กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--อาร์เอส
หลังจากประสบความสำเร็จมา 2 อัลบั้มแล้วกับโปรเจ็คพิเศษอย่างอัลบั้ม “คิดถึงแม่” และอัลบั้ม “เรียงความเรื่องแม่” ของค่ายอะบอริจิ้น มาถึงวันนี้ทางค่ายได้จัดทำโปรเจ็คพิเศษคิดถึงแม่ เพื่อสานต่ออัลบั้มที่แล้วภายใต้ชื่ออัลบั้มชุดนี้ว่า “คิดถึงแม่...เรารักแม่” เป็นการรวมพลคนดนตรีระดับคุณภาพอย่าง โป่ง หิน เหล็ก ไฟ, ปาน ธนพร, วิด ไฮเปอร์, หวิว ณัฐพนธ์, ดัง พันกร, เบน เกียร์ไนท์ , มด ชุติมณฑน์ , แคลีน ปิ่นสุดา และอั้ม — อิราวัติ ซึ่งตัวแทนอย่าง ปาน ธนพร, หวิว ณัฐพนธ์, วิด ไฮเปอร์ และเบน เกียร์ไนท์ ก็ได้มาเปิดเผยเกี่ยวกับการทำอัลบั้มนี้ว่า
อัลบั้มชุดนี้มีคนแต่งเพลงกี่คน
(ปาน) เป็นทีมของอะบอริจิ้นค่ะแต่หลักๆ ก็จะเป็นพี่บั๋ง (สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา) แต่งเพลงค่ะ
ความรู้สึกของแต่ละคนคิดยังไงที่ได้มาทำอัลบั้มชุดนี้ร่วมกัน
(ปาน) เป็นโปรเจ็คที่อยากทำมานาน ปีนี้เป็นโอกาสดีเป็นช่วงว่างที่ปานมีเวลาจึงได้มาทำอัลบั้มชุดนี้ อีกอย่างทางทีมงานก็เปิดโอกาสให้ทำด้วยต้องขอบคุณทีมงานที่มีเพลงนี้ ก็รู้สึกดีค่ะ
(หวิว) สำหรับผมก็เหมือนกับพี่ปานครับ รออัลบั้มนี้มานานแล้ว คือเห็นมาตั้งแต่อัลบั้มคิดถึงแม่ 1 อัลบั้มคิดถึงแม่ 2 แล้ว ก็คิดว่าจะมีใครแต่งคิดถึงแม่ให้เราอีก แล้วก็คิดว่าคำว่าแม่นี่อาจจะแต่งได้น้อยที่จะเป็นเพลงป๊อบอะไรแบบนี้พอรู้ว่าได้มาอยู่โปรเจ็คนี้ก็รู้สึกได้รับเกียรติมาก ๆ และที่สำคัญเลยคือได้พี่ชายมาร้องด้วย ที่สำคัญอีกอย่างคือได้มาร้องกับพี่ ๆ ซึ่งเป็นนักร้องในดวงใจหมดเลย และก็มีความสามารถกันทุกคนเลย ความรู้สึกของผมนะ อัลบั้มนี้มันยิ่งใหญ่ตั้งแต่คำขึ้นต้นด้วยคำว่า “แม่” แล้วครับ และที่ผมรู้สึกประทับใจอย่างมากตอนถ่ายมิวสิควิดีโอเพลง “เรารักแม่” แล้วเรายืนกันหมดเลยทำให้รู้สึกได้รับเกียรติ ผมรู้สึกภูมิใจมากครับ
(เบน) ตอนแรกผมเคยเห็นโปสเตอร์อัลบั้มคิดถึงแม่เหมือนกันตอนนั้นไม่ได้อยากทำไม่ได้อยากร้องอะไรเพราะเราจะหนักมาทางร็อคคงไม่หวาน เกินไปน่าจะทำอะไรที่หนักๆ แล้วสักพักพี่ทีมงานก็บอกว่ามีโปรเจ็คคิดถึงแม่ อยากให้เรามาร้องด้วย ความรู้สึกแรกมันไม่ใช่ว่าเอาเรามาร้อง แต่เรารู้สึกว่าดี พอเราได้รับการเชิญจริงๆ ก็รู้สึกดี เพราะเราได้มีโอกาสร่วมงานใหญ่ๆ มาแล้วก็รู้สึกนึกถึงแม่ว่าเราก็อยากทำอะไรให้แม่เหมือนกันมันเหมือนเปลี่ยนความคิดในตอนแรกเลยครับ
(วิด) ของผมตอนแรกพี่นต อะบอริจิ้น โทรศัพท์มา ตอนแรกผมไม่กล้าร้องกลัวว่ามีคอนเสิร์ตแล้วจะเอาแม่ไปด้วยแม่ผมไม่สะดวกไปครับ ผมก็เลยถามพี่นตไปว่าให้ผมร้องจริงๆ เหรอผมกลัวว่าขึ้นคอนเสิร์ตแล้วต้องเอาแม่ไปด้วย พี่นตก็บอกว่าไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ผมก็ถามว่ามีใครร้องบ้างซึ่งแต่ละคนมีคุณภาพหมดเลย ผมก็เลยตัดสินใจมาร้อง ต้องขอบคุณอะบอริจิ้นด้วยที่ให้เกียรติผมมาร้องเพลงในอัลบั้มนี้เพราะเป็นเพลงที่ตรงกับชีวิตจริงมากและผมรู้สึกว่าจะได้เป็นการบอกลูกๆ ที่ยังคิดไม่ดีกับแม่จะได้รู้สึกดีๆ กับแม่ครับ
ตั้งแต่มาร้องเพลงในอัลบั้มชุดนี้แล้วมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบ้างหรือเปล่า
(ปาน) ปานไม่ได้เปลี่ยนค่ะคือเรารักแม่อยู่แล้ว เพลงนี้มันทำให้แม่รู้สึกดีขึ้น
(หวิว) ของผมก็ไม่ได้เปลี่ยนเลยครับที่เปลี่ยนก็คือมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับแม่แล้วก็ทำด้วยกันกับพี่ชาย
(เบน) เนื้อหาของเพลงไม่ได้มีอะไรให้เปลี่ยน แต่ว่าในโอกาสนี้คิดว่าน่าจะทำให้เรามองในทุกๆ จุดของความสัมพันธ์ของเรากับแม่ว่ามีอะไรที่มันยังบกพร่องหรือเปล่าไม่ว่าจะเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ แล้วเราก็ปรับปรุงให้ดีขึ้น
เพลงกล่อมแม่ของปานในอัลบั้มนี้เป็นยังไงบ้าง
(ปาน) จริงๆ เพลงกล่อมแม่มาจากชีวิตจริงของปานและแม่ พี่บั๋งเป็นคนเขียนออกมา ตอนแรกเราได้คุยกันก่อน 2 คนคุยกันว่าปานมีชีวิตยังไง คือ ทุกคนต้องคุยกันพี่บั๋งหมดเสร็จแล้วก็เขียนเพลงของปานก็มาลงที่กล่อมแม่คือครั้งแรกที่ได้ยินพี่บั๋งร้องแบบไม่มีดนตรีได้ยินครั้งแรกก็ร้องไห้เลยเพราะว่ามันตรงกับชีวิตเรามาก เสร็จก็ช่วยกันทำงานเพลงนี้พอร้องไปได้ซักพักก็เลยดูเหมือนขาดอะไรในเพลง ควรจะเติมอะไรก็ได้รุ่นพี่มาทำให้โดยใส่โทน รำมะนา ขิม ไวโอลิน ลงไปในเพลงจะได้ไม่เป็นเพลงไทยเดิมมาจนเกินไปน แต่ว่าขั้นตอนการทำงานก็ไม่ยากอะไรเพราะ ทุกคนประสบการณ์ทำงานกันหมด แต่ก็มียากตอนที่ดนตรีเป็นไทยเดิม ซึ่งเราไม่ได้เป็นคนไทยเดิมแท้ๆ เพียงแต่ว่าพอจะร้องได้บ้างก็เท่านั้นเองซึ่งปานรู้สึกว่าจะเป็นโอกาสดีในการที่ใช้คำว่า “กล่อมแม่” แล้วก็เอาดนตรีเข้ามาใส่ในความเป็นไทยเดิม ปานไม่อยากให้รู้สึกว่าเพลงไทยเดิมตายไป ทั้งนี้เหมือนกับเรามีโอกาสได้ถ่ายทอดผ่านความเป็นไทยเดิมจึงทำเพลงกล่อมแม่ แล้วก็ทุกคนมีความเป็นลูกคนที่เป็นแม่ก็ผ่านความเป็นลูกมาก่อนจึงมีการกลับไปกลับมาเพลงนี้เป็นเพลงสำหรับแม่ที่ป่วยอาจจะป่วยอยู่หรือแม่ที่อยู่ไกลกัน คนเป็นลูกก็อยากที่จะกล่อมคืนอยากจะร้องเพลงให้แม่ฟัง
เนื้อหาของเพลง “กล่อมแม่” ที่ปานร้องมีเนื้อหาอย่างไร
(ปาน) เนื้อหาก็จะเป็นเหมือนความทรงจำในวัยเด็ก ต้องขอบคุณคนเขียนเพลงจริงๆ ที่เอามาตีความได้ค่อนข้างครบ พี่บั๋งก็ถามว่าในวัยเด็กเราประทับใจอะไรเราก็บอกเราจำอะไรไม่ได้ จำได้แต่ว่าแม่เราไม่ใช่คนที่ตามใจลูก รู้แต่ว่าเวลาที่ลูกอยากได้อะไรแม่จะไม่ได้บอกว่าแม่จะซื้อให้หรือจะส่งเสริมว่าเดี๋ยวแม่จะทำให้ไม่มี แต่ว่าสิ่งนั้นมาอยู่ที่บ้านเลยในวันรุ่งขึ้น เช่น ตอนเด็ก ๆ ปานรู้สึกอยากได้ชิงช้า ก็บอกแม่เลยว่าอยากได้ชิงช้าจัง แม่ก็ทำหน้าเหมือนไม่สนใจลูก แต่อีกสัก 2-3 วัน ก็มีชิงช้ามาส่งนี่คือวิธีของแม่ ปานเลยจำได้ว่าชิงช้านี้กลายเป็นศูนย์รวมของคนในบ้านตกเย็นทุกคนก็นั่งชิงช้าคุยกัน แลกเปลี่ยนกันซึ่งก็มีอยู่ในเพลงมันอยู่ในความทรงจำของเราแล้วพอโตมาปัจจุบันมันเลยกลายเป็นคำถามที่ถามกลับไปยังคนเป็นแม่ว่าแม่ผ่านมาขนาดนี้ แม่เลี้ยงลูกมาขนาดนี้ ก็จะเป็นคำถามที่ถามกลับว่าแม่เหนื่อยหรือเปล่า แม่เป็นยังไงบ้างผักผ่อนหรือยังค่ะ
เพลง “กล่อมแม่” ที่ว่าเหมือนกับเพลงไทยเดิม ร้องยากหรือเปล่า
(ปาน) ก็ร้องยากเหมือนกัน เพราะไม่ค่อยเข้าใจมากแต่ก็ได้รุ่นพี่ที่เป็นไทยเดิมมาคอยคุมว่าร้องถูกหลักหรือเปล่า
แม่ของปานได้ฟังหรือยัง สำหรับเพลง “กล่อมแม่” ที่ปานร้องในอัลบั้มนี้
(ปาน) ปานเอาไปให้แม่ฟังค่ะ ให้ฟังตอนที่ยังไม่ได้มิกซ์เพลง บอกว่าแม่นี่เพลงของแม่นะ และจะบอกว่าพี่บั๋งเขียนให้แม่นะ แม่ก็ได้แต่น้ำตาคลอ ก็รู้ว่าเป็นเพลงของเขา
แล้วเพลงของคนอื่นๆ ที่แต่ละคนร้องในอัลบั้มชุดนี้ล่ะเป็นยังไงกันบ้าง
(วิด) สำหรับผมก็จะเป็นแนวปากร้าย ร้ายก็เพราะรักครับ เนื้อเพลงจะเป็นประมาณว่า แม่จะดุด่าว่ากล่าวเราอย่างไร เราก็ต้องรัก เพราะคำสั่งสอนในคำร้ายๆ ของแม่ มันคือ ความรัก และความหวังดี แล้วพี่บั๋งเขียนดีครับ พี่เขาโทรศัพท์มาถามว่าเรากับแม่เป็นยังไงบ้างผมก็อธิบายให้ฟังพี่เขาเลยบอกว่าพี่ลองเขียนให้ ตอนที่กำลังทัวร์คอนเสิร์ตอยู่พี่บั๋งก็ลองร้องให้ฟัง ผมก็บอกพี่เขาว่า เพลงมันตรงกับชีวิตผมมากเลย ประมาณว่าน่าจะมีวันที่บ้านดีกว่าเดิมให้เรามารู้สึกดีๆ ให้กันเหมือนเดิม พอได้ฟังผมก็รู้สึกน้ำตาคลอเหมือนกันนะ พี่บั๋งเขียนเพลงดี เข้าใจ ส่วนตัวก็ไม่ได้ร้องไห้นะครับ แต่ผมยังไม่ได้เอาเพลงไปให้แม่ฟังนะครับ
(หวิว) ของผมนี่พิเศษเลยนะ เพราะมีพี่ชายมาร่วมร้องเพลงด้วยกัน พี่ใหญ่เป็นพี่ชายฝาแฝด และที่สำคัญเลย ตอนเข้าห้องอัดแม่มานั่งเฝ้าดูด้วย ความยากของเพลงนี้ คือ ร้องยังไงไม่ให้ร้องไห้ เพราะอีกคนหนึ่งร้องอยู่ แต่อีกคนหนึ่งนั่งฟังอยู่ข้างนอกก็ร้องไห้โฮอยู่ข้างนอกแล้ว คือผมมองเห็นแม่ร้องไห้ และมันใจคอไม่ดี ผมก็เลยคิดว่าจะทำยังไงให้คงเสียงให้อยู่ในโทนที่ไม่สั่นเครือ ก็ยากตรงนี้ครับ
(เบน) เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่พี่บั๋งแต่งพี่บั๋งก็จะมาถามก่อนว่าชีวิตความผูกพันกับแม่เป็นยังไงตั้งแต่เล็กจนโตในเพลงนี้ก็จะเอาข้อมูลตรงนั้นมาใช้ทั้งหมดก็เป็นเพลงให้แม่เลยล่ะครับ ร้องปั๊บนี่แม่รู้เลยครับ เพลงนี้โดยรวมก็เป็นเรื่องของลูกชายที่รู้สึกขอบคุณในความรักของแม่ และรักแม่มากๆ แล้วก็บางทีบางครั้งเหมือนแม่จะคิดว่าแม่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอในการเลี้ยงลูกมาแบบนี้แม่อาจจะรู้สึกน้อยใจว่าอาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนคนอื่นเขา ผมก็อยากจะบอกแม่ว่าแม่ทำดีที่สุดแล้ว แล้วผมก็ดีใจมากที่แม่ทำแบบนี้ ผมคิดว่านี่คือดีที่สุดแล้ว ผมไม่ต้องการดีกว่านี้แล้ว
บางคนจะรู้สึกว่าถ้าตัวเองไม่มีคุณพ่ออาจจะคิดว่าตัวเองบ้านแตกหรือขาดความอบอุ่นตรงนี้เบนจะไม่เคยมีหรือเปล่า
(เบน) มันก็ไม่เชิงนะครับ เหมือนกับว่าเราก็อาจจะมีความรู้สึกอยากรู้ว่าการที่มีครอบครัวที่สมบูรณ์มันเป็นยังไง แต่ว่าเราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายอะไร เพราะผมรู้สึกว่าการที่มีแบบนี้เป็นการดีแล้วมันสร้างให้ผมมาเป็นคนทุกวันนี้ แล้วก็มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแม่ดีแบบนี้
แล้วมีการแสดงหรือว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ขาดคุณพ่อ
(เบน) ไม่น่าจะมีอะไรมากมายแต่ว่าการกระทำของแม่ก็เพียงพอแล้ว การที่แม่ตั้งใจเลี้ยงเรา ดูแลเรามาขนาดนี้เราก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว
อย่างเบนกับคุณแม่สนิทกันมาก ๆ แล้วมีการแสดงออกบอกรักแม่ซึ่งเป็นในเรื่องของการกระทำบ้างหรือเปล่า
(เบน) การแสดงออกก็ค่อนข้างมีมาก โดยปกติก็จะกอดกันบ่อย เจอกันก็กอดตลอด วันเว้นวันไม่รู้สึกเขินเลยครับแล้วก็บอกรักแม่ แม่ก็ชอบ แล้วแม่ก็ชอบบอกผมว่า รักเบนนะ ผมก็บอกคือเรื่องนี้ไม่เขินครับ
เพราะเคยบอกรักแม่มาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า ถึงทำให้รู้สึกว่าไม่เขิน
(เบน) มีส่วนด้วยครับแต่ในความรู้สึกของผมนะผมว่ายิ่งโตผมจะยิ่งทำเยอะขึ้น เริ่มโตจะยิ่งคิดถึงแม่มากขึ้นก็เลยกอดแม่บ่อยขึ้นกว่าเดิม
แล้วคุณแม่ได้ฟังที่เบนร้องในอัลบั้มนี้หรือยัง
(เบน) ยังเลยครับ วันนี้แม่กำชับมา บอกว่ากลับมาบ้านอย่าลืมหยิบซีดีมาให้ด้วยนะ ผมลืมตลอดเลย
วันแม่ที่จะถึงนี้จะทำอะไรพิเศษให้แม่กันบ้าง
(ปาน) สำหรับปานก็คงเข้าไปหา เพราะว่าแม่เรามาหาเราไม่ได้ แม่ปานป่วยอยู่ เราก็ต้องเข้าไปหาให้พร้อมหน้าพร้อมตากันทุก ๆ คน ให้แม่มีความรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
(หวิว) สำหรับผมปีนี้พิเศษหน่อยก็คือได้ออกอัลบั้มคิดถึงแม่นี่ล่ะครับ วันแม่ปีนี้ก็ได้ขึ้นคอนเสิร์ตครับ ก็คงจะได้ร้องเพลงให้แม่ฟังแล้วก็กราบครับ ปีนี้พิเศษหน่อยได้ร้องเพลงให้แม่ฟัง แล้วก็เป็นเพลงของเค้าเองด้วยก็คือเพลงในอัลบั้มคิดถึงแม่ เรารักแม่ เป็นเพลงที่แต่งเพื่อให้แม่ของเราด้วย มันเป็นชีวิตจริงของเราด้วยก็คือเป็นเพลงของแม่ผมเลย อีกอย่างก็ได้ร้องให้ฟังวันนั้นเลย
(เบน) ปกติผมไม่ค่อยชอบทำอะไรพิเศษๆ ในโอกาสพิเศษ เพราะว่าผมชอบแบบคงที่มากกว่าชอบแบบทำทุกวันทำบ่อย ๆ แต่ว่าปีนี้ก็มีเพลงให้แม่ฟังก็คิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่พิเศษแล้วในระดับหนึ่ง
(วิด) ส่วนผมกับแม่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพลงที่ได้ร้องก็จะบ่งบอกความหมายว่าเราจะปรับตัวปรับใจกัน เพื่อบ้านของวันพรุ่งนี้ เนื้อเพลงที่พี่เค้าแต่งให้ก็ตรงกับชีวิตจริงครับ ยังไงผมอยากจะบอกหลายๆ คนเรื่องลูกๆ ครับอะไรที่คิดว่าไม่เข้าใจ แม่ก็สมควรจะเข้าใจครับ แม่ก็คือแม่เรา ยังไงแม่ก็อยากให้เราเป็นคนดี
แล้วมีเหตุการณ์อะไรที่เราทำให้แม่ประทับใจที่สุด
(วิด) ตัวผมก่อนแล้วกัน จริงๆ แล้วความประทับใจไม่ค่อยมีแต่มีสิ่งเดียวที่ประทับใจคือเมื่อก่อนบ้านผมก็เช่ามาตลอดจนมาถึงทุกวันนี้ผมออกคอนเสิร์ตมาผมได้เงินผมก็พยายามเก็บเงินซื้อบ้าน จากที่แม่เคยเช่าบ้านอยู่ด้วยกันผมก็ให้แม่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ตอนนี้เรามีบ้านแล้วผมรู้สึกว่าตรงนี้เป็นความภาคภูมิใจและแม่คงภูมิใจอยู่เหมือนกัน
(เบน) ส่วนผมที่ประทับใจที่สุดเอาจากที่แม่พูดแล้วกัน ก็คือแม่จะดีใจมากๆ เวลาที่เราดูแลน้องชาย เวลาที่เราช่วยเหลือน้องชาย เราจะเป็นคนส่งเค้าเรียนจนจบแม่เค้าจะภูมิใจตรงนี้มากเพราะว่าเราทำให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันและรักพี่รักน้องจุดตรงนี้เป็นจุดที่แม่ภูมิใจมาก
(หวิว) ส่วนของผมที่ประทับใจทั้งตัวผมและก็แม่ก็คงจะเป็นเรื่องของวันรับปริญญาวันนั้นจะน้ำตาคลอทั้งคู่ แม่ผมปลื้มใจมาก ตอนนั้นผมหันไปเห็นเข้าพอดีเลยรู้สึกว่า นี่แหละคืออาการของแม่เราที่เลี้ยงเราแล้วก็เรามาถึงตรงนี้ แม่ภูมิใจเรามาก
(ปาน) ของปานก็จะเป็นเวลาที่ลูกๆ มาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า ลูกสาวพาไปกินข้าวก็สังเกตใบหน้าแม่เวลาที่มองลูกๆ 5 คนพร้อมกันเหมือนกับว่าแม่ส่งทุกคนถึงฝั่งหมดแล้ว ณ วันนี้ลูกโตหมดแล้ว ลูกไม่ทะเลาะกันแล้วนั่นคือความสุขของแม่เราเรารู้สึกว่าแม่เราก็ภูมิใจ แม่เหนื่อยมาทั้งชีวิตแล้ววันนี้แม่เห็นผลผลิตสำเร็จหมดแล้วค่ะ
ผลงานชิ้นแรกที่ทำออกมาครั้งแรกเอาให้แม่ฟังแล้วแม่พูดยังไงกับงานของเราบ้าง
(วิด) ของผมเคยออกค่ายใต้ดินมาก่อนเพลงคนก็พอรู้จักบ้างครับ แต่ไม่รู้จักชื่อวง ไม่รู้จักหน้าตา แม่จะบอกว่าเพ้อฝันหรือเปล่า มันไม่เป็นความจริงหรอก มาหางานทำที่ช่วยเหลือครอบครัวดีกว่า แต่ผมเป็นคนหัวดื้อไงครับก็เลยพยายามทำอะไรหลายๆ อย่างจนได้เข้ามาอยู่ อาร์เอส คนก็รู้จักเพลงมากขึ้นแล้วทำให้เรามีรายได้ขึ้นมาแม่เขาก็รู้สึกดีใจมากๆ แม่คงคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าเราไม่น่าจะทำได้พอทำได้เลยรู้สึกปลื้มมากกว่าครับ
(เบน) สำหรับอัลบั้มแรกตอนนั้นแม่ก็รู้สึกเป็นห่วงมากกว่า เพราะตอนนั้นผมกำลังเรียนปี 4 อยู่ แล้วใกล้จบมันต้องมีโปรเจ็คเยอะ แม่เลยห่วงว่าจะไปไม่รอดถ้าทำทั้งสองอย่าง ผมก็ดีใจกับอัลบั้มนะ แม่ก็จะออกมาแนวเป็นห่วงมากกว่าพอทุกอย่างมันจบไปได้ด้วยดี แม่ก็ดีใจครับ สำหรับเรื่องเพลงแม่ผมไม่ใช่คนฟังเพลงร็อคอยู่แล้ว แต่แม่ก็จะบอกเพลงเพราะนะ เบนร้องดีนะ
(หวิว) ของผมพอเอาไปให้ฟังในอัลบั้มแรก แม่ก็ฟัง ชอบหมดนะครับถามว่าฟังรู้เรื่องมั้ย ก็รู้เรื่องนะแต่ว่าร้องตามไม่ค่อยได้ แล้วพอยิงทีเซอร์ออกมาซักประมาณ15-30 วินาที แม่ก็จะบอกว่าทำไมมันเร็วจังยังดูไม่เต็มอิ่มเลย แม่ก็รู้สึกประทับใจกับอัลบั้มครับ ถ้ามีรายการของอาร์เอสช่วงดึกๆ ตี 1 ตี 2 ก็จะตื่นกันบ่าย 2 บ่าย 3 ตอนที่อยู่ในช่วงโปรโมทน่ะครับ
(ปาน) ของปานนี่ชอบหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าเปิดทุกวันนะคะ แล้วพ่อก็จะเช็คชาร์ตทุกวัน ฟังวิทยุทุกวัน พ่อกับแม่ก็จะไม่ค่อยแสดงอะไรมาก แต่คงภูมิใจอยู่ลึกๆ แต่ก่อนหน้านั้นไม่ฟังเพลงไม่ฟังวิทยุ ทุกวันนี้พ่อก็ฟังอยู่ค่ะ พ่อจะเป็นคนเช็คตลอดค่ะ
การแสดงออกทางความรักระหว่างแม่ลูกแต่ละคนมีการแสดงออกอย่างไรบ้าง
(ปาน) ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะใช้วิธีซื้อของฝาก ปานเป็นคนไม่ค่อยพูดรักพร่ำเพรื่อไม่กอด ที่บ้านไม่ใช้วิธีสัมผัสใช้วิธีการเป็นห่วงเอาค่ะ โทรศัพท์ถามว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน ใช้ความใส่ใจ อย่างแม่ก็เหมือนกันเวลาที่แม่จะบอกรักเรา บางทีก็จะบอกด้วยไข่เจียว 1 ใบ แม่จะไม่มานั่งบอกว่า แม่รักลูกนะพอถามว่าลูกหิวมั้ย นั่นล่ะคือวิธีการบอกรักของแม่ การบอกรักของปานก็คือซื้อของฝากแม่เวลาเราไปไหนเราจะนึกถึงเค้าเป็นอันดับแรกว่าอันนี้จะได้ใช้มั้ย อันนี้จะได้ใส่มั้ยก็จะเป็นแบบนั้น แต่มาหลังๆ พอเริ่มป่วย วิธีที่ต้องใช้ก็ต้องใช้สัมผัสมากขึ้น แรกๆ ก็จะเขินๆ แต่ปัจจุบันก็ชินแล้วเวลาเจอเค้าก็ต้องเข้าไปกอด เข้าไปกราบแม่ก็ไม่รู้สึกเขินอะไรแล้ว
(หวิว) ของผมนี่มากมายครับ ท่วมท้นคือยังกอดยังหอมแก้มกันสนุกสนานเป็นปกติครับแสดงความรักกันอย่างนี้ครับก็สนิทกันมากครับ ไม่ใช่เฉพาะเราคนเดียวนะครับ ลูก ๆ ทั้งหมดเลยเวลาแสดงความรักก็จะกอด หอมแก้มเป็นกันทั้งบ้านครับ
(เบน) ของผมก็ชอบกอดครับ กอดเป็นประจำ กอดแล้วก็บอกรักแม่นะ บอกรักจะน้อยหน่อย แต่จะกอดเยอะ แล้วก็จะช่วยยืดเส้นยืดสายให้แม่บ้าง บางทีคุณแม่กล้ามเนื้อไม่ค่อยดีทำให้เส้นตึงแล้วก็เป็นตะคริวบ่อย ผมก็จะช่วยยืด ช่วยนวดให้นะครับ
(วิด) ของผมหรือครับ วิธีบอกรักของผมคือผมจะทำนานๆ ที แม่ของผม แต่ก่อนเป็นแม่ครัวอาหารตามสั่ง จะทำได้เก่ง มื่อก่อนเช่าบ้านอยู่ก็ทำ ตอนนี้พอมาอยู่บ้านเดี่ยวผมก็เลยบอกว่าแม่เดี๋ยวจัดร้านให้ติดกันสาด ติดอะไรให้เรียบร้อย มีโต๊ะเก้าอี้ คือทำให้แม่เลย จัดให้แม่ เงินทุนของเราเองอยากทำอะไรทำไปเลย แล้วก็จะรู้ว่ารักไม่รักมันอยู่ที่ว่าเวลาเราทำงานเหนื่อยๆ มา แล้วตื่นมาตอนสายผมก็เลยบอกแม่ว่า แม่กระเพราเนื้อไข่ดาวหน่อย แม่จะรู้สึกดีว่าเรากินอาหารฝีมือเขา พอเราอยากได้อะไรเขาทำให้ตรงนี้ก็ได้ความรู้สึกที่ดีต่อกัน ว่าเราอยากกินอาหารฝีมือแม่ไงครับ
แล้วแต่ละคนเคยทำอะไรให้แม่เสียใจบ้างหรือเปล่า
(วิด) ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่รอมานานแล้วว่าเมื่อไหร่จะทำงานเป็นหลักเป็นแหล่งซะทีเพื่อที่จะเอาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว แต่ผมมุ่งที่จะออกเทปให้ได้นี่เป็นสิ่งที่ผมเถียงกับแม่ก่อนเข้ามาอยู่อาร์เอส แม่ไล่ออกจากบ้านเลยตัดลูกตัดแม่เลย ผมร้องไห้ขนเสื้อผ้าออกจากบ้านมาเช่าห้องอยู่รู้เลยว่าตอนนี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้แม่เสียใจมากที่สุด แม่ก็ร้องไห้ ผมก็รู้สึกเสียใจแล้วก็คิดในใจว่าสักวันนะแม่จะมองเราผิดไปแล้ว สักพักแม่จะมองเราถูกว่าผมเดินไปถูกที่ แล้วผมก็ออกเทปแม่ก็รู้สึกดีกับผมจากที่เราออกมาตรงนี้ผมก็รู้สึกไม่ดีที่ทำกับแม่ครับ
(เบน) ผมไม่เคยทะเลาะอะไรกับแม่ที่เป็นเรื่องใหญ่ ๆ เลย ก็มีบ้างบางทีเราก็หลงตัวเอง อย่าง สมมุติว่าเราเรียนสูงกว่าแม่เรารู้เรื่องพวกอิเล็กโทรนิค คือเรารู้กว่าไงครับ แล้วเวลาที่แม่ทำอะไรที่มันไม่ถูก เราก็จะทำเหมือนรำคาญ ทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ เราทำเหมือนรำคาญแม่ แต่แม่จะคิดว่าทำไมลูกไม่ให้เกียรติแม่เลยเรื่องแบบนี้ผมคิดว่ามีลูกหลายๆ คนจะเป็น คือพูดแบบไม่ให้เกียรติแม่ พูดแรงทำเหมือนเก่งกว่า แต่แม่เขาจะรู้สึกอย่างแรกเลยคือเสียใจ เสียใจที่ลูกว่า อันดับสองแม่จะรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าอันนี้แย่กว่าเดิมอีกที่ทำให้แม่รู้สึกด้อยค่าลง บางทีผมกลับมามองก็คิดว่า เราทำแบบนี้แม่จะรู้สึกยังไง นั่นเป็นสิ่งที่ผมจะพยายามไม่ทำที่สุด คือการว่าตัวเองดีกว่าแม่นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้แม่เสียใจครับ
(หวิว) ของผมก็คล้ายๆ เบนครับจะมีเรื่องทะเลาะกับใหญ่ๆ เลยก็มีแต่ก็คงไม่เสียใจเท่ากับเรื่องคล้ายๆ เบนก็ประมาณว่าเรารู้สึกอยู่เหนือกว่าอย่างเช่นว่ามีภาษาอังกฤษมาแล้วแม่ก็อ่านก่อนแล้วอ่านผิด เราก็ว่าแม่ว่า ไม่ใช่ต้องอ่านอย่างนี้แล้วเราก็หัวเราะกันในบรรดาพี่น้อง ประมาณว่าแม่หน้าแตกแต่เราหัวเราะเป็นเรื่องสนุกของเราแต่จริงๆ แล้วแม่ก็น้อยใจก็เริ่มในคำร้ายมีความรักเข้ามาล่ะครับ
(ปาน) ของปานนี่แม่จะเป็นคนดื้อมาก เราเลยรู้สึกว่าแม่เขาจะพูดว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนนะ ลูกๆ 5 คนก็จะรุมแม่เลย แต่สิ่งที่เขาประสบความสำเร็จโดยที่แม่ไม่รู้เลยว่าในความที่ 5 รุม 1 แม่สามารถเลี้ยงลูกให้เป็นหนึ่งเดียวได้ขนาดนี้ 5 คนนี้จะมีความเห็นไปในทางเดียวกันไม่มีแตกแถวเลยเวลาที่เข้าข้างกันแม่ก็จะเซ็งมากว่าทำไมชอบรุมแม่ แม่ก็จะด่า เราจะทำร้ายด้วยคำพูดกับแม่โดยไม่รู้ตัวส่วนใหญ่การทำร้ายเค้าด้วยคำพูดโดยเราก็ไม่รู้ แต่แม่อาจจะมีความเสียใจมากน้อยตามน้ำหนักคำพูดของเราค่ะ
สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงลูก ๆ บ้าง
(ปาน) อยากให้ลูก ๆ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มาก เพลงนี้จะเป็นความห่วงใยระหว่างพ่อแม่บางครั้งการทำงานมากไปไม่อาจทำให้คนข้างหลังมีความสุขได้เหมือนกับอีกคนกำลังเจริญรุ่งเรืองแต่อีกคนเค้ากำลังรอเราอยู่
(หวิว) ของผมเอาเกี่ยวกับเพลงแล้วกันนะครับก็คือ ลูก ๆ หลายคนต้องโดนพ่อแม่อบรม สั่งสอนอยู่แล้วล่ะบางทีอาจจะรำคาญหรือหงุดหงิดบ้างในคำสั่งสอน คำว่ากล่าว ก็อยากจะบอกลูกๆ ว่าอย่าไปหงุดหงิดมากมาย แม้ว่าจะไม่หายหงุดหงิดก็ตาม แต่ถ้าเราลองย้อนกลับไปมองนั่นมันคือคำสั่งสอนที่ดี พ่อกับแม่อยากให้เราเป็นคนดีก็เป็นคำรักๆ ทั้งนั้นอยากให้กราบท่านและก็บอกว่ารักท่านให้ท่านได้ยินคำนี้ให้ชื่นใจ และอยากให้ทำดีกับท่านคือทำอะไรก็ได้ให้ท่านภูมิใจหรือรู้สึกดีที่มีลูกคนนี้ ก็ทำดีกับท่านเยอะๆ อย่าดูถูกท่านด้วยคำพูดหรือแสดงพฤติกรรมที่ทำให้ท่านเสียใจเลยครับ
(เบน) อยากให้ลูกๆ รักแม่เยอะๆ และให้เกียรติท่านทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคำพูด การให้เกียรติท่านมันจะทำให้ท่านรู้สึกดี ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็จะดีด้วยครับ
(วิด) แม่กับลูกอาจจะไม่ค่อยเข้าใจกันแต่สิ่งที่แม่เตือนเราก็อยากให้เราได้ดีก็อยากจะบอกลูกๆ ทุกคนว่าอะไรที่ยังงอน ๆ อยู่จะผิดจะถูกเค้าก็คือแม่เรายังไงแม่ต้องถูกไว้ก่อนควรจะกลับตัวกลับใจทำอะไรที่ดีๆ เพื่อแม่ อย่าทำให้เรื่องมันบานปลายที่จะทำให้เราโกรธกันมากขึ้นจริง ๆ แม่ก็อาจจะอยู่กับเราได้ไม่นานเราสมควรจะทำดีกับแม่ก็ฝากลูกๆ ดูแลแม่ด้วยยังไงแม่ก็คือแม่เราครับ
ติดตามอัลบั้ม “คิดถึงแม่...เรารักแม่” ได้แล้ววันนี้ทุกแผงทั่วประเทศ และพบกับมิวสิกฯเพลง “เรารักแม่” ได้แล้วพร้อมกันทั่วประเทศทางรายการโทรทัศน์ในเครืออาร์เอสฯ และทางเคเบิ้ลทีวีทุกช่อง
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net