F5 เปิดตัวโซลูชันอัจฉริยะ บิ๊ก-ไอพี เวอร์ชัน 10 ช่วยองค์กรจัดระเบียบไอทีสอดคล้องกับธุรกิจ ลดค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้เห็นผลรวดเร็ว

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday May 6, 2009 16:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย ปักหมุดวิสัยทัศน์ด้านการผสานรวมการทำงานของแอพพลิเคชันเป็นหนึ่งเดียว พร้อมบริการขับเคลื่อนข้อมูลในองค์กรแบบไดนามิก F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน หรือ เอดีเอ็น (ADN - Application Delivery Networking) ประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์ บิ๊ก-ไอพี เวอร์ชัน 10 (BIG-IP? version 10) ซึ่งนวัตกรรมโซลูชันนี้ จะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถจัดระเบียบไอทีและธุรกิจให้ดำเนินงานไปในแนวทางเดียวกัน ปรับปรุงการทำงานของแอพพลิเคชันให้เกิดความคล่องตัวยิ่งขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CapEx) และค่าใช้จ่ายส่วนปฏิบัติการ (OpEx) ได้อย่างเห็นผล นอกจากนี้ ยังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ดียิ่งขึ้น โดย บิ๊ก-ไอพี วี10 จะรวมการทำงานด้านความปลอดภัยของแอพพลิเคชัน การทำงานที่เหมาะสม และการเร่งความเร็วในการเรียกใช้แอพพลิเคชัน ไว้ภายในอุปกรณ์เดียว เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจ และผู้ให้บริการมีระบบโครงสร้างไอทีที่สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่นี้ ยังเป็นส่วนที่สนับสนุนการเปิดตัวฮาร์ดแวร์แพลตฟอร์มใหม่ของ F5 คือ บิ๊ก-ไอพี 8900 เช่นกัน บิ๊ก-ไอพี วี 10 เปรียบเสมือนหลักไมล์ที่ช่วยสนับสนุนวิสัยทัศน์ของ F5 ในเรื่องการผสานการทำงานของแอพพลิเคชันให้เป็นหนึ่งเดียว (Unified Application) และการบริการด้านการขับเคลื่อนข้อมูล (Data Delivery Services) ซึ่งจะให้นิยามใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรไอที เช่น แอพพลิเคชัน เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และระบบเครือข่าย ให้ทำงานได้สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน เพื่อนำเสนอการบริการที่คล่องตัวสามารถปรับเปลี่ยนได้สอดคล้องตามความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง โดยบริการเหล่านี้จะให้โครงข่ายการทำงานที่คล่องตัวด้วยกลไกการทำงานที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพ เพื่อผสานการทำงานร่วมกับโมเดลด้านคอมพิวติ้งแบบใหม่ๆ เช่น เวอร์ชวลไลเซชัน คลาวด์คอมพิวติ้ง และการใช้ซอฟต์แวร์ในรูปแบบของการบริการ (SaaS - Software as a service) โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมของระบบงานที่ใช้อยู่ ระบบงานบิ๊ก-ไอพี เป็นโซลูชันที่ทำให้ระบบโครงสร้างมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น F5 นำเสนอวิธีการนำเสนอการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันแบบผสานรวมการทำงานเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรด้านไอทีใน 3 ด้านด้วยกัน คือการปรับใช้งานได้อย่างรวดเร็ว การให้บริการแบบออนดีมานด์ และมีเครื่องมือที่ช่วยลดระยะเวลาในการฝึกอบรมและการบริหารจัดการ นอกจากนี้ การผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว การรวมระบบงาน การทำเวอร์ชวลไลเซชัน และการใช้ระบบโครงสร้างเพื่อขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าจ่ายด้านฮาร์ดแวร์ ด้านพลังงาน การใช้พื้นที่ และระบบควบคุมความเย็นได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ การรู้จักการทำงานของระบบงานส่วนอื่น นับเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้ประสบผลสำเร็จ ระบบโครงสร้างแบบไดนามิก จะสามารถเข้าใจการทำงานของแอพพลิเคชัน เข้าใจถึงการปรับการทำงานบนสภาวะแวดล้อมเดียวกัน และยังเข้าใจผู้ใช้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถปรับนโยบายการทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนการทำงานของแอพพลิเคชันได้อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ การที่โซลูชันของ F5 สามารถนำเสนอบริการรวมเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันในด้านต่างๆ เช่น การใช้งานได้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้ความปลอดภัย ช่วยเร่งความเร็วในการทำงาน และอื่นๆ อีกมากมาย ข้ามระบบเครือข่ายแบบไดนามิกได้ จึงช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถติดตั้งเพื่อใช้งานโซลูชันที่สมบรูณ์แบบ ที่ให้ทั้งความฉลาดในการบริหารจัดการ การทำงานร่วมกัน และสามารถใช้ทรัพยากรในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย บิ๊ก-ไอพี วี 10 สร้างขึ้นโดยนำความสามารถของ F5 ที่มีอยู่แล้วคือการรู้จักทุกแง่มุมการทำงานของแอพพลิเคชัน พร้อมโครงข่าย iSessions ที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยในการเชื่อมต่อระหว่างไซต์ซึ่งใช้อุปกรณ์บิ๊ก-ไอพีทั้งสองฝั่ง “บิ๊ก-ไอพี วี 10 เปรียบเสมือนหลักไมล์ที่เป็นตัวกำหนดให้เห็นถึงการก้าวสู่ตลาดระบบขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยองค์กรธุรกิจคืนทุนจากระบบไอทีที่ลงไปอย่างเห็นได้ชัด” นายอีริค กีซา รองประธานฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดของ F5 กล่าว “สำหรับองค์กรธุรกิจที่ต้องการปรับใช้โมเดลคอมพิวติ้งแบบไดนามิก เช่น เวอร์ชวลไลเซชัน และบริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง เพื่อให้สามารถใช้แอพพลิเคชันแบบออนดีมานด์ได้สำเร็จนั้น สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือระบบโครงสร้างพื้นฐานจะต้องรู้จักการทำงานของแอพพลิเคชันทุกแง่มุม ซึ่ง F5 ได้นำเสนอวิธีการรวมที่ช่วยให้ระบบรู้จักการทำงานดังกล่าว เพื่อเข้าใจถึงผู้ใช้ อุปกรณ์ และสถานที่ดำเนินการ เงื่อนไขของระบบเครือข่าย และความต้องการด้านแอพพลิเคชัน รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนการดำเนินงานได้ตามเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธฺภาพ ทั้งนี้ บิ๊ก-ไอพี วี 10 นับว่าเป็นเสาหลักในโมเดลการทำงานลักษณะนี้ ที่ให้ระบบรวมการทำงานระดับใหม่ที่มีพลานุภาพ เพื่อรวมศูนย์การขับเคลื่อนการทำงานของแอพพลิเคชัน และนำเสนอบริการที่สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้อย่างแท้จริง” ยานซีย์ สมิทธ์ ผู้อำนวยการ กลุ่มยูนิฟายด์ คอมมูนิเคชันส์ ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “บิ๊ก-ไอพี วี 10 สนับสนุนวิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ ในส่วนโซลูชัน ยูนิฟายด์ คอมมูนิเคชันส์ (Unified Communications Solutions) หรือโซลูชันระบบสื่อสารที่ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว เช่น ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ คอมมูนิเคชันส์ เซิร์ฟเวอร์ 2007 อาร์ 2 (Microsoft Office Communications Server 2007 R2) ด้วยการเพิ่มอำนาจในการสื่อสารข้ามแอพพลิเคชัน เครือข่าย และอุปกรณ์ที่องค์กรธุรกิจรู้จักและมีการใช้งานอยู่แล้ว การที่ F5 ได้ทำงานร่วมกันไมโครซอฟท์นั้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถรวมศูนย์งานด้านแอพพลิเคชันที่ช่วยปรับปรุงการสื่อสารและความร่วมมือกันระหว่างผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ในขณะที่ นายชีการ์ ไอยาร์ รองประธานผ่ายพันธมิตรด้านระบบโครงสร้างของวีเอ็มแวร์ ได้กล่าวถึงการเปิดตัว บิ๊ก-ไอพี วี 10 ในครั้งนี้ว่า “วีเอ็มแวร์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเวอร์ชวลไลเซชันชั้นนำของอุตสาหกรรม ก็กำลังผลักดันเพื่อช่วยลูกค้าลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนและค่าใช้จ่ายส่วนปฏิบัติการ ทั้งในส่วนของดาต้าเซ็นเตอร์ และเดสก์ทอป อยู่เช่นกัน โดยทั้ง วีเอ็มแวร์ และ F5 ต่างมีวัตถุประสงค์ที่เหมือนกันคือต้องการช่วยให้ลูกค้าสามารถเพิ่มคุณค่าสูงสุดจากความริเริ่มด้านเวอร์ชวลไลเซชัน ซึ่ง บิ๊ก-ไอพี วี 10 สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีในการปรับการทำงานของแอพพลิเคชันในสภาพแวดล้อมการทำงานบนระบบเสมือนของวีเอ็มแวร์ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่า บิ๊ก-ไอพี เพื่อเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดจากการปรับใช้เดสก์ทอปแบบเวอร์ชวลด้วย VMware View Templates แบบใหม่” ทั้งนี้ บิ๊ก-ไอพี เวอร์ชัน 10 และผลิตภัณฑ์ในโมดูลที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ในโมดูลที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ บิ๊ก-ไอพี แอลทีเอ็ม (BIG-IP LTM) เอเอสเอ็ม (ASM — Application Security Manager) เว็บแอคเซเลอเรเตอร์ (WebAccelerator) โกลบอล ทราฟฟิก แมเนเจอร์ (Global Traffic Manager) และ ลิงก์ คอนโทรลเลอร์ (Link Controller) ซึ่งสำหรับ แอพพลิเคชัน เรดดี้ เทมเพลท (Application Ready Templates) ใหม่นี้ จะไม่มีการคิดค่าบริการเพิ่มเติม รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊ก-ไอพี เวอร์ชันใหม่นี้ สามารถดูได้ที่ www.f5.com/products/big-ip/v10.html เกี่ยวกับ F5 เน็ตเวิร์กส์ F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้นำระดับโลกด้านแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแอพพลิเคชัน มุ่งเน้นที่การสร้างความมั่นใจว่าการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือ โดยโครงข่ายระบบโครงสร้างที่ยืดหยุ่นของ F5 ช่วยให้ใช้นวัตกรรมที่เกิดจากการผลักดันของชุมชนได้ ช่วยยกระดับระบบไอทีขององค์กรธุรกิจให้มีความคล่องตัว และสามารถนำเสนอบริการได้แบบไดนามิกได้ ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้แก่ธุรกิจ วิสัยทัศน์ด้านการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและข้อมูลด้วยการผสานรวมการทำงานเป็นหนึ่งเดียว (Unified Application and Data Delivery) ของ F5 ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจปรับใช้โซลูชันระบบขับเคลื่อนแอพพลิเคชันได้โดยไม่ต้องพิจารณาเงื่อนไขอื่นล่วงหน้า ซึ่งนับเป็นการกำหนดนิยามใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรไอที เช่น แอพพลิเคชัน เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และระบบเครือข่าย ให้ทำงานได้สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน เพื่อรวมศูนย์การขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและช่วยลดค่าใช้จ่าย ทั้งองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซ ผู้ให้บริการต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการด้านเนื้อหาบนเว็บ 2.0 ต่างเชื่อมั่นว่า F5 สามารถช่วยให้แอพพลิเคชันของตนทำงานได้อย่างต่อเนื่อง F5 หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเรียกดูได้จากเว็บไซต์ www.f5.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด คุณทนุ รักษาผล 02-655-6633 / 081-575-9523 thanu@apprmedia.com คุณกณวรรธน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 02-655-6633 / 089-990-1911 kanawat@apprmedia.com คุณบุษกร ศรีสงเคราะห์ 02-655-6633 / 081-911-0931 busakorn@apprmedia.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ