บิ๊ก FORTH ลั่นปีนี้รายได้พุ่ง 50% มั่นใจเทรดวันแรกหุ้นยืนเหนือจอง

ข่าวทั่วไป Thursday September 7, 2006 14:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น
"พงษ์ชัย"มั่นใจหุ้น FORTH เข้าเทรดวันแรก 8 ก.ย.นี้ เหนือจองได้แน่ เพราะมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประเมินรายได้ปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยรับรู้จากการออกผลิตภัณฑ์ DLC และDSLAM นอกจากนี้ที่ราคาไอพีโอ 5 บาท/หุ้น มีค่าพีอีอยู่ในระดับต่ำเพียง 10 เท่า จากค่าพีอีกลุ่มสื่อสารที่ระดับ 13 เท่า ด้านโบรกเกอร์ประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2549 และ2550 เท่ากับ 5.64 บาท และ 7.75 บาท ตามลำดับ
นายพงษ์ชัย อมตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (FORTH) เปิดเผยว่ามีความมั่นใจว่าหุ้น FORTH ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก ในวันที่ 8 กันยายน 2549 จะสามารถยืนเหนือราคาจองได้อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องและในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 50% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวมประมาณ 1,678 ล้านบาท โดยบริษัทจะรับรู้รายได้จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือตู้ชุมสายโทรศัพท์ DLC (Digital Loop Carrier) และตู้อินเตอร์เนทความเร็วสูง DSLAM (Digital Subscriber Line Access Multiplexer) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/49 เป็นต้นไป
นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่นแล้วในส่วนของการกำหนดราคาไอพีโอที่ 5 บาท/หุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่ไม่แพง โดยมีค่าพีอีเพียง 10 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีค่าพีอี 13เท่า
"ผมเชื่อว่าเมื่อหุ้น FORTH เข้าซื้อขายในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.2549) จะยืนเหนือราคาจองได้แน่นอน ด้วยแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการกำหนดราคาหุ้นที่มีค่าพีอีเพียง 10 เท่า จากค่าพีอี 13 เท่าของกลุ่มสื่อสาร ดังนั้นเชื่อว่าจะทำให้หุ้น FORTH เป็นที่สนใจของนักลงทุน ประกอบกับที่ผ่านมาการซื้อขายในตลาดหุ้นได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงน่าจะถือเป็นอีกปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนอีกทางหนึ่ง"
เขากล่าวต่อว่าการระดมทุนในครั้งนี้ FORTH จะได้รับเงินประมาณ 455 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขาย) บริษัทวางแผนที่จะนำเงินส่วนหนึ่งประมาณ 200 ล้านบาท ไปชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ของบริษัทลดลงเหลือประมาณ 0.7 เท่าจากปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 2.7 เท่า ส่วนที่เหลือเตรียมไว้ใช้ป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท 75 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตสินค้าใหม่ของบริษัท 180 ล้านบาท
บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “FORTH” และภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า ผลิตจำหน่ายและรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์และระบบสัญญาณไฟจราจร ผลิตและจำหน่ายป้ายอิเล็กทรอนิกส์ จำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บผลประโยชน์ในด้านการโฆษณาข้อความและรูปภาพบนพื้นที่ป้ายจราจรอัจฉริยะ รวมทั้งให้บริการรับวางระบบการจัดการข้อมูล
ทั้งนี้ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้น FORTH โดยระบุว่าบริษัทมีจุดเด่นด้านทีมงานวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตให้กับลูกค้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง ในช่วงที่ผ่านมามีหลายผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาและผลิตเป็นรายแรกของประเทศ ได้แก่ อุปกรณ์และระบบสัญญาณไฟจราจร และจอแสดงภาพสีขนาดใหญ่ระบบ LED อุปกรณ์และระบบเรียกพยาบาล เป็นต้นสำหรับในปีนี้บริษัทมี 3 โครงการที่สำคัญ คือ โครงการตู้ชุมสายโทรศัพท์ DLC ซึ่งสามารถพัฒนาและผลิตขึ้นเป็นรายแรกของประเทศ โครงการ Digital Subscriber Line Access Multiplexer (DSLAM) และโครงข่ายควบคุมสัญญาณไฟจราจร
และในปีนี้ จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่หลายโครงการ ได้แก่ โครงการ DSLAM, DLC เข้ามาค่อนข้างมากประมาณ 360 ล้านบาท โครงการ ERP ของการไฟฟ้านครหลวงประมาณ 78 ล้านบาทรวมทั้งโครงการป้ายจราจรอัจฉริยะที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนก.พ. 2549 จำนวน 119 ล้านบาททำให้ปี 2549 เราประมาณการรายได้ของกลุ่ม FORTH สูงถึง 2,626 ล้านบาท เติบโต 83% ซึ่งโครงการใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง โดยที่อัตรากำไรขั้นต้นของตู้ชุมสายโทรศัพท์ DLC เท่ากับ 42% และธุรกิจป้ายจราจรอัจฉริยะ 82% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของทั้งกลุ่มบริษัทปี 2549 เพิ่มขึ้นเป็น 28.1% จาก22.2% ในปี 48 และกำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดด 677% เป็น 246 ล้านบาท
บทวิเคราะห์ระบุว่า จากที่โครงสร้างรายได้ของ FORTH มาจากธุรกิจ ICT และธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประเมินมูลค่าหุ้นของ FORTH โดยใช้ P/E Ratio เฉลี่ยของ ทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจที่ระดับ 11 เท่า โดยที่ P/E Ratio ของผู้ประกอบการ ICT (AIT, MFEC, SAMTEL) ที่ระดับ 12 เท่าและ P/E Ratio ของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ระดับ 10 เท่า จะได้มูลค่าที่เหมาะสม (Fair Value) ของหุ้น FORTH ณ สิ้นปี 2549 และ2550 เท่ากับ 5.64 บาท และ 7.75 บาทตามลำดับ ขณะที่ P/E Ratio ของกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 13 เท่า ที่ราคา 5.64 บาทจะให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปี 2549-2550 เท่ากับ3.6% และ 5.0% ตามลำดับ
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว
โทร. 02-5549396 หรือ 01-4010226

แท็ก ไอพีโอ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ