กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน การจัดประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 1 มีการพิจารณานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาวะคนไทยในวาระ 12 ประเด็นด่วน รวมทั้ง 2 วาระเร่งด่วน ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย โดยทางสำนักงานวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพได้นำเสนอวาระเร่งด่วนเรื่อง “การแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยและญาติกับบุคลากรทางแพทย์” เข้าพิจารณาในที่ประชุมครั้งนี้ด้วย ก่อนการพิจารณาผ่านการรับรองมติจากที่ประชุมใหญ่ มีการประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินการประชุม คณะที่ 2 ในวาระดังกล่าว โดยปรากฎว่าสมาชิกซึ่งมาจากเครือข่ายเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้แสดงความเห็นหลากหลาย ขอเพิ่มเติม และเปลี่ยนแปลงมติเดิมเนื่องจากที่ผ่านมามีการฟ้องร้องระหว่างผู้ป่วย และญาติ กับ แพทย์ผู้ให้การรักษาปรากฎเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องรวมถึงกรณีที่ผู้ป่วยซึ่งเป็นผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบการร้องเรียน
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตัวแทนเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคทั่วไป กล่าวแสดงความเห็นว่า ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว ซึ่งไม่มองเรื่องระบบสุขภาพที่ใช้เงินเป็นตัวตั้ง ปัญหาจากการใช้บัตรทอง บัตรข้าราชการ ทำให้คนไข้เกิดความรู้สึกว่าได้รับการบริการที่แตกต่าง สิ่งนี้คือหัวใจสำคัญที่เอกสารมติไม่ได้พูดถึง
อีกทั้งความเชื่อมั่นจากประชาชนที่ใช้บริการจากหน่วยงานให้บริการทางการแพทย์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะจากสาขาวิชาชีพต่างๆ มีการปกป้องกันเอง ไม่ดูแลและเห็นแก่ผู้ป่วยในฐานะผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย เช่นในเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยถูกผ่าท้องโดยไม่จำเป็น แล้วร้องไปยังสภาวิชาชีพ แต่กลับได้รับคำตอบว่าเป็นการวินิจฉัย เมื่อมีการร้องไปยังกระทรวงสาธารณสุขก็ระบุว่าไม่ได้ละเมิดให้ไปร้องต่อศาลปกครอง 6 ปีที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้รับคำตอบแท้จริง เป็นปัญหาเรื่องของการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบบทั้งจากหน่วยงานเกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข
อย่างไรก็ตามอยากผลักดันให้มติที่ออกมา ให้มีตัวแทนจากบุคคลภายนอกเข้าร่วมอยู่ในสภาวิชาชีพทางด้านการแพทย์ในสัดส่วนที่เหมาะสม เกิดกลไกการถ่วงดุลและมีความเข้มแข็งในการคุ้มครองดูแลผู้เสียหาย รวมทั้งให้ระบุว่าให้ประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนในการรักษาพยาบาลอย่างชัดเจน
ด้านนางปรียานันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวเสริมว่า ในฐานะเครือข่ายที่มาจากการรวมตัวของผู้เสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ แต่กลับไม่ได้มีส่วนร่วมร่างมติ จึงอยากขอโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงบางส่วน ที่มติขาดหายไป ไม่ใช่แค่ได้รับเชิญไปร่วมประชุมและมีฐานะเพียงแค่ไม้ประดับ ได้แสดงความเห็นแต่ไม่มีการบันทึกในรายงานการประชุม ที่ผ่านมาประเทศเรายังไม่เคยเปิดเผยสถิติสาเหตุการตายมาก่อน แต่ในอเมริกาสาเหตุการตายอันดับต้นคือ มาจากความผิดพลาดจากการรักษาของบุคลากรทางการแพทย์ ตรงนี้คือปัญหาทับซ้อนที่ซุกใต้พรม เป็นความผิดพลาดทางการแพทย์ รวมถึงมีความฉ้อฉลของกลไกที่ดูแลปัญหา แม้กระทั่งการเข้าถึงความเป็นธรรมก็เป็นเรื่องยากยิ่ง นอกจากนี้ในสภาวะที่บุคคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ในภาครัฐถูกดูดไปสู่ภาคเอกชนที่ไม่ได้เป็นผู้ลงทุนผลิตบุคคลากร ทำให้การกระจายการบริการทางการแพทย์ไม่ทั่วถึง อีกทั้งคุณภาพของแพทย์ก็ลดลง ตรงนี้เอกสารมติก็ไม่ได้พูดถึง อยากให้รับฟังความเห็นจากพวกเราบ้างในฐานะผู้มีส่วนได้เสียให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด
ต่อมาแพทย์ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่ายจากจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวยอมรับว่า ในสภาวะที่เป็นอยู่นั้นปริมาณงานกับจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ไม่สมดุล จำนวนแพทย์มีน้อยต้องทำทั้งงานบริหารและการรักษา ขณะที่หมอใหม่ๆ ก็ไม่มีประสบการณ์ในการรักษาอย่างที่ผู้ป่วยคาดหวัง ประกอบกับโรคที่ซับซ้อนก็เยอะ เชื่อว่าไม่มีแพทย์คนไหนอยากเลี้ยงไข้ เมื่อคนไข้รุกมาก หมอที่ประจำอยู่ตามอำเภอก็พากันลาออกจำนวนมาก บอกว่าไม่ประกอบอาชีพแพทย์แล้ว แต่ขอไปเป็นอาจารย์สอนดีกว่า จึงอยากขอให้พูดเรื่องนี้อย่างสร้างสรรค์ช่วยกันมองปัญหา อย่าตำหนิทุกเรื่อง ถ้าไม่เห็นใจต่อไปคนไข้ก็จะเดือดร้อน โดยเฉพาะในชนบทซึ่งขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์
อย่างไรก็ตามแม้สมาชิกเครือข่ายที่เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการดำเนินการประชุมวาระดังกล่าวจะแสดงความเห็นหลากหลาย แต่ที่สุดก็มีความเห็นร่วมกันในการผ่านมตินี้ และนำเข้าสู่ที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติเพื่อพิจารณารับรองมติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 13.00 น. คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้รับรองมติในประเด็นความสัมพันธ์ กรณีการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยและญาติกับบุคลากรทางแพทย์ซึ่งจะมีการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
orathai
เบอร์โทรศัพท์ : 087-5859088