ส่งท้ายปี ดัชนีอุตฯ ธ.ค. 51 ทรุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี “วอนรัฐ”กระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเม็ดเงิน ฟื้นความเชื่อมั่น

ข่าวทั่วไป Wednesday January 21, 2009 12:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ส.อ.ท. นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (Thai Industries Sentiment Index: TISI) ในเดือนธันวาคม 2551 ที่ได้จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,301 ตัวอย่าง ครอบคลุม 39 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมฯ ว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 62.9 เป็นระดับต่ำสุดในรอบปี 2551 และยังต่ำสุดนับจากจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ในปี 2551 สร้างสถิติต่ำสุดถึง 2 ครั้งในปีเดียวกัน โดยปรับตัวลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ระดับ 71.8 สาเหตุสำคัญเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และปัญหาการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์ปิดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของภาคการท่องเที่ยว ภาคการผลิต ทำให้ยอดคำสั่งซื้อ และยอดขายทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศในเดือนนี้ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังผลประกอบการที่ลดลงมากเช่นเดียวกัน สำหรับดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 71.9 ปรับลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่อยู่ในระดับ 78.5 และยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2550 ที่อยู่ในระดับ 98.1 เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนปัญหาการเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม กลางเดือนธันวาคมได้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศและสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายไปได้บ้าง ซึ่งผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมองว่ารัฐบาลใหม่ควรเร่งหามาตรการกระตุ?นเศรษฐกิจโดยเร็วเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นฯ ในระยะต่อไป ด้านความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจำแนกตามขนาดของกิจการ พบว่า ดัชนีปรับตัวลดลงทุกรายขนาด ทั้งอุตสาหกรรมขนาดย่อม อุตสาหกรรมขนาดกลาง และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ สาเหตุเนื่องมาจากผลกระทบจากปัญหาการเมือง ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต ตลอดจนผลประกอบการปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมรายภูมิภาค พบว่า ดัชนีปรับตัวลดลงในทุกภูมิภาคเช่นกัน เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในภาคกลาง และภาคตะวันออก ปรับตัวลดลงมากกว่าภาคอื่นๆ เนื่องจากเป็นภาคที่มีการผลิตเพื่อการส่งออกค่อนข้างมาก จึงทำให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรฯ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจําแนกตามการส?งออก พบว่า ดัชนีปรับตัวลดลงทั้งกลุ่มที่เน้นตลาดในประเทศ และกลุ่มที่เน้นตลาดส่งออก ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอการซื้อสินค้าทั้งผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ ในส่วนของสภาวะแวดล?อมในการดําเนินกิจการ พบว่า ปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจโลก และปัจจัยทางการเมือง ยังสร้างความกังวลต่อกิจการอย่างต่อเนื่อง แต่ในส่วนของปัญหาด้านการเมืองเริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยน เคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการมากนัก ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อภาครัฐ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่าภาครัฐควร สร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศในการลงทุน เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว รวมทั้งการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ กระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น สนับสนุนให้ธนาคารของรัฐและเอกชนพิจารณาปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องของกิจการ สนับสนุนมาตรการทางภาษี เช่น การลดอัตราภาษีนำเข้าวัตถุดิบ การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และมาตรการอื่นๆ เช่น การลดเงินสมทบของประกันสังคม เป็นต้น ดูแลเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนอย่าให้มีความผันผวน โดยคงระดับไว้ที่ 33-35 บาท เพื่อช่วยอุตสาหกรรมส่งออก และช่วยเหลือภาคแรงงาน โดยมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือสวัสดิการต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทร. 0-2345-1017 โทรสาร 0-2345-1296-9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ