MINOR มีรายได้ประจำไตรมาส 1 ปี 2552 692 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12

ข่าวทั่วไป Monday May 18, 2009 09:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MINOR) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2552 มีรายได้เท่ากับ 692 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12 จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยส่งผลกระทบต่อธุรกิจไลฟ์สไตล์และธุรกิจรับจ้างผลิต ทั้งนี้ MINOR ร่วมกับบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ได้ดำเนินการด้านแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อขจัดการถือหุ้นไขว้ โดย MINT ทำคำเสนอซื้อหุ้นของ MINOR โดยการแลกหุ้น 1 หุ้นของ MINOR กับ 1.14 หุ้นของ MINT จากแผนในครั้งนี้ MINOR จะบันทึกสำรองการลดมูลค่าของการลงทุนใน MINT จำนวน 2,343 ล้านบาท ส่งผลให้มีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้จำนวน 2,296 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจค้าปลีกมีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นร้อยละ 44 ของยอดขายรวมในไตรมาส 1 ปี 2552 โดยมีรายได้ 301 ล้านบาท ลดลงในอัตราร้อยละ 15 จากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจโลกต่อธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทย ทั้งนี้ ธุรกิจแฟชั่นภายใต้แบรนด์ เอสปรี บอสสินี ทิมเบอร์แลนด์ และชาร์ลส แอนด์ คีธ มียอดขายเท่ากับ 248 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16 ส่วนธุรกิจเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ เรด เอิร์ธ บลูม ลาเนจ และ สแมชบ๊อกซ์ มียอดขาย 53 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14 ธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าอุปโภคของ MINOR ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นร้อยละ 50 ของยอดขายรวมในไตรมาสนี้ ลดลงร้อยละ 6 จากการชะลอการสั่งผลิตสินค้าจากลูกค้าซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าในกลุ่ม Fast Moving Consumer Goods (FMCG) ที่ได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ลดลงทั้งในตลาดโลกและตลาดในภูมิภาค อย่างไรก็ดี โรงงานการผลิตของ MINOR ที่ได้สร้างในปี 2547 นั้น จัดเป็นหนึ่งในโรงงานการผลิตที่มีคุณภาพสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการของลูกค้ารายใหม่ๆ และตลาดของผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ ในอนาคต ทั้งนี้ MINOR อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างทางธุรกิจกับ MINT ซึ่งภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2552 และได้รับการอนุญาตจากสำนักงาน กลต. ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมานั้น MINT ได้ประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ MINOR ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 ซึ่งภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อหุ้นดังกล่าว MINOR จะถูกเพิกถอนหุ้นการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ จากรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระที่ได้ให้ความเห็นในกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ MINOR ปฏิเสธการเสนอซื้อหลักทรัพย์ และยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของ MINOR ต่อไป จะได้รับผลกระทบที่สำคัญ ซึ่งเกิดจากบริษัทมีผลขาดทุนสะสมและมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต นอกจากนี้ จะขาดสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นเนื่องจากหลักทรัพย์ถูกเพิกถอนจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นจากต่างประเทศในประเทศไทย ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอางค์ และผลิตภัณฑ์เพื่อการศึกษา โดยเครื่องหมายการค้าที่บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายในปัจจุบันได้แก่ เอสปรี เรดเอิร์ธ บอสสินี่ ทิมเบอร์แลนด์ ชาร์ลสแอนด์คีธ บลูม ลาเนจ สแมช บ็อกซ์ ทูมี่ เฮงเคล ไทม์ไลฟ์ และเวิลด์บุ๊ค นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำในธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า โดยมีโรงงานเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน MINT โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 18.6 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในปัจจุบัน รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ Press Contacts: Pratana Mongkongkul / Prapharat Tangkawattana Tel: (662) 381-5151

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ