ค่ายแสนสิริสวนกระแส สร้างยอดขาย Q1 โตเกือบ 6 พันล้านบาท ประสบความสำเร็จในการขยายฐานที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร

ข่าวทั่วไป Wednesday April 5, 2006 10:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--แสนสิริ
ไตรมาสแรกของปี 2549 กลุ่มแสนสิริและพลัสฯ มาแรง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่มีอยู่ถึง 33 โครงการ ด้วยการสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยที่สวนกระแสภาวะการเมืองอึมครึม โดยขายไปแล้วกว่า 1,250 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5,500 ล้านบาท ที่สำคัญประสบความสำเร็จในทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลาง ที่ทยอยเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม รองรับความต้องการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์หลักที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ ราคาตอบรับกำลังซื้อ การตลาดตรงใจ สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็ว
ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์ค่ายยักษ์ใหญ่ในระดับแนวหน้าอย่างบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจของปี 2549 ว่า จะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในฐานะผู้นำการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร พร้อมทั้งตั้งเป้าประมาณการยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยตลอดทั้งปีไว้ถึง 14,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดที่สูงในอันดับต้นๆ ของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังประกาศที่จะรุก ขยายฐานที่อยู่อาศัยมากขึ้น จากเดิมที่เน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับพรีเมี่ยมทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม มาสู่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ครบคลุมทุกกลุ่มความต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ซึ่งเป็นเสมือนเค้กชิ้นใหญ่ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เป็นจำนวนมาก
ไตรมาสแรกของปี 2549 กลุ่มบริษัทแสนสิริ เปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ หลายโครงการ โดยล่าสุดมีโครงการที่เปิดตัวแล้วรวมถึง 33 โครงการ ทั้งโครงการบ้านจัดสรร โครงการทาวน์เฮ้าส์ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกเซกเมนท์และทุกระดับราคา ตั้งแต่ระดับ พรีเมี่ยมที่มีระดับราคาตั้งแต่ 10-65 ล้านบาท ระดับราคากลาง 4-9 ล้านบาท ไปจนถึงระดับราคา 1-3 ล้านบาท โดยแสนสิริยังคงเน้นพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในระดับกลางไปถึงระดับพรีเมี่ยม และใช้ กลยุทธ์การขยายฐานการรุกตลาดที่อยู่อาศัยสู่ระดับกลาง-ล่างผ่านบริษัทในเครืออย่าง บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ พาร์ทเนอร์ , พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เวนเจอร์ , และบริษัทน้องใหม่ล่าสุดอย่างบริษัทพร้อมพัฒนา เป็นต้น
ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนให้การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลว่า “โครงการที่อยู่อาศัยของเรา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมิเนียมที่กลุ่มแสนสิริพัฒนาขึ้น ล้วนสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม การมีดีไซน์ที่สวยงามและแตกต่าง ที่สำคัญคือสินค้าต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการพัฒนาสินค้าให้มีระดับราคาที่เหมาะสม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม เมื่อประกอบกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดที่เหมาะสมและตรงใจของลูกค้าด้วย ยิ่งมีส่วนทำให้ปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นนั่นเอง ”
สร้างยอดขายไตรมาสแรกกว่า 5,500 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 นี้ กลุ่มบริษัทแสนสิริ สามารถขายที่อยู่อาศัยในโครงการต่างๆ ไปแล้วกว่า 1,250 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 300 ยูนิต โครงการทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 150 ยูนิต และโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 800 ยูนิต ซึ่งรวมถึงโครงการ Condominium One ของพลัสฯ 6 โครงการ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถปิดการขายเกือบทุกโครงการภายในเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น ในขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยอื่นๆ ทุกเซกเมนต์และทุกระดับราคา ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เมื่อรวมมูลค่าโครงการขายรวมในช่วงไตรมาสแรกนั้น สามารถขายไปแล้วกว่า 5,500 ล้านบาท นับเป็นตัวเลขสูงที่สุดของแสนสิริ ที่เคยสร้างยอดขายได้ภายในไตรมาสเดียว ซึ่งเมื่อรวมกับยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยเดิมที่จะรับรู้รายได้ในปี 2549นี้ ทำขณะนี้ให้บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้รวมเป็นมูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาทแล้ว
จัดกิจกรรมทางการตลาดที่คึกคักตั้งแต่ต้นปี
นับตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ของปี 2549 จะเห็นได้ว่ากลุ่มบริษัทแสนสิริและพลัสฯ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการขายตามโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ อย่างคึกคัก และอย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้งการใช้โปรโมชั่นทางการตลาดรวมถึงแพกเกจทางด้านการเงิน เพื่อเร่งการตัดสินใจให้แก่ลูกค้า รวมไปถึงการจัดกิจกรรมใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างความสนใจและดึงดูดลูกค้าให้แวะมาเยี่ยมชมโครงการ อาทิ การจัดแคมเปญ The B.E.D. ที่มอบชุดเครื่องนอนให้กับลูกค้ามูลค่ากว่า 100,000 บาท หรือแคมเปญ “ทดลองอยู่ฟรี” ในบ้านแสนสิริสุขุมวิท ซึ่งเป็นโครงการบ้านระดับพรีเมี่ยมของแสนสิริ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมสันทนาการ และการจัดมินิคอนเสิร์ตโดยศิลปินชื่อดังตามโครงการต่างๆ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการขายให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ ล่าสุดกลุ่มแสนสิริและบริษัทในเครือได้จัดทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ในการจัดงานครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ “Living in Style 2006 “ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่ถือว่าเป็นงานใหญ่ที่สุดสำหรับการจัดงานโดยกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพียงกลุ่มเดียว ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสามารถทำยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยได้อีกกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นต้น
นอกจากนี้ แสนสิริยังได้การทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ในการจัดทำและนำเสนอภาพยนตร์โฆษณาใหม่ ภายใต้ชื่อชุดว่า “โอกาส” เพื่อเป็นการตอกย้ำให้ลูกค้าและผู้บริโภคทั่วไปได้รับรู้ว่า โครงการที่อยู่อาศัยที่พัฒนาโดยแสนสิริในปัจจุบัน มีหลากหลายโครงการ และมีหลายระดับราคา ดังนั้นทุกคนทุกอาชีพ มีโอกาสเลือกที่อยู่อาศัยของแสนสิริได้ตามความเหมาะสมและในระดับราคาที่พึงพอใจ เพราะทุกโครงการได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม และมีสไตล์ รวมถึงมีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและตัดสินใจซื้อโครงการของแสนสิริได้รวดเร็วขึ้นนั่นเอง
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ