ธนาคารกรุงเทพประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 4,816 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Thursday October 20, 2005 11:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนจำนวน 16,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 5,843 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.4 และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากค่าธรรมเนียมจำนวน 1,079 ล้านบาท หรือร้อยละ 12
ในรอบเก้าเดือนแรกของปี 2548 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารมียอด 28,876 ล้านบาท มีการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนโดยรายได้ดอกเบี้ยมียอดเพิ่มขึ้นจำนวน 5,326 ล้านบาท จากอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยด้านสินเชื่อที่สูงขึ้น และรายจ่ายดอกเบี้ยลดลงจำนวน 517 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ธนาคารได้ไถ่ถอนหลักทรัพย์ทุนทวี (CAPS) บางส่วนเมื่อต้นเดือนเมษายน 2547
รายได้จากค่าธรรมเนียมในช่วง 9 เดือนมีจำนวน 10,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านการชำระเงิน การโอนเงิน และบริการบัตรเครดิต นอกจากนี้ ธนาคารยังมีรายได้จากการปริวรรตเงินตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 เป็น 2,131 ล้านบาท อย่างไรก็ตามรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยโดยรวมเพิ่มขึ้นไม่มากนักโดยเพิ่มขึ้นจำนวน 343 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารมีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในตราสารหนี้จำนวน 1,253 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3
ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 เป็น 22,148 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรเพิ่มขึ้น 1,227 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 เนื่องจากการขึ้นเงินเดือนและจากการที่ธนาคารได้ประกาศจ่ายโบนัสให้พนักงานเพิ่ม 1 เดือนเป็นกรณีพิเศษในเดือนกรกฎาคม
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548 ยอดเงินให้สินเชื่อของธนาคารมีจำนวน 946,142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,201 ล้านบาท เทียบกับสิ้นเดือนธันวาคม 2547 ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2547 เป็นจำนวน 157,376 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.5 ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548 ในไตรมาสที่ 3 นี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นอีก 1,048 ล้านบาท ทำให้มีสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวมทั้งสิ้น 102,425 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 65.1 ของสินเชื่อด้อยคุณภาพ
ส่วนของผู้ถือหุ้นมียอดเพิ่มขึ้น 20,002 ล้านบาท เป็นจำนวน 134,968 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2548 ธนาคารได้ไถ่ถอนหลักทรัพย์ทุนทวี (CAPS) ส่วนที่เหลือ เป็นผลให้เงินกองทุนชั้นที่ 1 รวมกำไรในงวด 9 เดือน อยู่ที่ประมาณร้อยละ 11.0 ในขณะที่เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับประมาณร้อยละ 14.3 ณ สิ้นเดือนกันยายน
ในไตรมาสที่ 3 นี้ ธนาคารเริ่มมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จำนวน 284.7 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 5.6 ของกำไรก่อนหักภาษีของไตรมาส--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ