กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--อาร์เอส          จัดกิจกรรมให้แฟนๆ รายการได้ร่วมสนุกกันอีกแล้ว สำหรับรายการ “เมืองไทยวาไรตี้” ทาง ททบ.5  นำทีมโดยพิธีกร“หนุ่ม-กรรชัย  กำเนิดพลอย” งานนี้อาสาโชว์เดี่ยวพาดาราสาวสวย “เกด-ธิญาดา พรรณบัว” และคุณแม่ ตัวแทนสายใยแห่งความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก   พร้อมไกด์กิตติมศักดิ์   อ.เผ่าทอง  ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประวัติศาสตร์   จูงมือแม่-ลูก 20 คู่ ผู้โชคดีในโครงการ “อิ่มบุญ อุ่นรัก” เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 9 วัด เพื่อเป็นสิริมงคล                     โดยวันแรกก็เริ่มกันที่วัดใหญ่ชัยมงคล สัญลักษณ์ที่เด่นชัดมองเห็นแต่ไกล คือพระเจดีย์ชัยมงคลสูงใหญ่เป็นสง่ามาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา  และวิหารพระนอนไสยาสน์  “อิสริยวงศ์”  ต่อด้วยวิหารพระมงคลบพิตร  ภายในประดิษฐานพระมงคลบพิตรหรือ  “หลวงพ่อมงคลบพิตร”  พระคู่บ้านคู่เมืองอยุธยา  สร้างขึ้นในสมัยพระไชยราชาธิราช  ต่อด้วยวัดหน้าพระเมรุราชิการามสร้างขึ้นสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา พระประธานในพระอุโบสถพระนามว่า  “พระพุทธนิมิตพิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ” เป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกทำลายในคราวเสียกรุงฯ  ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์  จากนั้นก็พักรับประทานอาหารก่อนจะไปยังพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา  ซึ่งภายในมีผอบเจดีย์ทองคำ  บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  หรือ “พระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า”  ขุดพบ ณ วัดมหาธาตุ  วัดราชบูรณะ  เจดีย์ศรีสุริโยทัย จัดแสดงไว้  เชื่อว่าการบูชานมัสการพระบรมสารีริกธาตุเป็นสิ่งมงคลสูงสุดในชีวิต   และยังมีห้องเครื่องทองของกษัตริย์สมัยกรุงศรีอยุธยา จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ   ประกอบด้วย  ช้างพระเครื่องทองคำ, เครื่องประดับพระกรทองคำ ,พระพรวน ลูกประคำ, สร้อยหอยจั่น, สร้อยเครื่องอุปโภคทองคำ, พระเจดีย์ทองคำประดับพลอย และแผ่นทอง  ทศวรรษที่ 19-20  และหลังจากเปิดกรุพิพิธภัณฑ์แล้วก็ไปดูสถานที่จริงที่ขุดพบคือวัดราชบูรณะ   ต่อด้วยวัดมเหยงค์ เห็นไกด์นำเที่ยว อ.เผ่าทอง  ท่าทางจะไม่ไหวเพราะบรรยายมาทั้งวัน  “หนุ่ม-กรรชัย”  เลยอาสาเป็นพิธีกรภาคสนามสร้างความสนุกสนาน แก่บรรดาคุณแม่-และคุณลูก   เรียกเสียงฮากันทั้งคันรถจนไปถึงวัดสุดท้ายเป็นวัดที่ 7 ของวันแรก คือวัดพนัญเชิงวรวิหาร  พระอารามหลวงชั้นโท  สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา สมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดให้มีการบูรณะซ่อมแซมวิหารและองค์พระครั้งใหญ่  ทรงพระราชทานนามหลวงพ่อโตว่า  “พระพุทธไตรรัตนนายก”  ผู้ที่มานมัสการกราบไหว้  มักจะประสบความสำเร็จในชีวิต   หลังจากเก็บภาพประทับใจเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เข้าที่พักเพื่อเอาแรงไว้ไปต่ออีกสองวัดวันพรุ่งนี้          เริ่มวันที่สองหลังจากทานอาหารเช้าแล้วก็มุ่งหน้าไปที่วัดไชยวัฒนาราม สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2137 โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง  เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา   แต่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ  กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงละแวก (พนมเปญ)โดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด   และสุดท้ายวัดที่ 9 ของกิจกรรมครั้งนี้ คือวัดสุวรรณดารามราชวรวิหาร  เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอก   วัดประจำราชวงศ์จักรี  เป็นสถานที่สำคัญสำหรับพระสงฆ์ทำสังฆกรรมและสวดปาฏิโมกข์ สมัยรัชกาลที่ 1 เดิมชื่อ “วัดทอง”  สร้างขึ้นครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี  แต่ถูกเผาทำลายภายหลังเสียกรุงปี  2310  รัชกาลที่ 1 จึงโปรดให้ปฎิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งพระอารามโปรดให้เขียนภาพสีเป็นรูปพระพุทธประวัติและชาดกที่สำคัญคือกัณฑ์ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้า  ซึ่งหลังจากชมความสวยงามแล้วยังมีการสวด “โพชฌงค์ปริตร”  การสวดมนต์ให้พระเจ้าอยู่หัวของเราและราชวงศ์จักรี อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่พสกนิกรชาวไทยตลอดชั่วกาล  งานนี้เรียกได้ว่า  “อิ่มบุญ  อุ่นรัก”  กันทั่วหน้า          ติดตามชมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยไออุ่นแห่งความรัก ในรายการ “เมืองไทยวาไรตี้” ได้ทาง ททบ.5  เวลา 21.20-22.00 น.  ตั้งแต่วันที่  28-30  สิงหาคมนี้เป็นต้นไป          สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net