กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — วันนี้ราคาทองคำ มีแนวโน้มลดลง จากการขายทำกำไรในตลาดนิวยอร์ค ทำให้ราคาทองคำแท่งร่วงลงในตลาดนิวยอร์ก แม้ค่าของเงินดอลลาร์จะยังคงอ่อนค่าและราคาน้ำมันจะยังพุ่งขึ้นก็ตาม (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป) อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตาในช่วงนี้คือ การประชุมของ ECB และ BOE ในวันพฤหัสนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ย และหากเป็นจริงจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แล้วไปกดราคาทองให้ร่วงลงได้
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source: Reuters Daily
Source: Reuters 30 Min
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — ADX 30 นาทีค่าต่ำกว่า 20 ทำให้ดูทองคำในระยะสั้นยังคาดทิศทางที่ชัดเจน, กราฟ MACD 30 นาทีอยู่ในแดนลบบ่งบอกถึงทิศทางขาลง ทว่าเส้น MACD กำลังจะตัดเส้น Trigger จากด้านล่างและ MACDF กำลังเคลื่อนตัวจากแดนลบสู่แดนบวก, Fast Stochastic ดูบวกอยู่ในช่วงนี้, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 43.144 ถือได้ว่าอยู่ในระดับกลางๆและไม่มีสัญญาณ oversold หรือ overbought จึงมองได้ว่าทิศทางราคาทองคำน่าจะยังไม่รุนแรงในวันนี้ แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $969-$984 ทิศทางตลาดระยะสั้นยังดูเป็นตลาด Sideways ระหว่างแนวรับแนวต้าน ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้แนวโนมทรงตัวอยู่ในช่วงราคาเดิมกับเมื่อวาน ที่ระดับ ฿34.00-฿34.20
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Index ระดับวันยังคงบ่งบอกว่าทิศทางโดยรวมของราคาทองคำยังดูบวกอยู่, RSI อยู่ที่ระดับ 74.24 และยังถือเป็นสัญญาณ overbought และทำให้ดูว่าทองคำควรปรับฐานลงเล็กน้อยในช่วงนี้, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่, Fast Stochastic ระดับวันอยู่ที่ระดับThreshold และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงเล็กน้อย, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นบวก โดยจะใช้แนวต้านเดิมที่ $965 เป็นแนวรับที่สำคัญต่อไป และแนวต้านราคาต่อไปจะอยู่ที่ $1,000 ทว่านักลงทุนควรจับตาดูการปรับฐานของราคาทองคำก่อนจะซื้อหรือ Long
ตาราง 3 แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ
Source: YLG’s estimations
พิจารณาตารางที่ 3 และกราฟด้านซ้ายมือ พบว่าราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดเมื่อวานนี้ (เส้นสีแดง = 15,900 บาท) ซึ่งสูงกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,810 หรือที่ $974.85) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ 90 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,930 บาท จะมีพรีเมี่ยมจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 120 บาท ซึ่งมากกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะขาย (Short) GFM09 แล้ว ซื้อ ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 120-90 = 30 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาทเท่านั้น จึงยังไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
กลยุทธ์และคำแนะนำ หากนักลงทุนต้องการเล่นระยะสั้นให้เล่น Range Trading ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $969-$984 และนักลงทุนควรจับตาดูทิศทางราคาทองคำในช่วงตลาด London ทว่าหากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้สูงให้ท่านเล่น Long โดยคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปจนถึง High เดิมที่ $1,000 โดยปรับฐานเพียงเล็กน้อย หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้น้อยให้รอจังหวะเล่น Long หลังราคาปรับฐานลงเล็กน้อยและเริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง ท่านที่ถือ Long ไว้ให้ถือต่อได้ ส่วนท่านที่ถือ Short ให้หาจังหวะปิดในช่วงนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐประกาศคาดการณ์ตัวเลขหลายตัว (ดูตารางปฏิทินในหน้าถัดไป) แต่ที่สำคัญสุดคือดัชนีกิจการทางภาคอุตสาหกรรม (PMI) เดือน พ.ค. ที่ 42.8 ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้เดือนก่อนที่ 40.1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 42.0 แม้ว่าตัวเลขที่ประกาศออกมายังต่ำกว่าระดับ 52 หมายถึงภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจแม้จะยังมีอยู่ แต่ก็เป็นอัตราที่ชะลอตัวลงแล้ว
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4155 จากที่ปิด $1.4143 เมื่อวันก่อนหน้า หลังตัวเลข PMI ของจีน อินเดีย ยุโรปและสหรัฐ แสดงถึงภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกกำลังส่งสัญญาณฟื้นตัว นอกจากนี้การที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้น หลังนักลงทุนกังวลมากขึ้นจากการก่อหนี้ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ความต้องการเงินดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยลดลง และพร้อมที่จะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ส่วนเช้านี้ยังแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มาที่ $1.4146
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดพุ่งขึ้นอีก +$2.27 มาที่ $68.58 ต่อบาร์เรล หลังค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงต่อเนื่อง + อุปสงค์จากเอเชียที่ไต่ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง + ข้อมูลกิจการทางภาคอุตสาหกรรมโลก (PMI) ที่ดีขึ้นอีกแรงหนึ่งด้วย ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันร่วงลง -$0.73 ต่อบาร์เรล มาที่ $67.85
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 1 มิ.ย.52 เพิ่มขึ้นราว +15.27 ตัน (+1.36%) รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,134.03 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.58 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.46 ล้านออนซ์
ปัจจัยลบ
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดแข็งค่าขึ้น 21 สต. มาอยู่ที่ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.29 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่แข็งค่าขึ้นเช่นกัน ขณะที่ในเช้านี้เงินบาทกลับอ่อนค่าลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 34.12 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่สดใสขึ้นช่วยหนุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย โดยในวันนี้ ค่าเงินบาทมีแนวรับสำคัญที่ 33.86 บาทและ 33.97 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านในวันนี้จะอยู่ที่ 34.25 บาทและ 34.42 บาทตามลำดับ แนวโน้มยังคงแข็งค่าขึ้นอีก จากเงินไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้น
ตลาดทอง นิวยอร์ก + ลอนดอน — ราคาทองคำร่วงลง ที่ตลาดนิวยอร์ก จากแรงขายทำกำไรเป็นสำคัญ แม้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าและราคาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้นก็ตาม ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้เกิดเงินเฟ้อเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสะสมทองคำเพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น
ตลาดทองเอเชียเช้านี้ — ราคาปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากที่ปิดในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (975) หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ —สหรัฐเตรียมประกาศตัวเลขสำคัญทั้งยอดขายรถยนต์ ดัชนียอดขายบ้านมือสองค้างโอน ในคืนนี้ โดยคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจาก 6.7 ล้านคันในเดือนก่อนหน้า มาที่ 7.0 ล้านคันในเดือนนี้
ข้อมูลจาก YLG ศูนย์รับซื้อ-ขายทองคำแท่ง มาตรฐาน LBMA 653/14 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ปากซอย 9) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 Tel: 0-2287-1155, 0-2677-5520 Fax: 0-2677-5512 www.ylgbullion.com