น้ำมันตลาดโลกสูงขึ้นกว่า 3 เหรียญฯ จำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกทุกชนิด 40 สตางค์

ข่าวทั่วไป Friday October 27, 2006 17:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--ปตท.
ผลจากกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิต ปริมาณสำรองลดลงและไฟไหม้โรงกลั่นอินเดีย ในส่วนของการช่วยเหลือภาคขนส่ง ปตท. ได้นำร่องลดราคาให้เป็นราย
แรกช่วงราคาน้ำมันแพงตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา รับภาระไปแล้วกว่า 450 ล้านบาท หรือ 50% ของทั้งโครงการที่ความช่วยเหลือ
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในรอบกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา ปตท.
ได้นำลดราคาน้ำมันขายปลีกทุกชนิดลงไปแล้วกว่า 3 — 4 บาท/ลิตร (กลุ่มน้ำมันเบนซินลดถึง 12 ครั้ง รวม 4.90 บาท/ลิตร และกลุ่มน้ำมันดีเซลลดถึง 9
ครั้ง รวม 3.70 บาท/ลิตร) อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันตลาดโลกผันผวนสูงมากโดยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องประมาณกว่า 2- 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ล่าสุดใน
วันนี้ (27 ต.ค. 49) ราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 57.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 2.61 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)น้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่
ระดับ 63.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล (เพิ่มขึ้น 3.37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 72.52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 3.13
เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) จากการที่กลุ่มโอเปกปรับลดปริมาณการผลิต การเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่น และปริมาณน้ำมันสำรองลดลง ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น
ปตท.จึงจำเป็นต้องพิจารณาปรับราคาขายปลีกในประเทศทุกชนิดขึ้น 40 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.49) เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป ทำให้
ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑล เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 25.69
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 24.19
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.89
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 24.24
น้ำมันพีทีทีไบโอดีเซล/น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ 23.74
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ปตท. กล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากกลุ่มประเทศโอเปกมีมติเห็นชอบให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง
1.2 ล้านบาร์เรล/วัน (มาอยู่ที่ระดับ 26.3 ล้านบาร์เรล/วัน มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย.ศกนี้ เป็นต้นไป) ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ซึ่ง สหรัฐฯ อาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศลดกำลังการผลิตประมาณ 100,000 บาร์เรล ของกำลังการผลิตทั้งหมดที่ 2.5 ล้านบาร์เรล หลังจากที่เวเนซูเอ
ลา,ไนจีเรีย, ซาอุดิอาระเบีย และลิเบีย ได้ประกาศลดกำลังการผลิตลงไปก่อนหน้านี้เช่นกัน ประกอบกับ Energy Information Administration (EIA)
รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันสำเร็จรูป ปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเกิดไฟไหม้ Vacuum Gas Oil
Hydrotreater (100,000 บาร์เรล) โรงกลั่น Reliance Industries (662,000 บาร์เรล), India ที่ Jamnagar ส่งผลให้โรงกลั่นต้องหยุดดำเนินการมากกว่า
15 วัน อีกทั้งสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นลงทั้งในสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเชีย เป็นต้น
สำหรับในเรื่องการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันดีเซลแก่ผู้ประกอบการขนส่ง โดยลดราคาให้ 1 บาท/ลิตร นั้น ปตท.ได้เป็นบริษัทน้ำมันรายแรกของ
ประเทศที่ประกาศนำร่องลดราคาให้ผู้ประกอบการขนส่งตั้งแต่ในช่วงสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง กล่าวคือตั้งแต่เดือนวันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นมา (กำหนด
ระยะเวลาในการช่วยเหลือแต่ละรายเป็นเวลา 3 เดือน) แบ่งดำเนินการเป็น 6 รุ่น ซึ่งรุ่นสุดท้าย (เป็นรถร่วมของบริษัทขนส่งจำกัด) จะเริ่มตั้งแต่
วันที่ 1 พฤศจิกายน ศกนี้เป็นต้นไป และสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2550 โดย ปตท.ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการภาคขนส่งทั้งหมด เฉลี่ยทั้ง
โครงการประมาณ 5 ล้านลิตรต่อวัน (เทียบเท่า 50% ของทั้งโครงการที่ให้ความช่วยเหลือ) รวม 400 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 450 ล้านบาท ที่ ปตท.
ได้รับภาระแทนผู้ประกอบการขนส่ง เพื่อช่วยลดภาระของประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย นายชัยวัฒน์ กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538 โทรสาร 0 2537 2572, 2517

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ