บัญชีกลางลุยทำโอที เร่งเบิกจ่าย

ข่าวทั่วไป Wednesday February 25, 2009 16:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--กรมบัญชีกลาง บัญชีกลางรับลูกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์) จัดประชุมคณะกรรมการเร่งรัดของกรมฯ กำหนดมาตรการสนองนโยบายทันที มีทั้งให้เจ้าหน้าที่การเงิน พัสดุทำงานทั้งเสาร์ อาทิตย์และจ่ายเงินอัดฉีด นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีฯ รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 เกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยมีเป้าหมายการเบิกจ่ายในภาพรวม ร้อยละ 94 และรายจ่ายลงทุน ร้อยละ 74 และกำหนดมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่าย เช่น เร่งโอนเงินไปหน่วยเบิกจ่าย ในส่วนภูมิภาคไม่เกิน 15 วัน ให้เร่งก่อหนี้ผูกพัน เร่งตรวจรับงานและเบิกจ่ายเงิน ให้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่าย และปรับแผนการใช้จ่ายเงินให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายเงินจริง ประกอบกับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้รับนโยบายจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์) ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่อยู่ในการกำกับดูแล เร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน ให้เบิกจ่ายเงินให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2552 และปีงบประมาณนี้ กระทรวงการคลังมีนโยบายจะไม่อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบโดยเร็ว นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังรับมอบนโยบายดังกล่าว กรมบัญชีกลางมีความกังวลเรื่องการใช้จ่ายเงินของกรมฯ เองเหมือนกัน ซึ่งในปีนี้ กรมบัญชีกลางได้รับจัดสรรเงินงบประมาณ จำนวน 1,141.70 ล้านบาท เป็นงบลงทุน 159.84 ล้านบาท งบดำเนินงานจำนวน 231.07 ล้านบาท งบรายจ่ายอื่น จำนวน 116.24 ล้านบาท และงบบุคลากรจำนวน 634.54 ล้านบาท ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายเงินของกรมบัญชีกลาง จึงได้จัดประชุมเพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของกรมบัญชีกลาง ให้เป็นไปตามนโยบาย โดยในการประชุมครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ได้ข้อสรุปว่า ขณะนี้ ได้เบิกจ่ายงบประมาณ ไปแล้ว จำนวน 324.38 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28.41 ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับ และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณนั้น จะต้องทำทั้งกระบวนการ คือเริ่มจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และขั้นตอนการเบิกจ่ายเงิน ซึ่งปัญหาที่จะทำให้ล่าช้านั้น พบว่า มีขั้นตอนมาก ตั้งแต่การจัดทำ TOR และประกาศทางเว็บไซด์ การขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง การยกร่างสัญญา นอกจากนี้สำหรับหน่วยงานในภูมิภาคยังมีขั้นตอนการโอนเงินงบประมาณไปยังส่วนภูมิภาคอีกด้วย ซึ่งหน่วยงาน ในภูมิภาคต้องรอให้โอนเงินก่อนจึงจะดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง หลังจากการเบิกจ่ายเงินแล้วยังต้องทำบัญชีรวบรวมรายจ่ายเพื่อการควบคุมการใช้เงินอีกด้วย แต่มีเจ้าหน้าที่จำกัด ดังนั้น จากการหารือกัน จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายเงิน คือ1. ให้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่ต้องดำเนินการเกี่ยวกับการ จัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายเงิน เช่น สำนักงานเลขานุการกรม สำนักงานคลังจังหวัด ให้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ รวมทั้งวันหยุดราชการด้วย เพื่อเร่งดำเนินงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และมีเป้าหมายให้ทันภายในเดือนกรกฎาคม 2552 2. เฉพาะในปีงบประมาณนี้ จะให้มีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการต่างๆ เช่น คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา คณะกรรมการตรวจรับ ฯลฯ เพื่อตอบแทนหากสามารถปฏิบัติงานเสร็จภายในเวลา 5 วันทำการ โดยจะจ่ายให้เป็นค่าตอบแทนรายละ 1,000 บาท ซึ่งให้ฝ่ายเลขานุการไปศึกษาแนวทางให้ถูกต้องตามกฎระเบียบต่อไป 3. ในส่วนของค่าซ่อมแซม ปรับปรุงต่างๆ ซึ่งมีเงินบูรณะทรัพย์สินให้เร่งเบิกจ่ายให้เสร็จโดยเร็ว แต่อย่างช้าภายในเดือนกันยายนปีนี้ 4. โครงการใดที่ได้มีการทำสัญญาไปแล้วและมีระยะเวลาการส่งมอบงานจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ให้ขอความร่วมมือกับผู้รับจ้างทุกรายให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องแก้ไขสัญญา ส่วนโครงการใดที่ยังไม่ได้ลงนามให้เจรจาให้ส่งมอบงานให้เร็วขึ้น ให้ส่งมอบภายในเดือนกรกฎาคม 5. โครงการฝึกอบรม สัมมนาที่กรมจะเป็นผู้จัดให้จัดให้เสร็จเรียบร้อยภายในเดือนมิถุนายน 6. จะมีการประชุมเพื่อติดตามผลการดำเนินงานหรือหาทางแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นประจำทุกเดือน มาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยให้กรมฯ สามารถดำเนินงานตามมาตรการของรัฐบาลได้ และอาจเป็นแนวทางให้แก่หน่วยงานอื่นๆ นำไปปฏิบัติได้ด้วย นายมนัส แจ่มเวหา กล่าวต่อท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ