กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสนับสนุน บจ. เข้าร่วมโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงาน (Employee Joint Investment Plan : EJIP) เผยเป็นรูปแบบการให้ผลตอบแทนแก่พนักงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและความเป็นเจ้าของ นำไปสู่ผลการดำเนินงานที่ดีขององค์กร ควบคู่ส่งเสริมการออมและการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุนที่สามารถลดความเสี่ยง และให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมสร้างผู้ลงทุนคุณภาพ เสริมความเข้มแข็งให้ตลาดทุนไทย
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (23 มิ.ย.2552) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดตัวโครงการสะสมหุ้นสำหรับพนักงานบริษัทจดทะเบียน (Employee Joint Investment Plan) หรือ EJIP อย่างเป็นทางการ โครงการนี้จะสนับสนุนให้พนักงานมีการลงทุนแบบทยอยสะสมหุ้นของบริษัทที่ตนทำงานอยู่ ตามความสมัครใจ ด้วยการจัดสรรเงินลงทุนเท่า ๆ กันทุกงวด โดยพนักงานจะได้รับการสมทบเพิ่มจากบริษัท โดยบริษัทจดทะเบียนรายแรกที่ร่วมโครงการ ได้แก่ บมจ.ซีพี ออลล์ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น โดยมี บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นผู้ดำเนินโครงการของบริษัท
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เหตุผลที่เข้าร่วมโครงการนี้เป็นบริษัทแรก เพราะมั่นใจว่าการให้โอกาสพนักงานมีส่วนเป็นเจ้าบริษัท จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับองค์กร และยังเป็นการให้ผลตอบแทนแก่พนักงานอีกรูปแบบหนึ่ง ตามนโยบายของบริษัทที่พยายามแสวงหาผลตอบแทนรูปแบบใหม่ ๆ ให้แก่พนักงานอยู่เสมอ
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในอนาคตโครงการนี้จะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนรายอื่น ๆ เข้าร่วมโครงการ ซึ่ง บล. ฟิลลิป มีความพร้อมทุกด้านที่จะเป็นผู้ดำเนินการโครงการให้ เพื่อความสะดวกทั้งการติดตามสถานะการลงทุนของตนเอง ด้วยบัญชีอินเตอร์เน็ต และสามารถซื้อขายหุ้น อนุพันธ์ และกองทุนรวมต่าง ๆ ผ่านบัญชีของตนเองอีกด้วย
โครงการ EJIP เป็นผลการศึกษารูปแบบการส่งเสริมการลงทุนที่ประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่น และนับเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับประเทศไทย โดยมีวิธีการและรูปแบบการลงทุนโดยพนักงานจะแบ่งเงินเดือนส่วนหนึ่ง ซื้อหุ้นของบริษัทเป็นประจำทุกงวดทั้งรายเดือนหรือรายไตรมาส และอีกส่วนหนึ่งบริษัทจะสมทบเพิ่มให้ เป็นหลักการลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน หรือ Dollar Cost Average ซึ่งเป็นเทคนิคการลงทุนที่จะสามารถลดความเสี่ยง และให้ผลตอบแทนที่ดีในการลงทุนระยะยาว โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ทำหน้าที่ดูแลจัดสรรหุ้นในบัญชีและติดตามผลประโยชน์ให้แก่พนักงานตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งโครงการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนคุณภาพ มีวัฒนธรรมการลงทุนที่ถูกต้อง และตลาดทุนไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กนกวรรณ เข็มมาลัย โทร. 0-2229 — 2048 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797