กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--ศาลปกครอง
ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.๕/๒๕๔๙ ซึ่งเป็นคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับพวกยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวก กล่าวหาว่าพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๘ และพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๔๘ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยส่วนหนึ่งของคำพิพากษาได้วินิจฉัยว่านายปริญญา นุตาลัย ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องห้ามมิให้เป็นกรรมการจัดทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๓ หลังจากนั้น นายปริญญาฯ ได้มีหนังสือถึงตุลาการศาลปกครองสูงสุดขอให้ชี้แจงกรณีวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว
ซึ่งต่อมาตุลาการหัวหน้าคณะในศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งเรียกให้นายปริญญาฯ มาชี้แจงการยื่นหนังสือดังกล่าวต่อศาล เพื่อพิจารณาว่าการกระทำของนายปริญญาฯ เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาลหรือไม่ ในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙ นายปริญญาฯ มาชี้แจงต่อศาลปกครองสูงสุดตามกำหนดนัด ศาลปกครองสูงสุด แจ้งบทบัญญัติเกี่ยวกับความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และความผิดฐานดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา ให้นายปริญญาฯ ทราบ นายปริญญาฯ รับทราบแล้ว ให้ถ้อยคำต่อศาลปกครองสูงสุดว่า ตนไม่ทราบว่ามีบทบัญญัติในเรื่องละเมิดอำนาจของศาลปกครอง และไม่ทราบว่าประมวลกฎหมายอาญามีบทบัญญัติเกี่ยวกับการดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาคดีทั้งสองกรณี ซึ่งมีบทลงโทษตามกฎหมายให้จำคุกหรือปรับหรือทั้งจำทั้งปรับ นายปริญญาฯ แจ้งว่าไม่มีเจตนาที่จะกระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือดูหมิ่นศาล และขอถอนหนังสือขอให้ชี้แจงฯที่ได้ยื่นไว้ ศาลอนุญาตให้นายปริญญาฯ ถอนหนังสือดังกล่าวได้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าวเป็นการพิจารณาโดยเปิดเผย มิใช่ศาลไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปรับฟังคำชี้แจงและไม่ใช่กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดชี้แจงเหตุผลตามคำพิพากษาแก่นายปริญญาฯ จนเป็นที่พอใจ ตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับแต่อย่างใด