กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ประเด็นสำคัญในการลงทุนทองคำแท่ง (Gold SPOT)
ปัจจัยสำคัญด้านพื้นฐาน — ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นแรงในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก หลังรัสเซีย อินเดีย บราซิลและจีน กลับมาหารือในการหาเงินสกุลอื่น เพื่อใช้แทนดอลลาร์ ทำให้ประเทศเจ้าหนี้ของสหรัฐ กลับมากังวลถึงค่าของเงินดอลลาร์อีกครั้ง + ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาดมาก แม้ราคา GFM09 จะยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทก็ตาม แต่การด้อยความสำคัญของดอลลาร์ในเวทีโลก จะช่วยเพิ่มความสำคัญให้ทองคำโดยปริยาย (ดูข่าวสารสำคัญเพื่อการลงทุนในหน้าถัดไป)
กรอบการเคลื่อนไหวเชิงเทคนิคราคาทองคำแท่ง (Gold SPOT)
Source: Reuters Daily
Source: Reuters 30 Min
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะสั้น — ADX 30 นาทีค่าต่ำกว่า 20 ทำให้ดูทองคำในระยะสั้นยังขาดทิศทางที่ชัดเจน, กราฟ MACD 30 นาทีอยู่ในแดนบวกบ่งบอกถึงทิศทางขาขึ้น ทว่าเส้น MACD กำลังจะตัดเส้น Trigger จากด้านบนและ MACDF อยู่ในแดนลบ ทำให้ราคาอาจปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงต้นของวัน, Fast Stochastic ดูลงเล็กน้อยในช่วงนี้, RSI 30 นาทีอยู่ที่ระดับ 56.614 ถือได้ว่าอยู่ในระดับกลางๆและไม่มีสัญญาณ oversold หรือ overbought, แนวรับแนวต้านของวันอยู่ที่ $970-$990 ทิศทางตลาดระยะสั้นยังดูเป็นตลาด Sideways-up ระหว่างแนวรับแนวต้าน ส่วนค่าเงินบาทในวันนี้แนวโน้มทรงตัวอยู่ในช่วงราคาเดิมกับเมื่อวาน ที่ระดับ ฿34.00-฿34.20
ปัจจัยสำคัญด้านเทคนิคระยะกลาง - Directional Index ระดับวันยังคงบ่งบอกว่าทิศทางโดยรวมของราคาทองคำยังดูบวกอยู่, RSI อยู่ที่ระดับ 77.07 และยังถือเป็นสัญญาณ overbought และทำให้ดูว่าทองคำควรปรับฐานลงเล็กน้อยในช่วงนี้, MACD อยู่ในแดนบวกและยังคงทำให้มองราคาทองคำระยะกลางเป็นขาขึ้นอยู่, Fast Stochastic ระดับวันอยู่ที่ระดับ Threshold และดูได้ว่าราคาอาจปรับตัวลงเล็กน้อย, ทิศทางตลาดระยะกลางยังคงดูเป็นบวก โดยจะใช้แนวต้านเดิมที่ $965 เป็นแนวรับที่สำคัญต่อไป และแนวต้านราคาต่อไปจะอยู่ที่ $1,000
Source: YLG’s estimations
ราคาทองคำแท่งที่ร้านค้าปลีกปิดล่าสุด (เส้นสีแดง = 15,750 บาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาทองคำแท่ง (SPOT) ในตลาดโลกเช้านี้ (เส้นสีน้ำเงิน = 15,920 หรือที่ $981.90) แสดงถึงราคาทองคำแท่ง ณ. หน้าร้านขายปลีก มีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ 170 บาท ขณะที่ราคาของ GFM09 เมื่อวานนี้ปิดตลาดอยู่ที่ 15,780 บาท จะมีส่วนลดจากราคาในตลาดโลก อยู่ราว 140 บาท ซึ่งน้อยกว่าที่ร้านค้าปลีก ดังนั้น การเปิดสถานะซื้อ (Long) GFM09 แล้ว ขาย (Short) ทองคำแท่งที่ร้านทอง จะทำให้มีส่วนต่างของกำไรที่คาดหวัง อยู่ที่ 170-140 = 30 บาทต่อทองคำแท่ง 1 บาทเท่านั้น จึงยังไม่คุ้มค่ากับค่าคอมมิชชั่น (ประมาณ 120 บาทต่อ 1 บาททอง) ในการทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ในวันนี้
กลยุทธ์และคำแนะนำ
หากนักลงทุนต้องการเล่นระยะสั้นให้เล่น Range Trading ระหว่างแนวรับแนวต้านที่ $970-$990 ทว่าหากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้สูงให้ท่านเล่น Long โดยคาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปจนถึง High เดิมที่ $1,000 โดยปรับฐานเพียงเล็กน้อย หากต้องการเล่นระยะกลางและรับความเสี่ยงได้น้อยให้รอจังหวะเล่น Long ในจังหวะที่ราคาปรับตัวลงในช่วงวัน ท่านที่ถือ Long ไว้ให้ถือต่อได้ ส่วนท่านที่ถือ Short ให้หาจังหวะปิดในช่วงนี้
ข่าวสารสำคัญเพื่อประกอบการลงทุน
ปัจจัยบวก
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐประกาศข้อมูลยอดขายบ้าน + ยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งของสหรัฐตอกย้ำความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะของเศรษฐกิจโลกซึ่งลดความต้องการดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ทำให้ตลาดตอบรับในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป (ดูรายละเอียดในตารางปฏิทินในหน้าถัดไป)
ค่าเงินดอลลาร์ — ดอลลาร์แกว่งตัวผันผวน โดยการแข็งค่าขึ้นในตลาดลอนดอน หลังตัวเลขอัตราการว่างงานโซนยุโรปพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี ก่อนที่จะกลับทิศทางมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบเงินยูโร มาที่ $1.4301 จากที่ปิด $1.4164 เมื่อวันก่อนหน้า หลังโฆษกประธานาธิบดีของรัสเซียให้ข่าวว่ารัสเซียกำลังหารือกับประเทศบราซิล อินเดียและจีนในการใช้เงินสกุลอื่นแทนเงินดอลลาร์ในการค้าขายระหว่างประเทศ เสริมด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่ได้คาดกันไว้ก่อนหน้า ขณะที่เช้านี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มาที่ $1.4290 แต่แนวโน้มยังคงไปในทิศทางอ่อนค่าลงอีก
ตลาดทอง นิวยอร์ก + ลอนดอน — ราคาทองคำแกว่งตัวผันผวน โดยร่วงลงก่อนเปิดตลาดที่ลอนดอนลงไปจุดต่ำสุดที่ $696 จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และการขายทำกำไรระยะสั้นที่มีอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะทะยานขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็วในการซื้อขายช่วงเช้าที่ลอนดอน ต่อเนื่องมายังตลาดนิวยอร์ก หลังดอลลาร์อ่อนแรงลงอีกครั้ง โดยได้อานิสงค์จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตลาดทองเอเชียเช้านี้ (07:20 น.) — ราคาอยู่ที่ 981.90 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากที่ปิดในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนก่อนหน้า หลังค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลง
ปัจจัยลบ
ค่าเงินบาท — ค่าเงินบาทปิดอ่อนค่าลง 1 สต. มาอยู่ที่ 34.09 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ปิด 34.08 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า ตามการแข็งค่าของดอลลาร์ในตลาดลอนดอน ขณะที่เช้านี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 34.05 บาทต่อดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนลงมากเมื่อคืนนี้ โดยแนวโน้มยังคงแข็งค่าได้อีก ส่วนวันนี้เงินบาทจะมีแนวรับสำคัญที่ 33.80 บาทและ 34.00 บาทตามลำดับ ส่วนแนวต้านในวันนี้จะอยู่ที่ 34.20 บาทและ 34.30 บาทตามลำดับ
ราคาน้ำมัน — ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเดือน ก.ค.ปิดร่วงลง -$0.03 มาที่ $68.55 ต่อบาร์เรล จากแรงขายทำกำไรเป็นหลัก ท่ามกลางอุปสงค์จาดเอเชียที่ไต่ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่เช้านี้ราคาน้ำมันยังร่วงลงต่ออีก มาที่ $68.15 ต่อบาร์เรล หลังคาดกันว่าปิโตรเลียมสหรัฐ (API) จะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงไม่มากเท่าที่คาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตาม
กองทุนทองคำ — SPDR กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. 2 มิ.ย.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า รวมถือทองคำไว้ทั้งสิ้น 1,134.03 ตัน เทียบเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 36.5 ล้านออนซ์
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ — สหรัฐเตรียมประกาศตัวเลขสำคัญทั้งตัวเลขการจ้างงาน ดัชนีผลผลิตนอกภาคอุตสาหกรรม + ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานและปริมาณสำรองน้ำมันดิบในคืนนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะดีขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมา (ดูรายละเอียดในตารางปฏิทินในหน้าถัดไป)
ธนาคารกลางอังกฤษและยุโรป — มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายในวันพฤหัสฯนี้
Source : Bloomberg