mai เผยผลงาน บจ.ไตรมาสแรกทำกำไรรวมกันเกือบ 240 ล้านบาท ยอดขายโตกว่าร้อยละ 30

ข่าวทั่วไป Wednesday June 1, 2005 11:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 25 บริษัทประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิรวม ทั้งสิ้น 238 ล้านบาท กำไรเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทั้งตลาดถึงร้อยละ 17 นำโดย ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 145 ยัวซ่าแบตเตอรี่ (YUASA) กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 138 และ บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 120 นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า จากการพิจารณาข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 25 บริษัท ที่นำส่งงบการเงินประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2548 ที่ผ่านมา พบว่ามีผลกำไรรวม 238 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 204 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเมื่อมองภาพรวมของยอดขายจะเห็นได้ว่าบริษัทจดทะเบียนใน mai มียอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 จากเดิมมียอดขายรวมกันที่ 2,877 ล้านบาท เพิ่มเป็น 3,724 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปีนี้ “เป็นธรรมชาติของบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกนี้ จะเห็นได้ว่ามีบริษัทที่มีผลประกอบการที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีบริษัทที่มีกำไรเกินกว่าร้อยละ 100 ถึง 6 บริษัท” บริษัทที่มีผลประกอบการเพิ่มขึ้นสูงกว่าร้อยละ 100 ได้แก่ 1. บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไรสุทธิ 54 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 145 มีกำไรต?อหุ?น 0.77 บาท เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 148.68 ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทมีรายได?จากการขาย 309 ล?นบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 73 อันเป็นผลจากความต?องการใช?ถ?นหินเพิ่มขึ้น เพราะการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ทำให?ลูกค้าหันมาใช?ถ?นหินเป?นเชื้อเพลิงแทนน้ำมัน ประกอบกับราคาเฉลี่ยของถ?นหินก็มีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช?วงเดียวกันของป? 2547 2. บมจ. ยัวซ่าแบตเตอรี่ (YUASA) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 326.56 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา 43.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.51 และมีกำไรสุทธิจำนวน 5.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 138 สาเหตุหลักมาจากบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับราคาขายและการจำหน่ายแบตเตอรี่ในตลาดรถใหม่และตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้น 3. บมจ. บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 120 เนื่องจากรายได้การให้บริการข้อมูลซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท (Online information service income) เพิ่มขึ้นถึง 5.52 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.10 4. บมจ. ซี.ไอ. กรุ๊ป (CIG) มีรายได้รวมสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 171.28 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวนเงิน 31.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.23 สืบเนื่องจากสภาวะอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับการขยายตัวของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มากขึ้นส่งผลให้การขยายตัวในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศเติบโตขึ้นอย่างมาก ทำให้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2548 เป็นจำนวนเงิน 12.50 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 117 เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 5. บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อิควิบเม้นท์ (L&E) มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 117 โดยมีรายได้จากการขายไตรมาสที่ 1 เป็นเงิน 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 40% เป็นผลมาจากการขยายตัวของกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กลุ่มโคมไฟ รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการก่อสร้างและการปรับปรุงอาคารของศูนย์การค้าและร้านค้าต่างๆ การขยายตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจรีสอร์ตและสปา ทำให้การขายโคมไฟที่ใช้ในงานภูมิทัศน์เพิ่มมากขึ้น และนโยบายการประหยัดพลังงานของรัฐบาลก็มีส่วนทำให้ความต้องการโคมไฟประเภทประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การส่งมอบโคมไฟที่ใช้ในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิก็มีส่วนช่วยให้การเติบโตสูงขึ้น และ 6. บมจ. ธนมิตร แฟคตอริ่ง (DM) มีกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1/2548 จำนวน 8 ล้านบาท เปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100 สาเหตุหลักมาจากรายได้ส่วนลดรับจากการรับโอนสิทธิเรียกร้องในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 79 สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนใน mai สามารถศึกษาข้อมูลจากบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ หรือเข้าดูข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนใน mai ได้ ทาง www.mai.or.th หรือ www.settrade.com หรือสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ S-E-T Call center โทร. 0-2229 —2222 และตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไปนักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลประมาณการตัวเลขสำคัญของบริษัทจดทะเบียนใน mai ได้ที่ “ศูนย์รวมประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน” หรือ “Analyst Consensus” ที่เว็บไซต์ www.mai.or.th ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะช่วยสะท้อนความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่มีต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเชิงของการเปรียบเทียบข้อมูล ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เอกสารประกอบข่าวตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม ไอ ไอ (mai) ฉบับที่ 16/2548 ประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2548 ตารางแสดงผลการดำเนินงานของบจ. ใน mai สำหรับไตรมาสแรกปี 2548 หน่วย : ล้านบาท ชื่อบริษัท กำไรสุทธิงวด 3 เดือน 2548 2547 %เปลี่ยนแปลง 1 บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) 54 22 145 2 บมจ.ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA) 6 -16 138 3 บมจ.บิซิเนส ออนไลน์ (BOL) 2 0.9 122 4 บมจ. ซี ไอ กรุ๊ป (CIG) 13 6 117 5 บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อิควิปเมนท์ (L&E) 13 6 117 6 บมจ.ธนมิตร แฟคตอริ่ง (DM) 8 4 100 7 บมจ.พรพรหมเม็ททอล (PPM) 31 17 82 8 บมจ. ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล (CPR) 20 11 82 9 บมจ ทาพาโก้ (TAPAC) 9 5 80 10 บมจ.ปิโก้ (ไทยแลนด์) (PICO) 14 8 75 11 บมจ.แอล.วี.เทคโนโลยี (LVT) 12 8 50 12 บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอร์ส (GFM) 26 19 37 13 บมจ.อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) 12 9 33 14 บมจ. สยาม ทู ยู (S2Y) 9 7 29 15 บมจ.เชอร์วู๊ด เคมิคอล (SWC) 18 17 6 ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร : ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036 กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 —2037 ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-222 2049 วรรษมน เสาวคธนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ