โหมโรงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ชูโครงการ “พี่เลี้ยงนักลงทุน” พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์แสดงความเป็นหนึ่ง

ข่าวทั่วไป Thursday June 4, 2009 15:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ พาณิชย์โหมโรงรับการจัดตั้ง “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หลังบรรลุข้อตกลงให้ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2558 มั่นใจหลังการร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยกระชับความสัมพันธ์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พร้อมมอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศดูแลเศรษฐกิจอาเซียน เปิดตัวโครงการ “พี่เลี้ยงนักลงทุน AEC : การปรับตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)” ทำหน้าที่ดูแลนักลงทุนและผู้ประกอบการไทย ขจัดอุปสรรคด้านการค้าการลงทุน รับมือการเปลี่ยนแปลง เดินหน้าพัฒนาสู่การเป็นนักลงทุน/ผู้ประกอบการอาเซียน พร้อมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ สื่อภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียน เผยผลงานที่คว้ารางวัลชนะเลิศสื่อชัดเจนถึงความร่วมมือและความหนักแน่นของชาติอาเซียน วันที่ 4 มิถุนายน 2552 นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “พี่เลี้ยงนักลงทุน AEC : การปรับตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)” พร้อมชูธงตราสัญลักษณ์การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 41 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในปีนี้ ณ ห้องประชุม 30410 สำนักปลัดกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประเทศในกลุ่มอาเซียนได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้ง “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ในปี 2558 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า ภายใต้แนวคิดที่ว่า “อาเซียนจะรวมตัวกันเป็นตลาดหรือฐานการผลิตเดียว” หรือ Single market and production base ซึ่งหมายถึงจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตต่างๆ ในกลุ่มอาเซียน เสมือนอยู่ในประเทศเดียวกัน กระบวนการผลิตสามารถเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ โดยสามารถใช้ทรัพยากรทั้งวัตถุดิบและแรงงานจากหลายประเทสเพื่อนำมาใช้ในการผลิต ปราศจากอุปสรรคในด้านภาษีและมาตรการที่มิใช่ภาษี มีการสร้างมาตรฐานของสินค้า และกฏเกณฑ์ กฏระเบียบต่าง ๆ ร่วมกัน ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า โลกยุคปัจจุบันเป็นโลกของความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การค้า ต่อต้านภัยคุกคามต่างๆ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยประเทศในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ยุโรป อเมริกา เอเชีย และแอฟริกา ต่างก็รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างโอกาสและอำนาจต่อรอง และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและการลงทุน ทั้งสหภาพยุโรป (EU) เขตการค้าเสรีในภูมิภาคอเมริกาเหนือ (NAFTA) และสหภาพแอฟริกา (AU) ขณะที่ประเทศไทยประเทศเดียวมีประชากรเพียงแค่ 60 ล้านคน ซึ่งไม่สามารถแข่งขันกับกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้ ดังนั้น การรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน สำหรับประเทศไทยแล้ว นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในปีนี้ประเทศไทยรับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน ที่จะต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการประชุมสำคัญๆ หลายครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่และสื่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ ตลอดจนส่งเสริมการตระหนักรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชน นักเรียนและนักศึกษา กระทรวงพาณิชย์จึงมอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดการประกวดตราสัญลักษณ์เพื่อใช้ในการประชุมต่างๆ โดยสามารถคัดเลือกผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งเป็นการออกแบบของนายมั่นเศรษฐ์ รัฐสุภาศิริ ทั้งนี้ ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวจะนำมาใช้อย่างเป็นทางการนับจากนี้ และจะใช้สำหรับการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 41 ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทยในการรองรับการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กระทรวงพาณิชย์ยังได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศทำหน้าที่ในการดูแลนักลงทุนและผู้ประกอบการไทย ให้เข้าใจถึงการรวมกลุ่มของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประโยชน์ที่จะได้รับ แนวทางการปรับการดำเนินการเพื่อขยายฐานการผลิต การตลาดในอาเซียน และตลาดโลก ตลอดจนหาแนวทางในการลดอุปสรรคและผลกระทบ ซึ่งเป็นที่มาของโครงการ “พี่เลี้ยงนักลงทุน AEC : การปรับตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ” นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการ “พี่เลี้ยงนักลงทุน AEC : การปรับตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)” ว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ลงนามในบันทึกความความร่วมมือ (MOU) กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าว โดยตระหนักถึงผลประโยชน์ของนักลงทุน และผู้ประกอบการไทย และต้องการให้นักลงทุน ผู้ประกอบการได้รับทราบข้อมูลอย่างชัดเจน เพื่อกำหนดทิศทางธุรกิจเตรียมรับโอกาสใหม่ การปรับตัวต่อผลกระทบที่เกิดจากข้อตกลงการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน “การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลากหลายมิติจะช่วยอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ เช่น การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุนอย่างเสรี การเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรี ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษี, ระบบโลจิสติกส์ ตลอดจนธุรกิจภาคบริการของไทยต้องพัฒนา และเป็นตัวขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจึงจะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทเจรจาข้อตกลงตั้งแต่ต้น มาให้ข้อมูลอย่างละเอียดกับผู้ประกอบการในรูปแบบที่เรียกว่า “พี่เลี้ยงนักลงทุน AEC” ซึ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นการกระตุ้นให้นักลงทุนไทยได้ตระหนักถึงการปรับตัวเป็นนักลงทุน AEC รวมทั้งจัดคลินิกเพื่อนักลงทุน โดยผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมผลักดันให้เกิดผลการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ ตลอดจนแสดงนิทรรศการเพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งกำหนดจัดงานทั้งสิ้น 8 ครั้งทั่วประเทศ” อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าว ดูข้อมูลในส่วนของกิจกรรมสัมมนาเพิ่มเติมได้ที่ www.thaifta.com วารุณี คำไชย (แนน) โทร: 0-2248-7967-8 ต่อ 119 หรือ 08-1496-6762 บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนาม กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ