กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--สกว. พัฒนา “เครื่องคั่วพริก” หนุนผลิตภัณฑ์โอท๊อป ทำสารพัดน้ำพริกต้อนรับเทศกาลของขวัญ ของฝาก ชี้ประสิทธิภาพเยี่ยม สิ้นเปลืองพลังงานน้อย พร้อมช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพของผู้ทำงาน เสริมการผลิตในอุตสาหกรรมสำหรับครัวเรือน บ้านเรามีการบริโภคน้ำพริกกันแทบทุกครัวเรือน แถมยังนำมาเป็นทั้งของขวัญของฝาก จึงมีการนำพริกแห้งมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำพริกตาแดง น้ำพริกเผา และอีกสารพัดน้ำพริก ซึ่งการแปรรูปน้ำพริกเหล่านี้จะเริ่มต้นจากการคั่วแล?วนําพริกคั่วที่ได?ไปปนให?ละเอียด แต่การคั่วพริกและปนนั้นยังมีความยุงยาก ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ?ซึ่งประกอบดวย กระทะใบบัว เตาอั้งโล่ ตะหลิว เกลือและใช?ฟืนหรือถ่าน เป็นเชื้อเพลิงในการคั่ว ส่วนในขั้นตอนการทําให?พริกละเอียดนั้นก็ต้องใช?การตําหรือในปัจจุบันอาจมีการป่นด้วยเครื่องปั่นขนาดเล็ก สำหรับขั้นตอนผลิตน้ำพริกในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็กนั้นก็ยังต้องมีการคนและพลิกตลอดเวลาเพื่อให้พริกสุกได้อย่างทั่วถึง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้เป็นผื่นแดงขึ้นตามตัวแก่ผู้ทำงานส่วนนี้ อีกทั้งปัญหาเรื่องสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย เช่น ฤดูฝน ขณะคั่วพริกจะทำให้พริกมีความชื้นมากจึงไม่แห้งกรอบ เป็นต้น หรือปัญหาการชำรุดผุกร่อนของอุปกรณ์อย่างกระทะที่ใช้ในการคั่ว เนื่องจากมีส่วนผสมของเกลือรวมกับความชื้นของพริก เมื่อใช?เป?นเวลานานความเค็มของเกลือรวมกับความชื้นของพริกก็เกิดการสะสมที่กระทะคั่วทําให?เกิดรูพรุนหรือเกิดสนิม ทีมวิจัยจาก ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎเพรชบูรณ์ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)จึงเกิดแนวความคิดที่จะสร้างเครื่องคั่วและป่นพริก ที่สามารถคั่วพริกและป่นพริกในเครื่องเดียวกันอย่างต่อเนื่อง นายอนันต์ ยิ้มพราย หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า เครื่องคั่วและป่นพริกจัดทําขึ้น มีจุดประสงค?เพื่อศึกษาออกแบบและสร้างเครื่องต?นแบบสําหรับการคั่วและป่นพริกแทนกรรมวิธีคั่วและป่นพริกแบบเดิมโดยออกแบบและสร้างเครื่องมาให?สามารถคั่วและป่นพริกในเครื่องเดียวกัน หลักการทํางานของเครื่องคั่วและป่นพริกนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ?ๆได้แก่ ส่วนของการคั่วจะใช?ถังสแตนเลสทรงกระบอกด้านปากเป็นรูปกรวยคว่ำมีฝาป?ดขนาดกว?าง 55 เซนติเมตร ยาว 65 เซนติเมตร ใช?มอเตอร?ไฟฟ?ากระแสสลับ 220 โวลต? ขนาด 2 แรงม?าให?ถังคั่วหมุนตามเข็มนาฬิกาด?วยความเร็วถังที่หมุน 10 รอบ/นาที และอุปกรณ?ที่ใช?ในการป?นพริกนั้นใช?ใบมีดสแตนเลสจํานวน 12 ใบ ยึดติดกับเพลากลางถังคั่วในการป?นพริกให?ละเอียด โดยใบมีดหมุนทวนเข็มนาฬิกาด?วยความเร็ว 1,450 รอบ/นาที ความเร็วของถังและใบมีดสามารถปรับเปลี่ยนความเร็วได? โดยการเปลี่ยนขนาดของล?อสายพานและความร?อนที่ใช?ได?จากเตาแก?สหุงตุ?มที่สร?างเป?นท?อตรงยาว 22.5 เซ็นติเมตร เจาะรูขนาด1 มิลลิเมตรจํานวน 2 แถว วางไว?ใต?ถังคั่วและป?นพริกถังที่คั่วมีปลอกครอบป?องกันการสัมผัสถังร?อน การเทพริกป?นออกทางปากถังโดยการกระดกถังเทและมีชุดควบคุมการตัดไฟฟ?าและแก?สอัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว? จากการทดสอบเพื่อหาสมรรถนะของเครื่องคั่วและป่นพริกที่ใช?มอเตอร? 2 แรงม?าเป?นต?นกําลังพบว่าสามารถคั่วและป?นพริกได?ครั้งละ 5 กิโลกรัม อุณหภูมิที่พอเหมาะแก?การคั่ว 120 องศาเซลเซียสที่ความเร็วรอบของถังคั่ว 6 รอบต?อนาที ความเร็วรอบของใบมีด 870 รอบต?อนาที เวลาที่ใช?ในการคั่วและป่นพริก 25 นาที สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าต?อครั้ง 0.25 หน่วย คิดเป?นเงิน 1.00 บาท และสิ้นเปลืองแก?สที่ใช?ต?อครั้ง 0.070 กิโลกรัมคิดเป?นเงิน 1.20 บาท และพริกที่คั่วและป่นออกมามีคุณภาพทั้งสี และกลิ่นตรงตามความต?องการของผู?แปรรูปพริก หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวอีกว่า เมื่อประเมินประสิทธิภาพโดยผู?ที่มีอาชีพเกี่ยวข?องกับพริกได้แก่ผู้จําหน่ายพริกป่นในตลาดสด เกษตรกร ผู้รับจ้างคั่วพริกป่น สรุปได?ว่า เครื่องคั่วและป?นพริกที่สร้างขึ้น สามารถใช?คั่วและป่นพริกต?อเนื่องได?ชั่วโมงละ 2 รอบการผลิตหรือ 10 กิโลกรัมพริกป่นต่อชั่วโมง เสียค่าใช้จ่ายรวม 2.20 บาทต?อครั้ง ซึ่งประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถแก้ปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฎิบัติงานคั่วและป่นพริกได?อีกด้วย ทั้งนี้กำลังมีการพัฒนาด้านประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นต่อไป