กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
“นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เผยรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าสามารถมีมาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ภายในเดือนมกราคมนี้ นอกเหนือจากการเร่งการปล่อยสินเชื่อให้ภาคที่อยู่อาศัยโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ 73,000 ล้านบาท และการเพิ่มอำนาจซื้อประชาชนผ่านการใช้งบประมาณกลางปี 115,000 ล้านบาท ”
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการเปิดการสัมมนาเรื่อง “นโยบายที่อยู่อาศัยประเทศไทย พ.ศ. 2552”วันศุกร์ที่ 16 มกราคม 2552 เวลา 13.00 น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ว่า นโยบายที่อยู่อาศัยมีความสำคัญต่อประเทศและการดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ เหมาะสมและรวดเร็ว สามารถช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจรวมทั้งปัญหาการจ้างงานที่จะนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่น ๆ
การดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลชุดนี้ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนบทบาทภาคเอกชน การร่วมงานของเอกชนและของรัฐ และการร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ของภาครัฐเพื่อให้การดำเนินงานมีทิศทางเดียวกันและเป็นไปอย่างมีเอกภาพ แก้ปัญหาของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงการคลังมีการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด กับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์และการเคหะแห่งชาติ ตลอดจนภาคเอกชน สำหรับแนวทางการดำเนินมาตรการในส่วนของกระทรวงการคลังที่สำคัญ 4 มาตรการดังนี้
มาตรการด้านการลดต้นทุนในภาคที่อยู่อาศัย โดยการสนับสนุนให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับต่ำและมีสินเชื่ออย่างพอเพียง สำหรับการพัฒนาและการซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งกระทรวงการคลังได้มอบนโยบายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เร่งการปล่อยสินเชื่อให้ภาคที่อยู่อาศัย อาทิ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อในปี 2552 ไว้ที่ 73,000 ล้านบาท การจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับโครงการคมนาคมต่าง ๆ ทั้งการกู้ในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ลดต้นทุนการขนส่งเดินทาง เพิ่มการซื้อขายที่ดินและการทำธุรกรรมด้านที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาลดภาษีสำหรับการหักค่าลดหย่อนสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสัปดาห์หน้า
มาตรการด้านการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน รัฐบาลมีมาตรการเพิ่มอำนาจซื้อให้ประชาชน ทั้งการเพิ่มงบประมาณกลางปี 115,000 ล้านบาท การเร่งรัดโครงการลงทุนของภาครัฐ รวมทั้งการใช้จ่ายต่าง ๆ ของภาครัฐ และการเร่งปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้และสร้างงานให้ประชาชน ส่งผลให้ประชาชนมีอำนาจซื้อมากขึ้น
มาตรการด้านการลดปัญหาอุปสรรคของภาคเอกชนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ทั้งการเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการแก้กฏระเบียบที่เป็นปัญหาอุปสรรค ตลอดจนการออกกฏหมายที่สนับสนุนการทำธุรกรรมในด้านที่อยู่อาศัย
มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ซึ่งมีการดำเนินการมาทุกรัฐบาล และรัฐบาลนี้ก็ผลักดันนโยบายนี้ต่อไป ในส่วนของกระทรวงการคลัง ธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินนโยบายนี้ ทั้งการคิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราพิเศษและการขยายระยะเวลาการผ่อนสำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำ และผู้มีรายได้น้อย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า รัฐบาลชุดนี้ มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และกำลังดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบ เหมาะสมและรวดเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถกลับมาขยายตัวได้ดีในกลางปีนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
กลุ่มการประชาสัมพันธ์
สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
0-2273-9763
www.mof.go.th