GSPA นิด้าเชื่อเปิดสภาฯ เข็น พ.ร.ก. 4 แสนล.พ่วง พ.ร.บ.รายจ่าย 53 ฉลุย พร้อมประเมินผลงาน 6 เดือน รัฐบาลได้เกรด B

ข่าวทั่วไป Friday June 12, 2009 14:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ GSPA NIDA มั่นใจเปิดประชุมสภาฯ สัปดาห์หน้า เข็น พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน และ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 53 ผ่านฉลุย ติงงบกลาง 2.15 แสนล้านบาทต้องชัดเจน ส่วนยุทธศาสตร์สร้างความเชื่อมั่นและจัดการเศรษฐกิจให้ขยายตัววงเงินต่ำเกินไปหวั่นดันเศรษฐกิจไม่ขึ้น พร้อมประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือนสอบผ่าน รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (GSPA NIDA) กล่าวว่า เชื่อว่า ที่ประชุมสภาสมัยวิสามัญในเรื่องพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 กรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาท ระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้นั้น จะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และไม่คิดว่าจะถูกนำมาใช้เป็นเกมการเมือง เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ “การพิจารณา พ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนล้านบาทในสัปดาห์หน้า เชื่อว่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่น่าจะมีปัญหา หรือถูกเกมการเมืองขัดขา ซึ่งทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะต้องช่วยกันไตร่ตรองในเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องที่จำเป็น และประชาชนได้ประโยชน์โดยตรง ดังนั้น ถ้ายิ่งพิจารณาได้เร็วก็จะยิ่งได้ประโยชน์” รศ.ดร.มนตรี กล่าว ส่วนการอัดฉีดเม็ดเงินลงไปในส่วนไหน อย่างไรบ้างนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นภาพชัดเจน แต่โดยหลักการแล้วถ้าจะให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่นั้น รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องรีบลงทุนในโครงการขนาดใหญ่และต่อเนื่องโดยเร็ว เช่น โครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา GSPA NIDA กล่าวต่อว่า นอกจากการพิจารณา พ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนล้านบาทที่คาดว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท ในระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้ ก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเช่นกันเพื่อจะให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับงบกลางวงเงิน 2.15 แสนล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 12.7% ของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดนั้น รัฐบาลควรจะต้องมีการจัดสรรใช้จ่ายที่ชัดเจนเพื่อเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ “ดูจากการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย 1.7 ล้านล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่ก็เหมาะสมทั้งในส่วนของกระทรวงศึกษาที่เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาชาติ กระทรวงการคลังที่ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจโดยเร็ว แต่ที่ตั้งข้อสังเกตก็คือในส่วนของงบกลาง ซึ่งหมายถึงงบที่รัฐบาลยังไม่มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะใช้ทำอะไรนั้นมีมากถึง 2.15 แสนล้านบาท ซึ่งถ้ายังไม่มีแผนจริงๆ ก็น่าจะแบ่งไปให้ส่วนอื่นที่มีโครงการลงทุนชัดเจนดีกว่า” รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา GSPA NIDA กล่าว ขณะที่ยุทธศาสตร์งบประมาณรายจ่ายยังมีบางด้านที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การสร้างความเชื่อมั่นและการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ 1.45 แสนล้านบาท และยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเศรษฐกิจให้ขยายตัวให้อย่างมีเสถียรภาพ วงเงิน 1.58 แสนล้านบาทนั้นยังถือว่าต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตที่มีวงเงินมากถึง 5.06 แสนล้านบาท เนื่องจากการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างการเติบโตเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ หากประเมินผลงานรัฐบาลซึ่งใกล้จะครบรอบ 6 เดือนนั้น ภาพรวมการบริหารงานด้านเศรษฐกิจถือว่าอยู่ในระดับเกรด B โดยสามารถดำเนินนโยบายต่อเนื่องและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี แต่ทั้งนี้ก็ยังขาดการวางแผนที่เป็นระบบและขาดการประสานงานที่ดีพอ โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ทำให้ที่ผ่านมาจะเห็นภาพนายกรัฐมนตรีต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนามคณะรัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า) พิภพ ฆ้องวง (ท๊อป) โทร. 02-248-7967-8 ต่อ 118 โทรสาร. 02-248-7969

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ