กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยตัวแทนบริษัท ไมโครซอฟ คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท โซลิคเวอร์ค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท อะโดบ และบริษัท ออโต้เดสค์ อิงค์ จำกัด ได้ร่วมกันตรวจค้นบริษัทต้องสงสัยซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พบการกระทำความผิดและของกลาง คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการติดตั้งโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน 170 เครื่อง ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายศุลกากร ภาษีอากร สรรพสามิต การคุ้มครองผู้บริโภคและการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการกระทำผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจาร พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. จึงกำชับให้กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (บก.ปศท.) เร่งรัด สืบสวน ปราบปราม ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.รุจิรัตน์ หลุ่มบุญเรือง ผบก.ปศท. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อลงกรณ์ หทัยยุทธ์ รอง ผบก.ปศท. พ.ต.อ.พิสิฐชัย โบสุวรรณ ผกก.2 บก.ปศท. เร่งรัดสืบสวน ปราบปราม จับกุมผู้กระทำผิดตามคำสั่งและนโยบายของผู้บังคับบัญชา จากการสืบสวนและวางสายลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปศท. และจากการประสานข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจับกุมกับกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟแวร์ หรือ BSA โดย มร. ดรุณ ซอว์นีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ประจำภูมิภาคเอเชีย และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) สมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย (ATCI) และคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์ และจำหน่ายสื่อลามกอนาจารให้กับประชาชนทั่วไปในจังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดปทุมธานี เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้วางแผนเข้าทำตรวจสอบ ผลปรากฏดังนี้ ทราบว่ามีการลักลอบ ทำซ้ำ ดัดแปลง (ติดตั้ง) โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัท ไมโครซอฟ คอร์ปอเรชั่น กับพวกในจังหวัดปทุมธานี เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงได้วางแผนเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นปรากฏดังนี้ รายที่ 1 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปศท. พร้อมด้วยผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ไมโครซอฟ คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท โซลิคเวอร์ค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท อะโดบ และบริษัท ออโต้เดสค์ อิงค์ จำกัด ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรีมาทำการตรวจค้นที่ บริษัท ต้องสงสัย ในจังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลการตรวจค้นพบการกระทำความผิดและของกลาง คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการติดตั้งโปรแกรมโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทผู้เสียหายจำนวน 79 เครื่อง จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว โดยอายัดไว้ในที่เกิดเหตุ แจ้งข้อหาให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ที่พบการกระทำความผิดและกรรมการบริษัทฯ ทุกคนในฐานะส่วนตัวว่า “ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการทำซ้ำดัดแปลง ซึ่งงานวรรณกรรม (โปรแกรมคอมพิวเตอร์)” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 รายที่ 2 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปศท. พร้อมด้วยผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ไมโครซอฟ คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท โซลิคเวอร์ค คอร์ปอเรชั่น, บริษัท อะโดบ และบริษัท ออโต้เดสด์ จำกัด ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลจังหวัดธัญบุรีมาทำการตรวจค้นที่บริษัทต้องสงสัยในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ผลการตรวจค้นพบการกระทำความผิดและของกลาง คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการติดตั้งโปรแกรมโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทผู้เสียหายจำนวน 91 เครื่อง จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าว โดยอายัดไว้ในที่เกิดเหตุ แจ้งข้อหาให้ดำเนินคดีกับบริษัทที่พบการกระทำความผิดและกรรมการบริษัทฯ ทุกคนในฐานะส่วนตัวว่า “ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้า ด้วยการทำซ้ำ ดัดแปลงซึ่งงานวรรณกรรม (โปรแกรมคอมพิวเตอร์)” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 รวมเครื่องคอมพิวเตอร์ที่พบการกระทำความผิดจำนวน 170 เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปศท. ดำเนินคดี โดยกลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ หรือ BSA ได้มีหนังสือขอบคุณมายัง บก.ปศท. ที่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการจับกุมผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ มร. ดรุณ ซอว์นีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ ประจำภูมิภาคเอเชีย กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ หรือ บีเอสเอ เปิดเผยว่า บีเอสเอ ขอบคุณ บก.ปศท. ที่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในการจับกุมผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บีเอสเอ และกลุ่มสมาชิกได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าตรวจค้นบริษัทที่ต้องสงสัยว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ 80 แห่ง โดยมีการตรวจพบซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย 3,156 โปรแกรม ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจำนวน 1,588 เครื่อง รวมมูลค่าการละเมิด 246 ล้านบาท “ปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สูงมาก ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามีคนจำนวนมากที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจและไม่เคารพกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 35 และร้อยละ 54 ในเอเชีย อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยสูงถึงร้อยละ 80 ในปี 2548 เพิ่มขึ้น 1 จุด จากปี 2547 โดยยอดการสูญเสียรายได้จากการละเมิดลิขสิทธิ์ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในปี 2548 เพียงปีเดียวสูงกว่า 10,000 ล้านบาท” มร. ซอว์นีย์ กล่าว ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ของประเทศไทย การใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายในองค์กรจะทำให้บริษัทและผู้บริหารระดับสูงต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 800,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ “ผู้พบเบาะแสเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในสถานที่ทำงาน กรุณาโทรแจ้งสายด่วน บีเอสเอ ได้ที่ 1-800-291-005 หรือ 0-2711-6193 หรือเว็บไซต์ www.bsa.org โดยมีเงินรางวัลสูงสุดถึง 250,000 บาท ทั้งนี้ ข้อมูลของผู้ให้เบาะแสทุกท่านจะถูกเก็บเป็นความลับจนถึงที่สุด” มร. ซอว์นีย์ กล่าวในที่สุด เกี่ยวกับ บีเอสเอ บีเอสเอ เป็นผู้นำแถวหน้าที่ทุ่มเทให้กับการส่งเสริมโลกดิจิตอลที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย และเป็นตัวแทนของสมาชิกในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นกระบอกเสียงสำคัญของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ และคู่ค้าธุรกิจฮาร์ดแวร์ ต่อหน้าภาครัฐ และในตลาดการค้าระหว่างประเทศ บีเอสเอ ช่วยสนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีผ่านทางโครงการเพื่อการศึกษาและการริเริ่มแนวนโยบายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการปกป้องลิขสิทธิ์ ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ การค้า และอีคอมเมิร์ส สมาชิกของ บีเอสเอ ในระดับโลกรวมถึง Adobe, Apple, Autodesk, Avid, Bentley Systems, BEA, Borland, CNC Software/ Mastercam, Internet Security Systems, McAfee, Microsoft, PTC, Solidworks, Sybase, Symantec, The MathWorks และ UGS สมาชิกในภูมิภาคเอเชียรวมถึง Minitab และ Trend Micro สำหรับในประเทศไทย บีเอสเอ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) สมาชิกอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย (ATCI) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ปปท.) แจ้งเบาะแสการกระทำความผิดได้ที่ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โทร 0-2233-3700 www.ECOTEC.P0LICE.TH ต้องการข้อมูลเพิ่เติมกรุณาติดต่อ บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด บุษบง เผด็จภัย/ อัญ ถังทอง โทร 0-2631-2290-5 โทรสาร 0-2234-6192-3 อีเมล: [email protected];[email protected]