กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--ปภ.
กรมป้องกันฯ รายงาน 15 จังหวัดยังประสบภัยน้ำท่วม ได้ประสานการแบ่งภารกิจการช่วยเหลือให้ชัดเจน เปิดรับการแจ้งข้อร้องเรียน จัดชุดเยี่ยมเยียน สร้างขวัญกำลังใจ และเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม ขณะนี้ จ่ายไปแล้ว 180รายเป็นเงิน 4.775 ล้านบาท พร้อมสนับสนุนถุงยังชีพ 80,000 ชุด ย้ำให้ดูแลผู้ประสบภัยจนเข้าสู่ภาวะปกติ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. — 14 พ.ย. 2549 มีพื้นที่ประสบภัย 47 จังหวัด 406 อำเภอ 32 กิ่งอำเภอ 2,648 ตำบล 16,085 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 4,296,017 คน 1,217,693 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 254 คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 6,046,111 ไร่ มูลค่าความเสียหายในเบื้องต้น 6,432,561,892 บาท สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 32 จังหวัด ยังมีพื้นที่ประสบภัย 15 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และกรุงเทพฯ จำนวน 66 อำเภอ 12 เขต ราษฎรเดือดร้อน 1,180,806 คน 378,389 ครัวเรือน โดยสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี ระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปทุมธานี นนทบุรี ระดับน้ำยังทรงตัว เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาภาวะน้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำระบายลงสู่ทะเลได้ล่าช้ากว่าปกติ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในนครปฐม และสุพรรณบุรี ซึ่งเกิดจากการระบายน้ำจากทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อดันน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงน้ำลด กรมป้องกันฯ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 642 คน เครื่องจักรกล 171 คัน เรือท้องแบน 174 ลำ เข้าฟื้นฟูสภาพพื้นที่ประสบภัยให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็ว พร้อมติดตั้งเต็นท์ยกพื้น เพื่อให้ประชาชนได้อาศัยเป็นการชั่วคราวแล้ว 555 หลัง และจัดส่งถุงยังชีพ จำนวน 80,359 ชุด ไปสนับสนุนจังหวัดที่ประสบภัย คิดเป็นมูลค่ากว่า 41.6 ล้านบาท รวมทั้งได้จ่ายเงินค่าจัดการศพ 180 ราย เป็นเงิน 4,775,000 บาท คงเหลืออีก 74 ราย ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ จังหวัดที่ประสบภัยได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในด้านต่างๆ ไปแล้ว 364.32 ล้านบาท
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน กรมป้องกันฯ ได้แจ้งจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 47 จังหวัด ให้แต่งตั้งคณะกรรมการด้านต่างๆ จำนวน 13 คณะ จะได้รองรับกับภารกิจของคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) เพื่อดำเนินการสำรวจความเสียหาย และบูรณาการการช่วยเหลือ จัดทำแผนงาน โครงการช่วยเหลือและฟื้นฟู ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน แล้วประสานขอสนับสนุนงบประมาณ จากส่วนราชการที่รับผิดชอบ จากนั้นจึงเสนอให้ คชอ. ทราบ ส่วน 15 จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน ได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ระดับจังหวัด / อำเภอ / กิ่งอำเภอ แบ่งภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ชัดเจน ประกอบด้วย ฝ่ายประสานการปฏิบัติ ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝ่ายปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ รวมทั้งให้มีการรับแจ้งข้อร้องเรียนความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำไปแก้ไข และให้การช่วยเหลือได้ตามความต้องการของผู้ประสบภัยอย่างแท้จริง ตลอดจนจัดชุดเยี่ยม เพื่อดูแลปัญหาสุขภาพ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้การช่วยเหลือสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต และสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ตลอดจนเร่งรัดการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย เพื่อให้ญาติได้มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวในระหว่างที่ประสบภัย