เจรจาเอฟทีเอ อาเซียน — อินเดีย เปิดรับฟังความเห็นประชาชน

ข่าวทั่วไป Friday January 23, 2009 13:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--จร. กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นและคำแนะนำจากผู้ประกอบการและประชาชนในสาขาบริการ 12 สาขาภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย เกี่ยวกับสาขาบริการที่ไทยต้องการจะเข้าไปประกอบกิจการในอินเดีย และสาขาบริการที่ไทยเห็นว่าการเปิดโอกาสให้อินเดียมาประกอบธุรกิจในไทย จะเป็นประโยชน์ในการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การเจรจาเอฟทีเอระหว่างอาเซียนและอินเดียได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2547 การเจรจาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดการค้าสินค้า เนื่องจากเป็นสิ่งที่จับต้องได้และประเมินผลประโยชน์และผลกระทบได้จากตัวเลขสถิติการนำเข้าและส่งออกระหว่างอาเซียนและอินเดีย ส่วนเรื่องการค้าบริการระหว่างอาเซียนและอินเดีย คนส่วนใหญ่อาจมองไม่เห็นภาพว่ามีความสำคัญอย่างไร เนื่องจากการค้าบริการเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แม้ว่าจะเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันของทุกคนในฐานะผู้ใช้บริการต่างๆ ในการจะส่งออกสินค้าไทยไปยังอินเดียอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งมีองค์ประกอบด้านการค้าบริการเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก เช่น การขนส่งทางเรือ ทางอากาศ และทางบก (รถบรรทุก รถไฟ) การกระจายสินค้าผ่านห้างค้าส่ง ค้าปลีกในอินเดีย การขายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น การค้าบริการของไทยในอินเดียที่กำลังมาแรง คือ การก่อสร้าง โรงภาพยนตร์ และสปา นอกจากนี้ บริการที่อินเดียค่อนข้างมีปริมาณจำกัดสำหรับชนชั้นกลาง คือ โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคารไทย รวมทั้งห้างค้าปลีกค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ในปี 2553 อินเดียจะเป็นเจ้าภาพในการจัด Commonwealth Game 2010 ทำให้ในช่วงนี้รัฐบาลอินเดียได้ระดมก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆจำนวนมาก ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการเข้าไปขยายตลาดในบริการต่อเนื่องจากสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น ทั้งนี้ ไทยได้เริ่มการเจรจาการค้าบริการและการลงทุนกับอินเดียภายใต้กรอบเอฟทีเออาเซียนอินเดีย ตั้งแต่เดือนตุลาคม2551 เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าบริการและการลงทุนระหว่างกัน กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงขอรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น และคำแนะนำจากผู้ประกอบการและประชาชนเกี่ยวกับสาขาบริการที่ไทยต้องการจะเข้าไปประกอบกิจการในอินเดีย และสาขาบริการที่ไทยเห็นว่าการเปิดโอกาสให้อินเดียมาประกอบธุรกิจในไทย จะเป็นประโยชน์ในการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในบริการดังกล่าว การค้าบริการประกอบด้วย 12 สาขาหลักคือ 1) บริการธุรกิจ ครอบคลุมบริการวิชาชีพ (สถาปัตยกรรม วิศวกรรม กฎหมาย บัญชี ฯลฯ) คอมพิวเตอร์ โฆษณา ค้นคว้าวิจัย อสังหาริมทรัพย์ บริการเช่า และอื่นๆ 2) บริการสื่อสารคมนาคม ครอบคลุมบริการไปรษณีย์ พัสดุภัณฑ์ โทรคมนาคม และโสตทัศน์ 3) บริการก่อสร้างและวิศวกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้าง 4) บริการด้านการจัดจำหน่าย ครอบคลุมบริการตัวแทนจำหน่าย ค้าส่ง ค้าปลีก แฟรนไชส์ 5) บริการด้านการศึกษา ครอบคลุมการให้บริการการศึกษาระดับประถม มัธยม อุดมศึกษา ศึกษาผู้ใหญ่ โรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนกวดวิชา ฯลฯ 6) บริการด้านสิ่งแวดล้อม 7) บริการด้านการเงิน ประกันภัย ธนาคารและการเงิน และอื่นๆ 8) บริการที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและบริการสังคม ครอบคลุมบริการโรงพยาบาล บริการสุขภาพอื่นๆ บริการทางสังคม และอื่นๆ 9)บริการด้านการท่องเที่ยวและการเดินทางที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ครอบคลุมบริการโรงแรมและภัตตาคาร บริการท่องเที่ยว บริการนำเที่ยว 10) บริการด้านนันทนาการ วัฒนธรรม และการกีฬา ครอบคลุมบริการสันทนาการ ข่าว ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ กีฬาและนันทนาการ 11) บริการด้านการขนส่ง 12) บริการด้านอื่น ๆ เช่น เสริมความงาม นวดแผนไทย สปา ผู้สนใจเสนอข้อคิดเห็น โปรดส่งมาที่ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 44/100 ถนนนนทบุรี 1 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 หรือ ทางตู้ป.ณ. 150 ป.ณ. นนทบุรี 11000 หรือ โทรสาร 02-547-5622 ภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้จากเวปไซต์ www.thaifta.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ