กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--อาร์เอส
“อาร์เอส” ตอกย้ำวิชั่นผู้นำ Entertainment Content Provider ดึง “ซึทาญ่า” เป็นพันธมิตร ร่วมเปิดตลาดใหม่ Music Rental ครั้งแรกของเมืองไทย “ให้บริการเช่าซีดี-วีซีดีคาราโอเกะเพลง” ทุกสาขาทั่วประเทศไทย เพิ่มช่องทางขายคอนเทนต์ กระตุ้นยอดขายเพลงพุ่ง สอดรับโมเดลธุรกิจใหม่ “บริหารสินทรัพย์ทำรายได้ 360 องศารอบตัว”
ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับบริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าซีดี-วีซีดีคาราโอเกะเพลง (Music Rental) ถือเป็นการบุกเบิกเปิดตลาดใหม่ครั้งแรกของเมืองไทย
สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ เป็นการนำซีดี-วีซีดีคาราโอเกะเพลงของกลุ่มศิลปินในเครืออาร์เอส ซึ่งปกติวางจำหน่ายตามแผงเทปทั่วไป มาเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางกระจายสินค้าให้เข้าถึงตัวผู้บริโภค ด้วยการให้บริการเช่าตามร้านซึทาญ่าทั่วประเทศกว่า 260 สาขา ในลักษณะเดียวกับการให้บริการเช่าภาพยนตร์ โดยคิดอัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 20 บาทต่อแผ่นต่อวัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันเปิดให้บริการ Music Rental แล้ว 8 สาขา และจะเปิดให้บริการได้ถึง 24 สาขา ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2549 โดยศิลปินกลุ่มแรกที่จะนำซีดี-วีซีดีคาราโอเกะเพลงไปให้บริการเช่า ได้แก่ ลิเดีย แดน-บีม โปงลางสะออน ฯลฯ พร้อมทั้งในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ได้จัดกิจกรรมทางการตลาด คือ ลูกค้าสามารถเช่าซีดี-วีซีดีคาราโอเกะเพลง ที่ร้านซึทาญ่าได้ในราคาพิเศษเพียง 10 บาทต่อแผ่นต่อวันเท่านั้น
สาเหตุที่อาร์เอสสนใจบุกเบิกตลาดใหม่ Music Rental เนื่องจากมองว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางกระจายสินค้าให้เข้าถึงตัวผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับโมเดลธุรกิจใหม่ “บริหารสินทรัพย์ทำรายได้ 360 องศารอบตัว” เพื่อตอกย้ำวิชั่นของบริษัทในการเป็นผู้นำทางด้าน Entertainment Content Provider
“ เรามั่นใจว่าการจับมือกับซึทาญ่า ซึ่งเป็นผู้นำตลาดร้านให้บริการเช่าหนัง ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ โดยร่วมบุกเบิกเปิดตลาดใหม่ Music Rental จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ยอดขายเพลงเพิ่มขึ้นด้วย เช่น เมื่อผู้บริโภคเช่าซีดี-วีซีดีคาราโอเกะไปฟังแล้ว เกิดชื่นชอบก็ต้องอยากซื้อเก็บไว้เป็นของตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จในท้ายที่สุดอย่างแน่นอน ” นายสุรชัยกล่าว
ด้าน นายวันชัย พละพงค์พานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดศูนย์เช่าเพลง, คาราโอเกะ และคอนเสิร์ต จะให้ประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยตรงคือ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบการฟังเพลง ได้มีโอกาสพิสูจน์คุณภาพของเพลงทั้งอัลบั้มก่อนซื้อเป็นเจ้าของ รวมทั้งมีแหล่งรวมของเพลงในทุกแนวให้ได้ทดลองฟังเพลงในสไตล์ที่หลากหลายจากแนวเพลงปกติที่ฟังอยู่ รวมถึงบริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้กลุ่มอิสระที่สร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาได้มีเวทีสำหรับการเผยแพร่ผลงาน บริษัทฯ คาดว่าในอนาคตผลดีที่จะได้รับตามมาคือ ตลาดเพลงเมืองไทยจะเปิดกว้างขึ้น ผู้บริโภคไม่ยึดติดกับแนวเพลงใดแนวเพลงหนึ่ง ทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานสามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพและหลากหลายได้ตามจินตนาการ
นายวันชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการเพลงไทย ที่ได้รับแบบอย่างมาจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ทางบริษัทฯ จึงนำแนวคิดมาปรับให้สอดคล้องกับกลุ่มผู้บริโภคของเมืองไทย ทั้งนี้แนวคิดดังกล่าวสามารถเกิดเป็นจริงได้ก็เนื่องมาจาก บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากอาร์ เอส และพันธมิตรค่ายเพลงชั้นนำในประเทศไทยในการผลักดันให้ศูนย์เช่าเพลงดังกล่าวเกิดขึ้นได้
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net