กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของหุ้นกู้ค้ำประกันชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นของบริษัท กัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด เป็น ‘AAA(tha)’ จาก ‘AA+(tha)’ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 5 ปี มูลค่า 1.16 พันล้านบาทและหุ้นกู้อายุ 10 ปี มูลค่า 2.9 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนเดือนเมษายน 2554 และเดือนเมษายน 2559 ตามลำดับ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
การประกาศเพิ่มอันดับเครดิตครั้งนี้เป็นผลมาจากการปรับเกณฑ์การเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างอันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตสากล และการทบทวนอันดับเครดิตภายในประเทศของทุกบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับทั้งอันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตสากลโดย ฟิทช์ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างอันดับเครดิตทั้งสองให้มีความสอดคล้องและเหมาะสม
อันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถยกเลิกได้จาก DEPFA BANK plc หรือ DEPFA ซึ่งปัจจุบันได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (International Long-term Foreign Currency Issuer Default Rating) ที่ ‘A-’, แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ผู้ถือหุ้นกู้ควรตระหนักว่าการค้ำประกันดังกล่าวไม่รวมถึงผลต่างของอัตราดอกเบี้ยและอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระบนเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างชำระเมื่อเกิดเหตุผิดนัดชำระ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงดังกล่าวได้ถูกลดทอนลงจากการที่ผู้ออกหุ้นกู้ได้เปิดบัญชีเงินฝากจำนวน 5 ล้านบาทเพื่อผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อสำรองไว้สำหรับการชำระคืนเงินจำนวนดังกล่าวที่ผู้ค้ำประกันไม่ได้ค้ำประกัน นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นกู้ควรตระหนักด้วยว่าอาจจะได้รับชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยจากผู้ค้ำประกันเป็นเงินสกุลเยน ในกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศห้ามหรือจำกัดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท
ในเดือนตุลาคม 2550 Hypo Real Estate Holding AG หรือ HRE (ซึ่งมีอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศที่ ‘A-’, แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) เข้าซื้อกิจการของ DEPFA การที่อันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตสากลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ และอันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) ของ DEPFA อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของ HRE สะท้อนถึงความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลเยอรมันจะให้การสนับสนุนต่อกลุ่ม HRE อย่างต่อเนื่อง และความเกี่ยวเนื่องของธุรกิจและการดำเนินงานระหว่างบริษัทในกลุ่ม HRE ที่สูง รัฐบาลเยอรมันได้เข้าถือหุ้น 90% ใน HRE โดยถือหุ้นผ่าน Financial Markets Stabilisation Fund หรือ SoFFin ด้วยการเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมและการซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท
ฟิทช์เข้าใจว่า SoFFin มีความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในส่วนที่เหลือเพื่อควบคุมกิจการทั้งหมดของกลุ่ม HRE และดำเนินการตามแผนปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจที่ได้ประกาศไว้เมื่อปลายปี 2551 ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้โครงสร้างธุรกิจของกลุ่ม HRE จะถูกปรับให้เข้ากันมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการควบรวมกิจการระหว่าง Depfa Deutsche Pfandbriefbank AG กับ Hypo Real Estate Bank AG ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น Deutsche Pandbriefbank AG เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2552 โดยหลังจากการควบรวมกิจการ Deutsche Pandbriefbank AG จะเป็นผู้ดูแลธุรกิจและสินทรัพย์หลักของกลุ่มรวมถึงการขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วยการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการของภาครัฐและการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเยอรมันและทวีปยุโรป ในกรณีที่บริษัทสามารถหาเงินทุนหลักจากการออกหุ้นกู้ในประเทศเยอรมันที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (German asset-covered bond หรือ Pfandbriefe) ส่วน DEPFA จะเป็นผู้ดูแลธุรกิจซึ่งไม่ใช่ธุรกิจหลักของกลุ่มซึ่งประกอบด้วยการปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนและธุรกิจซื้อขายตราสารทางการเงิน โดยคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะลดสัดส่วนลงอย่างต่อเนื่องในอนาคต เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2552 HRE ประกาศว่าจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการโอนหนี้ที่มีปัญหาส่วนใหญ่และสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักของกลุ่มออกไป
DEPFA ประสบปัญหาสภาพคล่องเมื่อปลายปี 2551 เนื่องจากความน่าเชื่อถือในฐานะคู่สัญญา (Counterparty) ของธนาคารลดลงอย่างมากหลังจากการล้มละลายของ Lehman Brothers Holding Inc. ซึ่งรัฐบาลเยอรมัน, SoFFin และกลุ่มสถาบันการเงินได้ร่วมกันให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ HRE โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2552 HRE ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินรวมทั้งสิ้น 1 แสนล้านเหรียญยูโร
ติดต่อ: โอบบุญ ถิรจิต, เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, Vincent Milton, + 662 655 4755
Simone Brehmer, Frankfurt, + 49 69 768076 263
หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน