วัน-ทู-โก ชวนสัมผัสและดื่มด่ำศิลปวัฒนธรรม เมืองสองแคว ในเที่ยวบิน “กรุงเทพฯ-พิษณุโลก”

ข่าวท่องเที่ยว Friday April 17, 2009 08:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--สายการบินวันทูโก สายการบินวันทูโก เดินหน้าร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ ล่าสุดเปิดเส้นทางเพิ่ม “กรุงเทพฯ พิษณุโลก กรุงเทพฯ” ขยายและเพิ่มโอกาสการเดินทางภายในประเทศให้ครึกครื้นมากขึ้น พร้อมตอกย้ำจุดยืนทั้งเรื่องคุณภาพการบริการ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และพร้อมที่ตอบสนองความต้องการและวัตถุประสงค์ในการเดินทางของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม สายการบินวันทูโก เปิดให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศครอบคลุมเส้นทางสำคัญไปยังจังหวัดต่างๆ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ภูเก็ต ตรัง สุราษฎร์ธานี และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ตอบรับความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้น ทางสายการบินวันทูโกจึงได้มีการขยายเส้นทางบินใหม่ เที่ยวบินไปกลับกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - พิษณุโลก ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ตามตารางบินดังนี้ - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - พิษณุโลก เที่ยวบิน OX 8178 เวลา 18.30 น. ถึงปลายทาง 19.20 น. - พิษณุโลก - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) เที่ยวบิน OX 8179 เวลา 19.50 น. ถึงปลายทาง 20.35 น. ร.อ.ขจิต หัพนานนท์ ประธานบริษัท และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินวันทูโก กล่าวว่า- - “ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางสู่เมืองพิษณุโลก เมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลายที่น่าศึกษาและค้นหา ซึ่งนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตภูมิปัญญาของท้องถิ่นที่มีสิ่งที่สนใจมากมาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันงดงามที่จะสร้างความประทับใจทีเดียว และที่สำคัญจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทย ที่มุ่งเน้นอยากให้คนไทยพากันเที่ยวไทยให้มากขึ้น” สายการบินวันทูโกจึงพาทุกท่านสัมผัสและดื่มด่ำกับศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลาย ตื่นตาตื่นใจกับ รถรางและสามล้อทัวร์ชมเมือง ที่เป็นที่กล่าวขานของนักท่องเที่ยว สัมผัสความอร่อยหลากหลายในงาน “มหกรรมอาหารและสินค้าของที่ระลึกจังหวัดพิษณุโลก” ซึ่งถือเป็นงานประเพณีของชาวพิษณุโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนเมษายนและธันวาคม ก็คล้ายๆ งานวัดที่มีของและสินค้าเหมือนกรุงเทพฯ เลย แต่หากดูดีๆ จะเห็นความต่างที่ล้วนเป็นถิ่นกำเนิดของเมืองพิษณุโลก ไม่ว่าจะเป็น ‘หมี่กรอบน้ำมนต์’ เป็นหมี่กรอบโบราณ มีลักษณะเส้นใหญ่ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของท้องถิ่นเมืองนี้จริงๆ แต่ความแปลกอยู่ที่สูตรสมุนไพร ที่มีหลากสีสันน่ารับประทาน ทั้งสีม่วงทำจากดอกอัญชัน, สีแดงได้จากผลกระเจี๊ยบ, สีเขียวทำจากใบเตย และรสดั้งเดิมเป็นสีขาวอมเหลืองนวล “ทำหมี่กรอบโบราณมา 10 ปีแล้ว แต่ 3 — 4 เดือนหลังทำเป็นสีสัน ตอนแรกทำสีดอกอัญชันและกระเจี๊ยบก่อน หลังจากนั้นสีอื่นๆ ก็ตามมา ถ้าเป็นสีเขียวให้ความสดชื่น และสีชมพูจากแก้วมังกรก็มีนนะ แต่จะเป็นตามฤดูกาล เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ กรอบนุ่มอร่อย เพราะเราใช้ส่วนผสมของมะนาว หากเป็นที่อื่นๆ จะใช้มะขาม ถึงแม้หน้ามะนาวแพง เราก็ต้องใช้ เพราะจะทำให้ได้ความอร่อยรสคงที่” พรภิมนต์ ยอดทอง เจ้าของร้านบอกเล่า นอกจากนี้ยังมี ‘ทองม้วนสด’ ของแม่ทองคำ ชุมชนเจดีย์ทอง ที่เป็นที่นิยมของชาวเมืองสองแควที่รู้จักกันดีมา 20 ปีแล้ว ราคากล่องละ 20 บาท ทายาทรุ่นสอง รตี สังข์สุวรรณ กับ ธนนท์ โอภาสทิพากร เล่าว่า- - “คุณแม่เป็นคนเริ่ม ตอนนี้เรามาทำต่อเป็นรุ่นลูก เดิมทีทำแต่ทองม้วนกรอบ คุณแม่ได้คิดดัดแปลง ทำเป็นทองม้วนสด ที่มีความนุ่ม...หอม รสใบเตย และที่สำคัญส่วนผสมต่างๆ เป็นของดีทั้งหมด มะพร้าวเราเอามาจากทับสะแกจังหวัดประจวบฯ ที่ขึ้นชื่อ จะให้ความมันอร่อยที่มะพร้าว และต้องทานสดๆ ร้อนๆ จะอร่อยมาก ทางกับกาแฟ หรือชาร้อนจะเข้ากันดี ร้านจะอยู่แถวสี่แยกประตูม้วนหลังวัดใหญ่ ถ้าสนใจโทร.สั่งได้ที่ 080 5111 774 หรือ 055 280 907” ‘กล้วยอบน้ำผึ้งทอด’ อีกความอร่อยที่ไม่ควรพลาด บรรจุอยู่ในกล่องสีแดงสดใส ราคาอิ่มอร่อยที่ 20 บาท “มีเจ้าเดียวในพิษณุโลก ขายแฟรนส์ไชส์ด้วย ความอร่อยอยู่ที่แป้งที่ใช้ถึง 7 ชนิด เอามาผสมให้ได้ที่ และกล้วยจะใช้กล้วยน้ำหว้าของบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งกล้วยของที่นี่เป็นต้นตำรับจะขึ้นชื่อให้ความอร่อย ที่ส่งไปขายทั่วประเทศ เมื่อได้กล้วยมาแล้วจะนำมาผ่าครึ่ง แล้วนไปตากก่อน จึงนำชุบแป้งใส่ลงไปในกระทะทอด ได้ที่ดีแล้วก็ตักออกให้สะเด็ดน้ำมัน ทิ้งไว้สักพัก จึงค่อยบรรจุลงกล่อง แป้งจะเนื้อบาง กรอบอร่อย แต่ไม่หวาน ทานกับกาแฟจะเข้ากันดี คนที่นี่นิยมกัน และหน้าหนาวจะกรอบอร่อยมาก หากเอาเข้าตู้เย็น แป้งยังคงกรอบอยู่ แต่กล้วยจะแข็งนิดนึง เอาไปเข้าเตาไมโครเวฟได้ แต่ความอร่อยจะไม่เท่ารับประทานสดๆ แต่จะเก็บได้ถึง 2 อาทิตย์ในตู้เย็น” กฤษดากร น้อยเพ็ง เจ้าของร้านบอกเล่า และหากใครสนใจอยากรับประทานหรือรับไปขาย(แฟรนส์ไชส์) ติดต่อโทร. 086 825 0054 นอกจากนี้ ยังมีของอื่นที่หน้าตาน่ากิน ไม่ว่าจะเป็น ส้มตาทะเลร้านป้าแขก เจ้าเก่าเมืองสองแคว, หอยทอดเจ๊ฮวย เป็นร้านขึ้นชื่อของจังหวัด มีทั้งปลาหมึก กุ้งสด และหอย ที่คัดสรรมาแต่สดๆ ตัวอวบอ้วน, ร้านปลาทอดราดสมุนไพร มีปลาคาร์กิลล์ สด สะอาด ตัวแดงสดใส เนื้อนุ่มอร่อย และร้านบะหมี่โบราณคลุกเครื่องต้นตำรับปรุงถวาย ที่รับประกันความอร่อย ในราคากล่องละ 25 บาท เป็นต้น และหากมาเยือนเมืองสองแคว ต้องไปมนัสการพระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีรัตน มหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) และกราบไหว้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่อุทยานประวัติศาสตร์ พระราชวังสนามจันทร์ เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต หลังจากนั้นชื่นชมและศึกษาวิถีชีวิตภูมิปัญญาของท้องถิ่น ที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้าน จ่าทวี งานนี้ คุณพรศิริ บูรณเขตต์ ลูกสาวจ่าทวี ให้การต้อนรับพร้อมบรรยายให้ความรู้ถึงรากเหล้าวิถีชีวิตไทยๆ ได้อย่างออกรสและเนื้อหาที่มีคุณค่าที่สามารถนำมาใช้ได้จริงๆ ในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้นหากใครมาเยือนถึงเมืองนี้ไม่ควรพลาด เพราะสุดยอดจริงๆ บรรยากาศก็ร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด พร้อมปิดท้ายด้วยการศึกษาอุทยานประวัติศาสตร์มรดกแห่งโลกอันเลื่องชื่อ ณ จังหวัดสุโขทัย เป็นของแถมเพราะอยู่ไม่ไกลกันที่ทำให้ได้สัมผัสดื่มด่ำกับศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยได้อย่างเพลิดเพลินและคุ้มค่ากับการเดินทาง พบกับอีกทางเลือกของความสะดวกสบายตลอดเส้นทางบินกับวันทูโกได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในราคาเริ่มต้นที่ 1,250 บาท พร้อมบัตรโดยสารชุดราคาพิเศษ I Pass สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมสำรองที่นั่งได้ที่ call center 1126 หรือ www.fly12go.com หรือตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ