กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอเดินหน้าอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการทั้งไทย และต่างชาติ รุกปรับปรุงเว็บไซต์ให้บริการเข้าสู่ระบบ E-Form เปิดโอกาสผู้สนใจกรอกข้อมูลขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ภายในเว็บไซต์ทันทีไม่ต้องรอดาวโหลด พร้อมยันความพร้อมพัฒนาศักยภาพให้ความรู้ทั้งข้อมูล และบริการทางภาษาเพิ่มในอนาคต หลังธนาคารโลกยกให้เป็นหน่วยงานให้บริการด้านข้อมูลนักลงทุนสูงขึ้นถึงร้อยละ 24
นางวราภรณ์ เฉยสอาด ผู้อำนวยการศูนย์บริการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักสารสนเทศได้จัดทำระบบการกรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ (E-Form) ขึ้น เพื่อให้ผู้ขอรับส่งเสริมการลงทุนสามารถกรอกแบบฟอร์มขอรับส่งเสริมการลงทุนได้ผ่านทางเว็บไซต์โดยไม่ต้องรอดาวโหลดข้อมูล เพื่อนำไปกรอกคำขอภายหลังเหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และทำให้การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนของผู้ประกอบการเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปกรอกแบบฟอร์มได้ในเวปไซต์ www.boi.go.th เลือกหัวข้อบริการออนไลน์ และคลิกเข้าไปดาวน์โหลดแบบฟอร์ม โดยจะเห็นแถบสีเหลืองและมีช่องให้คลิกทางด้านขวามือ มีข้อความ “Highlight fields” ซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถกรอกแบบฟอร์มได้ทันที โดยบริการใหม่นี้จะครอบคลุม ให้บริการแบบฟอร์มขอรับส่งเสริมการลงทุนในกิจการทั่วไป (คำขอรับการส่งเสริม กกท.01) และกิจการเฉพาะบางประเภท ได้แก่ คำขอรับส่งเสริมสำหรับกิจการบริการ และ คำขอรับการส่งเสริมสำหรับกิจการประเภท 5.8 ได้แก่ กิจการซอฟต์แวร์ และประเภทกิจการ 5.9 ได้แก่ กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท
“บริการที่เกิดขึ้นนี้เป็นการบริการแบบใหม่ ที่จะรองรับการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนทั้งแบบฟอร์มภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อสนองตอบความต้องการของกลุ่มลูกค้าของบีโอไอให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วในการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0-2537-8111-55 และ 0-2537-8555 ทุกวันเวลาราชการ” นางวราภรณ์ กล่าว
นางวราภรณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา บีโอไอ ได้รับการประเมินการให้บริการข้อมูลแก่นักลงทุน จากธนาคารโลก ว่ามีศักยภาพในการให้บริการสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับการประเมินในปี 2549 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบริการข้อมูลทางเว็บไซต์ ซึ่งบีโอไอมีคะแนนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24 จากเดิมการสำรวจและประเมินในปี 2549 ในระดับคะแนน 54 มาเป็น 78 ในปี 2551
อย่างไรก็ตามบีโอไอยังจะเดินหน้าปรับปรุงเว็บไซต์ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนมากยิ่งขึ้นในอนาคต อาทิ การออกแบบเว็บไซต์ให้สวยงามและน่าสนใจมากขึ้น จะมีบริการออนไลน์มากขึ้น เพื่อสามารถให้บริการนอกเวลาทำงานได้ รวมทั้งจะเพิ่มปริมาณเนื้อหา และการให้บริการด้านภาษาจากปัจจุบันมีให้บริการแล้วถึง 7 ภาษา ได้แก่ ไทย ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ให้ครอบคลุมภาษาอื่น ๆ ต่อไป