strawberry coulis ในอาหารแต่ละจานของ ซูซูร์ ลี นั้นจะมีการผสมผสานกันระหว่างกลิ่นอายการปรุงรสแบบตะวันออกไกล และตำรับการปรุงอาหารแบบยุโรปดั้งเดิม
ซูซูร์ ลีเกิดในประเทศฮ่องกงในปีพ.ศ. 2501 เขาเป็นลูกคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมด 4 คน เขาได้เรียนรู้ศิลปะการทำอาหารจากการฝึกทักษะในฐานะผู้ช่วย (apprentice) ที่โรงแรมเพนนินซูล่า โฮเต็ล ในฮ่องกงอันมีชื่อเสียงในปีพ.ศ. 2515 6 ปีหลังจากนั้น เขาได้อพยพถิ่นฐานมายังประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นที่ที่เขาสร้างชื่อเสียงในฐานะพ่อครัวใหญ่ในภัตตาคารหลายแห่ง ก่อนที่เขาจะเปิดร้านเป็นของตัวเองในปีพ.ศ. 2530 ร้าน “ซูซูร์” ได้รับความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น และหลังจากนั้นไม่นานร้านดังกล่าวก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารชั้นเลิศที่ดีที่สุดในเมืองโตรอนโต และยังได้รับการกล่าวขานนี้อยู่ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นิตยสาร “Restaurant“ ของอังกฤษได้จัดอันดับให้ร้าน “ซูซูร์” เป็นหนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก และ นิตยสาร “Food & Wine“ จัดให้ ซูซูร์ ลี เป็นหนึ่งใน “พ่อครัว 10 อันดับชั้นนำ” ของโลก ในปีพ.ศ. 2547 พ่อครัวผู้เต็มไปด้วยนวัตกรรมอันไม่สิ้นสุดคนนี้ ได้เปิดร้าน “Lee” ขึ้น ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ราคาไม่แพงมากนักเมื่อเปรียบกับร้านในเมืองใหญ่ๆ แขกจะได้ลิ้มรสอาหารในจานเสิร์ฟขนาดย่อมหลากหลายจาน ในร้านอาหารแนวใหม่แห่งนี้ ซูซูร์ ลีได้สร้างสรรค์อาหารที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกเช่นเดียวกัน โดยเขาได้ใช้เครื่องเทศจากทั่วโลก และส่วนผสมทั้งหวาน เปรี้ยว มีรสผลไม้ และเผ็ดร้อน ในการปรุงอาหารแบบมิติใหม่ แต่ซูซูร์ ลีไม่ได้ผสมผสานเครื่องปรุงและวิธีการปรุงอาหารโดยไม่มีรูปแบบ ในฐานะเจ้าแห่งศิลปะการประกอบอาหาร เขารู้ซึ้งถึงรากฐานของวัฒนธรรมและมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการประกอบอาหารแนวฟิวชั่น
เมนูกว่า 300,000 ชนิดที่สรรค์สร้างโดย ซูซูร์ ลี จะคอยบริการท่านบนเที่ยวบินชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจของลุฟท์ฮันซ่าในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคมนี้
โปรแกรมลุฟท์ฮันซ่าสตาร์เชฟ: มื้ออาหารที่เปลี่ยนการเดินทางบนฟากฟ้าให้เป็นความพิเศษ
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 สายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้ยกระดับการบริการด้านอาหารสูงขึ้นอีกขั้นสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ ด้วยรายการอาหารที่รังสรรค์โดยเชฟมือหนึ่งจากทั่วโลก ทำให้เที่ยวบินของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าเป็นประสบการณ์ชั้นเลิศอย่างแท้จริง โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่าได้คัดสรรเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุด เพื่อให้ผู้โดยสารได้พบกับรสชาติแบบท้องถิ่นโดยฝีมือระดับสุดยอด งานสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษ์สูงส่งของเชฟแต่ละท่านล้วนได้รับเลือกสรรมาเพื่อโปรแกรมสตาร์เชฟโดยเฉพาะ จนถึงปัจจุบันนี้ ได้มีพ่อครัวที่มีชื่อเสียงจากนานาชาติที่ได้เข้าร่วมถือตำแหน่งลุฟท์ฮันซ่า สตาร์เชฟ เช่น ฮาราลด์ โวลฟาร์ต (ไบเออร์สบรอน) ดีเทอธ์ มุลเลอร์ (เบอร์กิช กลาดบาค ) แฟรงค์ ซลอมเก้ (พาร์ล แอฟริกาใต้) แดเนียล บูลูด (นิวยอร์ค) และ ปอล โบคูส (ลียง) นอกจากนั้น ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2548 พ่อครัวมีชื่อเสียงจากทั่วโลกได้สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษให้กับเส้นทางการบินระยะยาวจากเยอรมัน โดยเมนูเหล่านี้จะสะท้อนให้เห็นถึงรสนิยมและประเพณีการปรุงอาหารประจำจุดหมายปลายทางต่างๆ
บรรยายภาพ : ลุฟท์ฮันซ่า สตาร์ เชฟ ซูซูร์ ลี ผู้ที่จะมานำเสนออาหารที่ปรุงแต่งขึ้นจากความสร้างสรรค์แบบจีน ผสมผสานกับสไตล์ยุโรปดั้งเดิมสำหรับผู้โดยสารของลุฟท์ฮันซ่าบนเส้นทางการบินระยะยาวออกจากเยอรมันนีบนชั้นหนึ่ง และชั้นธุรกิจ*
ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการเที่ยวบิน ไป-กลับระหว่างกรุงเทพฯ และ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ทุกวัน โดย 3 เที่ยวบินสามารถเชื่อมเส้นทางต่อไปยังนครโฮจิมินท์ และอีก 4 เที่ยวบินสามารถเชื่อมเส้นทางต่อไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ เส้นทางการบินดังกล่าวทำให้สายการบินลุฟท์ฮันซ่าถือเป็นสายการบินยุโรปชั้นนำที่ให้บริการในภูมิภาคนี้ ด้วยเที่ยวบินเชื่อมต่อที่มากที่สุดไปสู่และจากทวีปยุโรป รวมทั้งไปสู่เมืองสำคัญอีกสองเมืองภายในภูมิภาค
โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด