กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม
มีน เด็กหนุ่มวัยรุ่น อายุ 16 ปี ได้ย้ายบ้านจากกรุงเทพมาอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากอาชีพของพ่อมีน ด้วยความที่มีนค่อนข้างจะเรียบร้อยจนดูว่าไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใครเขา แถมยังเป็นเด็กจากกรุงเทพเสียอีก จึงเป็นจุดสนใจของเด็กนักเรียนเจ้าถิ่นอย่างอู๊ด แอนด์ เดอะแก๊งค์ อันประกอบไปด้วย อู๊ด เด็กหนุ่มหัวโจก แม้ว่าภายนอกจะดูค่อนข้างเกเร แต่ก็มีจิตใจดี รักยายตัวเองเป็นที่สุด, ตี๋ ลูกไล่ของอู๊ด และแว่น นักประดิษฐ์ประจำกลุ่ม คอยกลั่นแกล้งสารพัด มาวันหนึ่งมีนได้ช่วยเหลือย่าของอู๊ดจากการเป็นลมไว้จึงทำให้ทั้งสองเริ่มเข้าหากัน และกลายเป็นเพื่อนสนิทต่อมา
เช่นเดียวกับวัยรุ่นทั่วไป มีนไปชอบเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อฟาง ฟางเป็นนางรำของโรงเรียนและสิ่งนี้เองที่เป็นสาเหตุให้มีนแอบชอบฟางนับแต่เห็นครั้งแรก แต่ว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายนัก เพราะว่าการจะเข้าให้ถึงฟางนั้นต้องผ่านด่านสาหัสมาให้ได้ก่อน ซึ่งก็คือ กำนันเปี๊ยก พ่อของฟางนั้นเอง เนื่องจากฟางเป็นลูกคนเดียว กำนันเปี๊ยกจึงให้ความดูแล ทะนุทนอมอย่างมาก แม้ว่าฟางเองจะดูมีใจให้กับตัวมีนไม่ใช่น้อย ภาระสำคัญจึงต้องตกมาเป็นหน้าที่ของอู๊ดและเพื่อนในการหาวิธีให้มีนผ่านกำนันเปี๊ยกไปให้ได้ ทั้งช่วยงานในฟาร์ม สรรหาวิธีหลอกล่อสารพัด จนกระทั่งเป็นเหตุให้กำนันเปี๊ยกเสียหน้าครั้งใหญ่ต่อหน้าครูอาจารย์ พาลโมโหถึงขนาดไม่ให้ลูกสาวมาโรงเรียนเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเจอกับมีนอีก
ถึงมีนจะยังคงเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเพียงใด มีนก็ยังคงพยายามหาหนทางเพื่อให้เขาและฟางได้กลับมาพบหน้าพูดคุยกันอีกครั้ง แล้วมีนก็ได้ตระหนักว่าอุปสรรคครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่พ่อของฟางอีกต่อไป แต่อยู่ที่ตัวของฟางเองต่างหาก!!!
รายชื่อนักแสดง
1. พร้อมพล สิทธิมงคล (แต้งค์) แสดงเป็น มีน
2. กนกวรรณ ธนันไชย (มด) แสดงเป็น ฟาง
3. ธนมิตร เรืองหิรัญ (ซี) แสดงเป็น อู๊ด
4. เอกพล ปิญชากุล (เอก) แสดงเป็น แว่น
5. จักรพงษ์ ตันรัตนกุล (เกมส์) แสดงเป็น ตี๋
6. รัฐพล ฐานวิเศษ (โจ) แสดงเป็น โจ (กลุ่มเพื่อนมีน1)
7. อนุรักษ์ ขุนปัญญา (ออม) แสดงเป็น ออม (กลุ่มเพื่อนมีน2)
8. หัสดิชัย จีรัตน์ (นุ๊ก) แสดงเป็น นุ๊ก (กลุ่มเพื่อนมีน3)
9. รุ่งทิวา ดวงคำ (รุ่ง) แสดงเป็น ติ๋ม (กลุ่มเพื่อนฟาง1)
10.เพ็ญนภา วงศ์คม (แจ๋วแหว๋ว) แสดงเป็น แจ๋วแหว๋ว (กลุ่มเพื่อนฟาง2)
11.สุชานรี สุรางค์ (บี) แสดงเป็น บี (กลุ่มเพื่อนฟาง3)
12.ประทุมมา พิมใจ (ตอย) แสดงเป็น ตอย (กลุ่มเพื่อนฟาง4)
13.ภาณุวัฒน์ ใจแก้ว (ภา) แสดงเป็น เพชร (รุ่นพี่)
14.พิษณุ ธุวะวิทย์ (ณุ) แสดงเป็น ณุ (เพื่อนในกลุ่มรุ่นพี่1)
15.ภาณุวัฒน์ ศรีเทศ (คิม) แสดงเป็น คิม (เพื่อนในกลุ่มรุ่นพี่2)
16.จักรกฤษณ์ ดรงค์ดุษฎี (กฤษ) แสดงเป็น กฤษ (เพื่อนในกลุ่มรุ่นพี่3)
17.อมร อุตศรี (แตมป์) แสดงเป็น แตมป์ (เพื่อนในกลุ่มรุ่นพี่4)
18.ชนินทร์ ทารักษา (ไม้) แสดงเป็น ไม้ (เพื่อนในกลุ่มรุ่นพี่5)
19.จิรพรรณ ช่างสม (อ.เล็ก) แสดงเป็น แม่มีน
20.บุญภาค ปัญญาธรรม (อ.อ้วน) แสดงเป็น พ่อมีน
21.ชยนันต์ ผดุงแสง (อ.แดงต้อย)แสดงเป็น แม่ฟาง
22.อภิชาติ ชูสกุล (พี่หมึก) แสดงเป็น พ่อฟาง
23.อรนงค์ ขาลสุวรรณ (อ.ตุ้ม) แสดงเป็น อาจารย์ประจำชั้น
24.นิคม เมฆะ (อาจารย์คม) แสดงเป็น อาจารย์ใหญ่
25.บุญส่ง พลวัน แสดงเป็น ย่ามีน
26.จันทร์ศรี ขัติครุฑ แสดงเป็น ยายอู๊ด
27.พงษ์เทพ ลอยประเสริฐ (พี่พงษ์)แสดงเป็น อาจารย์พละ
28.ภิญโญ อันอดิเรกกุล (พี่โญ) แสดงเป็น พ่อตี๋
29.ยุภา แก้วยิ้ม (พี่มดดำ) แสดงเป็น ป้าเหี้ยม
30.น้ากรอย แสดงเป็น ลุงดอน (คนขับรถ)
31.น.พ วิสิทธิ์ เลิศสุวรรณ แสดงเป็น คุณหมอ
32.จริพรรณ แสงหล้า แสดงเป็น อาจารย์บรรณารักษ์
33.เยาวทิวา นามคูณ แสดงเป็น อาจารย์ในโรงเรียน (กำนันโดนแป้ง)
ประวัติของคุณภราดร เล็กประเสริฐ
ระดับการศึกษา
- จบการศึกษาระดับมัธยมการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดม
- จบการศึกษาระดับอุดมศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาสื่อสารมวลชน (ภาพยนตร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 12
ชีวิตในวงการภาพยนตร์
เริ่มมาจากทางบ้านเป็นสายหนังของเหนือ ในนามของ “พิศมัยฟิล์ม” โดยเริ่มเข้ามาทำภาพยนตร์ครั้งแรกจากการชักชวนของอาจารย์วิจิตร คุณาวุฒิ ตอนนั้นคุณภราดร กำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลาย ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้ทำกับอาจารย์วิจิตร คือ เรื่อง “น้ำเซาะทราย” สร้างในปี พ.ศ. 2517 โดยเริ่มรับผิดชอบในหน้าที่ของเด็กเสริฟน้ำในกองถ่าย ตลอดการทำงานในช่วงนั้นคุณภราดรได้รับการถ่ายความรู้จากอาจารย์วิจิตร และการที่เป็นคนที่ช่างสังเกต มั่นคอยซักถาม ช่างจดจำและมีความสนใจ มุ่งมั่นในงานด้านภาพยนตร์ จึงทำให้เป็นที่เชื่อใจของอาจารย์วิจิตร คุณาวุฒิ ที่จะถ่ายความรู้ให้ทุกอย่าง ในส่วนของการถ่ายภาพยนตร์คุณภราดร ได้รับความรู้จากอาจารย์ปรีชา ทรัพย์พะวงศ์ โดยมีอาจารย์วิจิตรช่วยสนับสนุน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกที่จะศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่เกี่ยวกับสาขาการสร้างภาพยนตร์
ประมาณปี พ.ศ. 2522 คุณภราดรได้ช่วยอาจารย์วิจิตร คุณาวุฒิ ทำภาพยนตร์ เรื่อง “คนภูเขา” ในตำแหน่งของผู้ช่วยผู้กำกับ ตอนนั้นคุณภราดรกำลังศึกษาในระดับชั้นปีที่3 ของคณะนิเทศศาสตร์ ภาควิชาสื่อสารมวลชน (ภาพยนตร์) คุณภราดรได้ช่วยงานของอาจารย์วิจิตรมาโดยตลอด ไม่เพียงแต่คุณภราดรเท่านั้นยัง มีครอบครัวของคุณภราดรที่มาช่วยงานในส่วนนี้
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่คุณภราดรทำด้วยตนเอง คือ เรื่อง “เสน่ห์บางกอก” แสดงนำโดยพระ-นางคู่ขวัญสมัยนั้น สรพงษ์ ชาตรีและเนาวรัตน์ ยุตนันท์ ต่อจากนั้นคุณภราดรได้สร้างภาพยนตร์อีกมากมายหลายเรื่อง ชีวิตคุณภราดรอยู่กับการสร้างภาพยนตร์มาโดยตลอด ในปี พ.ศ. 2530 ทางบ้านเลิกทำกิจการสายหนังภาคเหนือ แต่คุณภราดรก็ยังคงทำงานภาพยนตร์อยู่
ประมาณปี พ.ศ. 2534 — พ.ศ. 2535 วงการภาพยนตร์เริ่มประสบปัญหา เมื่อมีโทรทัศน์ และวีดิทัศน์ (VDO) เข้ามา คุณภราดรหักเหตนเองมาทำธุรกิจ เช่า ซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ อุปกรณ์เสียงและการติดตั้งทำเสียงโรงภาพยนตร์ ในระบบเสียง THX นอกจากนั้นยังประกอบธุรกิจรายการถ่ายทอดสดกีฬา เช่น ซีเกมส์ที่บรูไน เอเชียนเกมส์ที่กรุงเทพมหานคร เอเชียนเกมส์ที่ปูซาน เป็นต้น โดยคุณภราดรรับผิดชอบในตำแหน่งผู้กำกับรายการถ่ายทอด (Producer) แต่สำหรับงานในวงการภาพยนตร์นั้นคุณภราดรยังไม่ห่างหาย ยังมีการรับตัดต่อภาพยนตร์อยู่ เช่น เรื่อง “ไอ้ฟัก”
ส่วนการสร้างภาพยนตร์กับต่างประเทศนั้นคุณภราดร ก็ร่วมสร้างมาหลายเรื่อง เรื่องล่าสุดที่สร้าง คือ “Jorney from the fall” เป็นภาพยนตร์อเมริกัน-เวียตนาม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์หลังจากไซง่อนแตก โดยคุณภราดรรับผิดชอบในตำแหน่งผู้จัดการกองถ่าย (Line producer) และเป็นฝ่ายประสานงานในกองถ่าย
เหตุใดจึงคิดทำภาพยนตร์ เรื่อง “แค่เพื่อนค่ะพ่อ”
เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทยและผู้ชมภาพยนตร์ไทย อันจะทำให้เกิดความหลากหลายทางด้านความคิดและการนำเสนอ และยังเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ บริษัท รอยัลเบลล์ พิคเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นค่าหนังน้องใหม่ของวงการ ภายใต้การดูแล และผลิตของผมเองด้วยครับ
สิ่งที่อยากบอกกล่าวเกี่ยวกับภาพยนตร์ เรื่อง “แค่เพื่อนค่ะพ่อ”
ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการนำเสนอวัยรุ่นว่าในแง่มุม ของ ความรัก บริสุทธิ์ ความจริงใจที่มีให้กันเป็นอย่างไร และนำเสนอความรักใสๆ ที่แสนบริสุทธิ์ของวัยรุ่น ใน ชุดขาสั้น คอซอง เป็นกลิ่นไอของหนังไทยที่ห่างหายจากจอหนังบ้านเราไปนานหลายสิบปีแล้ว
ประวัติผู้กำกับการแสดง
ชื่อ นายวีรพงษ์ กาญจนานิจ
เกิด 20 กันยายน 2521
ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ
เกิดในครอบครัวคนจีน ฐานะทางบ้านปานกลาง พ่อกับแม่เปิดร้านบะหมี่ ใกล้ ๆ ปากซอยบ้านเป็นลูกชายคนเดียว มีพี่สาว 4 คน
ประวัติ
พ.ศ. 2527-2533 เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดไทร เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
พ.ศ. 2533-2536 เข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนวัดสระเกศ
พ.ศ. 2536-2539 เข้าเรียนระดับปวช.ที่เทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร สาขาการบัญชี
พ.ศ. 2540-2544 เข้าเรียนระดับอุดมศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
พ.ศ. 2544 เริ่มงานครั้งแรกกับบริษัท ซูเปอร์ฤทธิ์ ครีเอชั่น เป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์เล็ก ๆ รับผลิต งานโฆษณา สารคดี และวิดีโอพรีเซ้นท์เทชั่น สำหรับกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ ในตำแหน่ง Co-producer ผลงานที่ผ่านมาได้แก่
- รายการไฟฟ้าน่ารู้
- รายการบ้านฉลาดใช้
- รายการเปิดโลกการค้าเสรี
- รายการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ และอื่น ๆ
พ.ศ. 2545-2547
เริ่มงานกับบริษัทฮอทเฮ้าส์ จำกัด โดยการชักชวนของอาจารย์นพคุณ ทิพย์โกมุท อาจารย์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วงนั้นบริษัทของอาจารย์กำลังมีโปรเจค เทเลมูฟวี่ ของทางอาร์เอส เรื่อง พิซซ่า เลยได้มีอากาสทำงานที่ใกล้เคียงกับภาพยนตร์สักที โดยเริ่มต้นในตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายศิลป์ฯ แล้วก็ไต่เต้ามาเรื่อย ๆ จากผู้ช่วยฝ่ายศิลป์ ก็กลายเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ 2 ของเทเลมูฟวี่ เรื่อง “ผู้หญิงมนต์ดำ” จนกระทั่งได้เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ 1 กับโปรเจคเทเลมูฟวี่สามมิติของค่ายแมงป่อง เรื่อง “จองเวร” และยังมีโอกาสทำงานด้านตัดต่อรายการต่าง ๆ ของทางบริษัทด้วย แล้วก็ยังแอบเขียนพล๊อตภาพยนตร์เล็ก ๆ ไปเรื่อย
ผลงานกับบริษัทที่ผ่านมา
- Tele movie ชุด กรุงเทพฯ 1667 “the pizza man”
- สปอต 30 วินาที “pay at post”
- Tele movie “ผู้หญิงมนต์ดำ”
- มิวสิควิดีโอ Panjabi 5-0 ของศิลปิน Dum Dum Project
- 3D movie “จองเวร”
- สปอต 30 วินาที “ V Shop Mini Mart ”
- รายการ เดอะ แฟมิลี่ โชว์
พ.ศ. 2548
ด้วยการแนะนำของเพื่อน จึงมีโอกาสได้รู้จักกับ คุณภราดร เล็กประเสริฐ ที่ออฟฟิศ เซอร์ราวน์ ซึ่งขณะนั้นตนเองมีงานตัดต่อประจำก็คือรายการเดอะแฟมิลี่โชว์ แต่พอรู้ว่าจะได้ทำหนัง ก็เลยยกเลิกงานทั้งหมด มุ่งหน้าขึ้นเชียงใหม่ทันที ในฐานะผู้กำกับฯ “แค่เพื่อนค่ะพ่อ” ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม ดำเนินและถ่ายทำ 3 เดือนรวมคิวในการถ่ายทำทั้งหมด 45 คิว
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--