กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
"ดร.สมชัย ว่องอรุณ" โชว์ความสำเร็จของ STAR ภายหลังขนสินค้าใหม่ร่วมโชว์ในงานมหกรรมสุขภัณฑ์โลกที่ประเทศเยอรมนี เผยได้ลูกค้าเพิ่ม 4 ราย โดย 2 รายเป็นลูกค้าจากอาฟริกา และตะวันออกลาง ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ถือเป็นโอกาสที่นอกจากจะเพิ่มรายได้แล้วยังขยายฐานตลาดไปในเวลาเดียวกัน คาดรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ในปีแรกไม่ต่ำกว่า 30 ลบ. เชื่อสิ้นปีดันรายได้โตต่อเนื่องจากปีก่อนได้สำเร็จ
ดร. สมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) (STAR) บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย สินค้าสุขภัณฑ์แบรนด์ไทยแท้ภายใต้ชื่อ Star เปิดเผยถึงความสำเร็จภายหลังเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าสุขภัณฑ์โลก หรือ ISH 2009 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคม 2552 ว่า สินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากทั้งลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เป็นอย่างดี โดยการแสดงสินค้าในปีนี้ บริษัทฯ ได้นำสินค้าใหม่ที่เพิ่งจะพัฒนาเข้าสู่ตลาดเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมาเข้าไปจัดแสดงในงานดังกล่าวเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า two tone รวมทั้ง คอลเลคชั่น Black & White สุขภัณฑ์ที่เน้นสีขาวสลับดำ ซึ่งเป็นสีสันที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์นิยมในตลาดสุขภัณฑ์โลกปี 2008-2009 ส่งผลให้ลูกค้าเดิมที่บริษัทฯ ได้ติดต่อซื้อขายสินค้ามานานและลูกค้าใหม่ให้ความสนใจสินค้า STAR เป็นอย่างมาก
"ปีนี้ถือได้ว่า STAR ประสบความสำเร็จจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ISH ที่เยอรมนีเกินกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ เพราะเราได้นำสินค้าใหม่ที่ส่งวางตลาดในประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมาร่วมไปจัดแสดงด้วย โดยเฉพาะสินค้า twotone รวมทั้ง คอลเลคชั่น Black & White ที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์นิยมในปี 2008-2009 ทำให้มีลูกค้าใหม่แสดงความสนใจสินค้าของบริษัทเป็นอย่างมาก ประกอบกับ STAR ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวต่อเนื่องมานานหลายปี ทำให้ลูกค้าบางรายมีความมั่นใจในตัวบริษัทฯ มากขึ้น จึงได้ตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า ซึ่งในปีนี้ STAR ได้ลูกค้าใหม่จากงานดังกล่าวที่เป็นรายใหญ่ประมาณ 4 ราย โดย 1 รายเป็นลูกค้าจากประเทศในกลุ่มยุโรปที่บริษัทฯ ยังไม่เคยส่งสินค้าเข้าไปจัดจำหน่ายมาก่อน อีก 2 รายเป็นผู้นำเข้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง และอีก 1 รายจากแอฟริกา ซึ่งทั้งตะวันออกกลาง และ แอฟริกา ถือเป็นตลาดใหม่ที่บริษัทฯ ยังไม่เคยเปิดตลาดมาก่อนเช่นเดียวกัน"
ดร.สมชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ลูกค้าใหม่ทั้ง 4 ราย อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดเรื่องตัวสินค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปเรื่องคำสั่งซื้อสินค้าได้ในเร็วๆ นี้ และจะรับรู้เป็นรายได้ทันในครึ่งหลังของปี 2552 โดยเบื้องต้นคาดว่าจะทำรายได้ไม่น้อยกว่า 30 ลบ.จากลูกค้าทั้ง 4 ราย ซึ่งรายได้ที่จะมาจากกลุ่มลูกค้าใหม่นี้ บริษัทฯ ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการสำหรับปี 2552 ดังนั้นเมื่อมีรายได้เข้ามาเพิ่ม จะนับเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมทันที ทั้งนี้ในปี 2552 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของรายได้ไว้ที่ 10-15% จากปี 2551 ที่มีรายได้อยู่ที่ 230 ล้านบาท ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว เนื่องจากปัจจุบันตลาดส่งออกของ STAR โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักยังเติบโตในทิศทางที่ดี ซึ่งมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ อย่างไรก็ดี คำสั่งซื้อที่จะเพิ่มขึ้นใหม่บริษัทยังไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม เนื่องจากโรงงานยังสามารถรองรับคำสั่งซื้อใหม่ได้อย่างคล่องตัว
"พูดได้ว่าการเกิดวิกฤตการเงินโลกในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ ไม่มากนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ STAR เคยผ่านวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญมาแล้ว โดยเฉพาะในปี 2540 ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อปัญหาทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างคล่องตัว ประกอบกับถ้าเปรียบเทียบกับในอดีตจะพบว่าปัจจุบัน STAR มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น มีหนี้สินเพียง 0.5 เท่า มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสะท้อนให้มูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) ณ สิ้นปี 2551 อยู่ที่ระดับ 2.58 บาท และเรายังจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกด้วย" ดร.สมชัย กล่าวในที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) โทร.02-554-9394 , 085-133-0184