กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--สคร.
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2549 ที่กระทรวงการคลังโดย สคร. ได้นำแนวคิดระบบการบริหารจัดการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐศาสตร์ หรือระบบ EVM มาใช้ในรัฐวิสาหกิจ 39 แห่งที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งที่มาของระบบ EVM นั้นประยุกต์มาจากระบบการบริหารเชิงคุณค่า (Value Based Management) ที่มีการวัดกำไรเชิงเศรษฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นโดยคำนึงถึงต้นทุนของเงินทุนที่ถูกนำมาใช้ทั้งจากหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างครบถ้วน แสดงให้เห็นถึงมูลค่าเพิ่มที่องค์กรสร้างขึ้น อีกทั้งยังให้ผลการวิเคราะห์ต่อภาครัฐในหลายมิติ ทั้งด้านความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพของสินทรัพย์ รวมถึงค่าเสียโอกาสของเงินลงทุน ซึ่งช่วยให้การจัดสรรทรัพยากรของรัฐวิสาหกิจมีประสิทธิภาพ ซึ่งในขั้นตอนการดำเนินการตามระบบ EVM ของกระทรวงการคลังนั้น สคร. ได้เสนอแนะให้รัฐวิสาหกิจใช้ควบคู่กับ Balanced Scorecard ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์กรสู่การปฏิบัติ โดยกระจายลงไปในหน่วยงานภายในระดับต่างๆ เพื่อให้ทุกส่วนงานมีเป้าหมายการทำงานที่สอดคล้องกัน โดยมุ่งไปสู่ความสำเร็จในการนำแผนยุทธศาสตร์ขององค์กรไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งเป้าหมายหนึ่งก็คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นด้วย
สคร. ได้มีการผลักดันระบบ EVM อย่างต่อเนื่อง โดยได้กำหนดให้เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริหารและพนักงานของรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างมูลค่าเพิ่มที่คำนึงถึงต้นทุนของผู้ถือหุ้น และใช้เพื่อตัดสินใจในการนำทรัพยากรขององค์กรไปใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด นอกจากนี้ ผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจยังได้นำแนวคิดของระบบ EVM มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การจัดทำแผนวิสาหกิจ การวิเคราะห์เพื่อคัดเลือกโครงการลงทุน การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น
ผู้อำนวยการ สคร. ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “โดยทั่วไปเป้าหมายการสร้างมูลค่าเพิ่มของรัฐวิสาหกิจในแต่ละปีควรมีค่าเป็นบวก แต่ในบางกรณี รัฐวิสาหกิจอาจมีลักษณะการดำเนินงานเฉพาะ เช่นดำเนินการโครงการตามนโยบายรัฐ หรือขยายการลงทุนทำให้ต้นทุนเงินทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้น การสร้างมูลค่าเพิ่มในบางปีอาจติดลบก็เป็นได้ ทั้งนี้ เป้าหมายประจำปีที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาจากแผนวิสาหกิจที่ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดย สคร. จะติดตามอย่างต่อเนื่องว่าโครงการดังกล่าวได้สร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้ตามแผนหรือไม่ นอกจากนี้ จะผลักดันให้รัฐวิสาหกิจมีการนำระบบ EVM ไปใช้ในเชิงลึกให้ลงสู่ระดับหน่วยธุรกิจต่อไป เพื่อให้พนักงานมีความเข้าใจและปฏิบัติงานโดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของมูลค่าทรัพย์สินของประเทศต่อไป”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 02-298-5880-9 ต่อ 6722 , 6723
โทรสาร 02-298-5809 http :/ www.sepo.go.th