อีซูซุพาย้อนรอยเส้นทางประวัติศาสตร์ “สององค์ สองมหาราช ประกาศนามสองธานี”

ข่าวยานยนต์ Thursday September 7, 2006 16:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--Dai-Ichi Kikaku
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด นำลูกค้าผู้ใช้รถอีซูซุย้อนรอยประวัติศาสตร์ “สององค์ สองมหาราช ประกาศนามสองธานี” ใน “คาราวานอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร” ประจำปี 2549 เส้นทางที่ 3 เส้นทางกรุงเทพฯ-พระนครศรีอยุธยา-ลพบุรี—สระบุรี คาราวานท่องเที่ยวทางรถยนต์ที่สนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวภายในประเทศ
มร.ริวอิจิ ฮาซูโอะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วยคุณวันเสด็จ ถาวรสุข ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมเป็นประธานในพิธีตีธงปล่อยขบวนรถจำนวน 51 คันใน “อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร” เส้นทางที่ 3 ภาคกลาง ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งสู่ที่หมายแรกราชธานีเก่า เส้นทางบางปะอิน- อยุธยา เพื่อสักการะพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระสุริโยทัย ณ ทุ่งมะขามหย่อง ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิม
พระเกียรติ พระวีรกรรมของสมเด็จพระสุริโยทัย ซึ่งทรงเป็นแบบอย่างของสตรีไทยผู้รักชาติยิ่งชีวิต โดยพระรูปหล่อด้วยสำริดมีขนาดเท่าครึ่งขององค์จริงประทับบนหลังพระคชาธาร พร้อมชื่นชมความงามของอ่างเก็บน้ำรอบพระราชานุสาวรีย์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดฯ ให้สร้างเพื่อเป็นสถานที่กักเก็บและรองรับน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำ 3 สาย ได้แก่ เจ้าพระยา ลพบุรี และป่าสัก เพื่อชะลอและป้องกันน้ำหลากเข้าท่วมกรุงเทพฯ และยังช่วยระบายน้ำไปใช้ในการเกษตรของจังหวัดในยามแห้งแล้ง จากนั้นจึงเดินทางต่อไปสักการะรอยพระพุทธบาท ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ซึ่ง “รอยพระพุทธบาท” นี้ได้ถูกค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม แผ่นดินกรุงศรีอยุธยา มีความกว้าง 21 นิ้ว ยาว 60 นิ้ว ลึก 11 นิ้ว ตรงตามด้วยลักษณะ 108 ประการและเป็นรอยจริงเพียง 1 ใน 5 ของโลก ใกล้เที่ยงจึงมุ่งหน้าสู่ร้านบัวหลวงเพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน เมื่ออิ่มอร่อยกันถ้วนหน้าจึงได้เดินทางต่อไปยัง จ.ลพบุรี ศูนย์รวมแห่งอารยะธรรมยาวนานกว่า 3,000 ปี และรุ่งเรืองที่สุดในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญคือ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ สถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยผสมตะวันตกที่ออก
แบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ที่แม้วันนี้จะเหลือเพียงโครงสร้างของหมู่ตึกดั้งเดิมทั้ง 9 ที่เสื่อมสลายตามกาลเวลาแต่ยังคงความงดงามตรึงตาของอดีตที่รุ่งเรือง และอีกหนึ่งความประทับใจเมื่อชาวคาราวานได้ย้อนรอยเข้าไปซึมซับช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ จากการเข้าไปยืนบนสีหบัญชร ณ พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ซึ่งเป็นท้องพระโรงทรงสูง 2 ชั้นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในพระราชวังแห่งนี้ บริเวณเดียวกับที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงโปรดเกล้าฯ ให้ราชทูตแห่งฮอลันดา เข้าเฝ้าถวายพระราชสาสน์ บ่ายคล้อยเหล่าชาวคาราวานอีซูซุออกเดินทางต่อไปยังสถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดสระบุรี เพื่อมอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬาพร้อมทุนการศึกษาให้แก่น้องๆผู้ด้อยโอกาส ปิดท้ายคาราวานเส้นทางที่ 3 ด้วยงานเลี้ยงภาคค่ำบรรยากาศสไตล์คาวบอย ณ โรงแรมจุลดิศ เขาใหญ่ อร่อยกับบาร์บีคิวสไตล์คันทรี่ และอาหารนานาชนิด สนุกกับซุ้มเกมการละเล่น ลุ้นรับรางวัลมากมายจากอีซูซุ ยางบริดจสโตน และน้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์เดโล่ พร้อมมินิคอนเสิร์ตจากหนุ่มแท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทองพร้อม “พลพรรครักเอย” ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากชาวคาราวานอีซูซุซูเปอร์คอมมอนเรล ส่งท้ายค่ำคืนแห่งความประทับใจ
อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร 2549 ในปีนี้ยังเหลืออีก 1 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางภาคอีสาน : ขอนแก่น — นครพนม “ประวัติศาสตร์โบราณ อดีตกาลรุ่งเรือง เมืองพุทธศาสนา” ในวันที่ 4 — 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารการตลาด
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
โทร.0-2966-2127-9
PREEYANUCH SWANGNATE
PR.Executive
Dai-Ichi Kikaku (Thailand) Co.,Ltd.
Tel : 0-2949-2785 , 0-1924-2170
E-mail : preeyanuch@dik.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ