กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--สามารถคอร์ปอเรชั่น
กลุ่มบริษัทสามารถประกาศพร้อมรุกธุรกิจต่อเนื่องในปี 52 โดยมุ่งเน้นที่สายโทรคมนาคมและการสื่อสารซึ่งสอดคล้องไปกับนโยบายของภาครัฐ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในการติดต่อสื่อสารของประเทศ แม้ในช่วงปีที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับความผันผวนทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่กลุ่มบริษัทฯ ก็ยังสามารถประคับประคองผลการดำเนินงานมาได้ด้วยดี และเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี51 ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานในรอบครึ่งปีแรก โดยบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 10 สตางค์ และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ได้จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 3.5 สตางค์ สำหรับผลประกอบการรวมของปี 51 กลุ่มสามารถมีรายได้ทั้งสิ้น 16,286 ล้านบาท ลดลง 17 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิ 262 ล้านบาท ลดลง 50 เปอร์เซ็นต์
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าสาเหตุที่รายได้ลดลงส่วนใหญ่มาจากการลดลงของรายได้การจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเนื่องจากธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มบริษัทสามารถ อันประกอบด้วย ธุรกิจทางด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมสำหรับองค์กรภาครัฐ ธุรกิจการควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา ธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในประเทศกัมพูชา และธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ยังมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ จึงส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวม ยังอยู่ในสัดส่วนที่รับได้เมื่อเทียบกับสภาวะตลาด ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
สรุปผลประกอบการในแต่ละสายธุรกิจ ดังนี้ สายธุรกิจการสื่อสารข้อมูลและอุปกรณ์สื่อสารไอที (Mobile Multimedia) โดยบริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM มีรายได้ปี 2551 รวม 11,407 ล้านบาท ลดลง 26 เปอร์เซ็นต์ กำไรสุทธิ 114 ล้านบาท ลดลงประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 50 อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของไอ-โมบายไม่ได้ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยจำหน่ายได้ทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านเครื่อง คิดเป็นเครื่องยี่ห้อไอ-โมบายถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์และยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาด 28 เปอร์เซ็นต์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และแม้ว่ารายได้จากการจำหน่ายมือถือจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจ Content ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มไอ-โมบายเพิ่มขึ้นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ด้วยรายได้ 730 ล้านบาทในปี 51
สำหรับปี 52 กลุ่มไอ-โมบายพร้อมขยายตลาดใหม่ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) บราซิล และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ จะรุกตลาดเดิมที่ยังมีอัตราเติบโตสูงอยู่ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ คาดว่าปี 52 ภาพรวมธุรกิจจะยังมียอดขายที่ดี เพราะบริษัทฯมีการพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา โดยพร้อมเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติการใช้งานตรงกับความต้องการของตลาดอีกกว่า 30 รุ่น เน้นดูทีวีได้ และใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของตลาด รวมทั้งยังมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่รองรับ 3G และ CDMA โดยตั้งเป้าจำหน่ายทั้งสิ้น 5 ล้านเครื่อง เป็นตลาดภายในประเทศ 2.7 ล้านเครื่อง และต่างประเทศ 2.3 ล้านเครื่อง
สำหรับสายธุรกิจสื่อสารไอทีและโทรคมนาคมครบวงจร (ICT Solutions) โดยบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL มีรายได้ปี 51 รวม 2,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 33 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปี 50 โดยมีกำไรสุทธิ 111 ล้านบาทใกล้เคียงปี 50 รายได้ของสายธุรกิจนี้ส่วนใหญ่มาจากการติดตั้งระบบและการให้บริการด้านการสื่อสารครบวงจรแก่องค์กรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง
กลาโหม ทีโอที และ กสท เป็นต้น ปัจจุบันมีโครงการที่ค้างอยู่และเซ็นสัญญาเพิ่มเติม มูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท ประกอบกับยังมีโครงการใหญ่ที่รอการประมูลอีกจำนวนมาก คาดว่ากลุ่ม SAMTEL น่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 52 นี้
ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 4.7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นรายได้รวม 1,900 ล้านบาท โดยธุรกิจในต่างประเทศประกอบด้วยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศบนน่านฟ้าประเทศกัมพูชา และธุรกิจผลิตไฟฟ้าป้อนให้แก่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ภายใต้อายุสัมปทาน 10 ปี โดยบริษัท กัมปอต พาวเวอร์ แพลนด์ จำกัด มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นรวมกันถึง 18 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 50
นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “ถ้าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ในช่วงครึ่งปีนี้ จะเห็นบมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดตัวโปรเจคใหม่ที่สร้างรายได้ประจำ และเป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิมของเรา ตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ซึ่งแม้จะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ แต่บริษัทฯ ก็สามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมั่นคง และมั่นใจว่าปี 52 จะบรรลุเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ 23,000 ล้านบาท แน่นอน”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม PR.Corp.
วทิรา ลุยากร (ใหม่) โทร.0- 85-918-1172
วรรษกร ปลื้มจิตต์ (ตุ๊ก) โทร. 0-85-918-1175