ปภ. แจ้งเตือนประชาชน ๓๓ จังหวัดระวังอันตรายจากพายุฝน ระหว่าง ๒๒-๒๕ มิ.ย. นี้

ข่าวทั่วไป Tuesday June 23, 2009 07:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน ๓๓ จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาและทางน้ำไหลผ่าน ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งหลายพื้นที่มีฝนตกชุกและเกิดสถานการณ์อุทกภัยอยู่แล้ว หากมีฝนตกต่อเนื่องอีกอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ในระหว่างวันที่ ๒๒-๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งสั่งกำชับมิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยแจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯในพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ห่างฝั่งบริเวณฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ ๒๒-๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและตกหนักในหลายพื้นที่ และในช่วงที่ผ่านมาทางตอนบนของประเทศมีฝนตกชุกอยู่แล้ว ทำให้หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำมากและเกิดสถานการณ์อุทกภัย หากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินถล่มได้ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ ๓๓ จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอนเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล รวมทั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากพายุฝนที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินในระยะ ๓-๔ วันนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมง จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย แจ้งเตือนประชาชน รวมทั้งรายงานข้อมูลสถานการณ์ภัยให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชน และหากเกิดสถานการณ์รุนแรงในจังหวัดใด ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักรเข้าสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที นายอนุชา กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาและทางน้ำไหลผ่านของทั้ง ๓๓ จังหวัดดังกล่าว ให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุฝน หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา ระดับน้ำในลำห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สัตว์ป่ามีอาการแตกตื่น รวมทั้งมีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงโดยอพยพไปตามเส้นทางที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือดินโคลนถล่มขึ้นได้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ห่างฝั่งบริเวณฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนนิรภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ