กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
เออร์โน ลาสซโล เครื่องสำอางที่ได้รับการยอมรับจากแวดวงสังคมชั้นสูง และดารานักแสดงชั้นนำในต่างประเทศ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน ร่วม 80 ปี เป็นเครื่องสำอางที่ถือกำเนิดจาก เออร์โน ลาสซโล บุรุษผู้ใส่ใจในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ และเป็นผู้บุกเบิกศาสตร์แห่งเครื่องสำอางยุคใหม่ ที่ทำให้การแต่งหน้า ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนไม่ได้แต่ง โดยพร้อมเปิดให้สาวไทย ได้ใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ นำเข้าโดย รองศาสตราจารย์อนุกัลย์ อิศรเสนา กรรมการ บริษัท คอสเทรชเชอะรี จำกัด ซึ่งจะมีการเปิดตัว อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 มกราคม 2549 เวลา 18.30 น. ณ บิวตี้ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
หากจะเอ่ยถึง เออร์โน ลาสซโล ชีวประวัติของเขายาวนานมาพอ ๆ กับเครื่องสำอาง เออร์โน ลาสซโล เพราะเขาคือผู้ที่ทำให้ผู้คนในแวดวงสังคมชั้นสูง และดารานักแสดงชั้นนำ ต่างให้การยอมรับ ตั้งแต่เขาสำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ สาขาพยาธิวิทยาผิวหนังและโรคผิวหนัง มหาวิทยาลัยรอยัลฮังกาเรียน อลิซาเบธ ในบูดาเปสต์เมืองหลวงของฮังการี และเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรคลินิกศึกษา ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ที่นี่เองที่ทำให้เขาได้คนพบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่อยากใช้ครีมที่ทั้งเหนียวเหนอะหนะ และมีกลิ่นเหม็น เขาจึงคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีมขาวนวล ไร้กลิ่นใด ๆ จากจุดนี้เองทำให้เขาได้ก้าวย่างสู่อาชีพการผลิตเวชสำอางอย่างแท้จริง
ชื่อเสียงของเขากระฉ่อนไปทั่วโลก ผลิตภัณฑ์และวิธีการของเขา ยังได้ใช้ในการรักษาเจ้าหญิงสเตฟานี แห่งออสเตรีย โดยเนื้อครีมใส ที่มอบความเปล่งปลั่งสดใสและความละเอียดนิ่มนวลให้แก่ผิว ได้ทำให้เจ้าหญิงได้รับพัฒนาการขึ้นใหม่ ในสองสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมี ฟริดา กอมบาสโชย์จิ ดารานักแสดง ที่ถูกชายหนุ่มที่เธอสะบัดรักยิงเข้าที่ใบหน้า ลูกกระสุนทิ้งรอยบาดแผลลึกไว้ ที่ผิวหน้า เออร์โน ลาสซโล ได้ใช้ตัวยาสูตรพิเศษที่สามารถลดเลือนรอยแผลเป็น ให้เบาบางลงได้ภายใน 2-3 เดือน ทำให้เธอกลับมาเฉิดฉายในวงมายาในที่สุด จึงเป็นที่แน่นอนว่า ความสำเร็จของแพทย์มหัศจรรย์ ได้แพร่สะพัดไปอย่างกว้างขวาง ในขณะที่เออร์โน ลาสซโลก็ได้อุทิศชีวิต เพื่อทุ่มเทให้กับการดูแลปรับปรุง และความสมบูรณ์ของสภาพผิวของพวกเขาเหล่านี้ ว่ากันว่า เขาใช้เวลาในห้อง แล็ปมาก พอ ๆ กับการรักษาคนไข้เลยทีเดียว
ในปี 1927 สถาบันทางด้านเครื่องสำอางวิทยาเออร์โน ลาสซโล ได้เปิดทำการขึ้นที่ถนนสายสำคัญในเมือง บูดาเปสต์ วิธีการรักษาของเขา นอกจากจะรักษาตัวต่อตัวแล้ว เขายังใช้วิธี “การให้คำปรึกษาแบบไม่เห็นตัว” เป็นการโต้ตอบคำถามกับลูกค้า จากจดหมายที่พวกเธอเขียนเข้ามาถาม และบทความที่เขาเขียนส่งให้กับหนังสือพิมพ์รายวัน Pesti Naplo ทุก ๆ สัปดาห์นั้น เกิดเป็นธุรกิจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามทางจดหมายขึ้นเป็นครั้งแรก นอกเหนือจากวิธีการรักษาแบบทั่ว ๆ ไป แล้ว เขายังจะค้นคว้า เจาะลึกไปถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เข้มงวดให้คนไข้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
สถาบันเออร์โน ลาสซโล ได้ย้ายเข้าสู่อเมริกา ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1939 ที่วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ในกรุงนิวยอร์ค ซึ่งเหล่าบรรดาลูกค้าของเออร์โนนั้น ล้วนประกอบไปด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ บุคคลในแวดวงสังคมชั้นสูง และเหล่าดารานักแสดงในฮอลลีวู้ด อาทิ ดัชเชล แห่งวินเซอร์ (วอลลัส ซิมสัน) , มิสซิสจอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี้, ออเดรย์ เฮพเบิร์น, มาริลีน มอนโรว์, โยโกะ โอโนะ จนกระทั่งถึงลูกค้าคนปัจจุบัน อย่าง บาร์บาร่า สไตน์เซ็น, มาดอนน่า, บรูค ชิลด์, ซูซาน ซาแรนดอน, แซ็ค พอซิล, วาเนซซา คาร์ตั้น , เจนนิเฟอร์ เจสัน ลี เป็นต้น
เออร์โน ลาสซโล เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ในปี ค.ศ. 1973 ด้วยวัย 75 ปี ปัจจุบันบริษัท เออร์โน ลาสซโล กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เพนฮาลิกอน ซึ่งเป็นบริษัท จัดจำหน่ายเครื่องสำอาง น้ำหอมและแฟชั่นชั้นนำของโลก
ความเป็นอัจฉริยะของเขาทางการแพทย์ ไม่ได้สิ้นสุดลงตามอายุไข หากแต่สูตรต่าง ๆ ที่คิดค้นพัฒนาโดย เออร์โน ลาสซโล ยังคงอยู่และยังใช้ได้ดีกับผิวพรรณของอิสตรีในยุคปัจจุบัน ตามหลักการของนาฬิกา คือ ผิวจะเป็นปกติและสุขภาพดีที่สุด เมื่ออยู่ที่เวลา 12 นาฬิกา ซึ่งผิวที่มีสภาพอยู่ก่อน หรือ หลัง เวลา 12 นาฬิกา เป็นผิวที่มีความพกพร่อง ไม่สมบูรณ์ จึงต้องใช้ขั้นตอน คลีนซิ่ง , โลชั่น , มอยเจอร์ไรเซอร์ , เอ็กตร้าแคร์ และสุดท้าย ฟินิชชิ่ง ผ่านผลิตภัณฑ์ของเออร์โน ลาสซโล อาทิ ก้อนล้างหน้า, โลชั่นผสมแป้ง, เรกกูรา นามูไลเซอร์ เชคอิท เป็นต้น พบกับผลิตภัณฑ์ เออร์โน ลาสซโล ในห้างสยามพารากอนและห้างสรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรี่ยมได้ตั้งแต่บัดนี้ และจะทำพิธีเปิดตัวเคาน์เตอร์ผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 มกราคม 2549 เวลา 18.30 น. ณ บิวตี้ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--