บลจ.แอสเซท พลัส เปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 3 (ASP-SIF3) วันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 6, 2009 07:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.พ.--บลจ.แอสเซท พลัส บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเสนอขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 3 (ASP-SIF3) ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนคุณภาพ รอบการลงทุนนี้ประมาณ 3 เดือน เปิดเสนอขายและรับซื้อคืนวันเดียว วันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซทพลัส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ยังไม่มีปัจจัยชี้นำตลาดใหม่ ๆ เพียงแต่ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค CPI เดือน ม.ค.2552 ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ และผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ประกาศออกมาลดลงตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงมากตามภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อปี 2552 จะขยายตัวอยู่ในช่วง -1.5%-0.5% ทำให้มีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 2.0% มาอยู่ที่ระดับ 1.0-1.5% ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และการส่งออกชะลอตัว “ในส่วนการลงทุนของตลาดพันธบัตร นอกจากการปรับลดดอกเบี้ยแล้ว ตลาดยังมีแรงกดดันในด้านความกังวลปริมาณพันธบัตรในตลาดแรกที่จะออกมา ทั้งพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีแผนจะออกตราสารหนี้มากกว่าที่เคยวางแผนไว้ เพื่อชดเชยการขาดดุลการคลังของรัฐบาล ทำให้มีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวและเกิดแรงเทขายของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งในส่วนของการบริหารกองทุนตราสารหนี้ ทางผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ ได้คงอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ (Portfolio Duration) ไว้ที่ 1.00-1.50 ปี ไปล่วงหน้าแล้ว จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของอัตราผลตอบแทน”นางจารุลักษณ์กล่าว ในด้านแนวโน้มการลงทุนของผู้ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ นางสาวจารุลักษณ์ ให้ความเห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังเน้นการลงทุนระยะสั้น ๆ ในตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำอยู่ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจะอยู่ในระดับต่ำก็ตาม แต่ยังมีนักลงทุนบางส่วนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้อายุยาวขึ้น เนื่องจากมองว่าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง “ในส่วนของแผนการออกกองทุนตราสารหนี้เพื่อรองรับตลาดในช่วงนี้ จากการที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรและตราสารหนี้เอกชนมีส่วนต่างของผลตอบแทนในระดับที่สูงมาก ประกอบกับผู้ออกตราสารหนี้ที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง เริ่มมีการระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ในช่วงดอกเบี้ยขาลงมากขึ้น บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกองทุนตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้น เพื่อรองรับกลุ่มผู้ลงทุนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือน 6 เดือน รองรับความต้องการของผู้ลงทุนอยู่ทุกเดือน โดยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทรัพย์มั่นคง 3 (ASP-SIF3) จะเปิดขายและรับซื้อคืน ผลตอบแทนประมาณการที่ 2.50%* ต่อปี จากการลงทุนในตั๋วแลกเงินอายุประมาณ 3 เดือน ที่ผู้ออกได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ A- ขึ้นไป เช่น บมจ.ไทยออยล์ (TOP) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์ (CPF) บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) และบมจ.มาบุญครอง (MBK)” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว ทั้งนี้ ตราสารที่จะลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมตามตราสารที่มีเสนอขายในขณะนั้นตามที่ผู้จัดการกองทุนเห็นว่าเหมาะสม โดยจะพิจารณาตราสารที่มีอันดับ Credit Rating ไม่ต่ำกว่า A- เช่น บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) บมจ. โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา (CENTEL) บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) บมจ.แลนแอนด์เฮาส์ (LH) ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ : ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: [email protected] มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected] Public Relations Manager Asset Plus Fund Management Tel. 66 (0) 2672-1019 Fax. 66 (0) 2286-4480-1 www.assetfund.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ