อนามัยโลกยกนิ้วชมไทย "เป็นตัวอย่างโลก"รักษาผู้ป่วยพิษจากเชื้อโบทูลินัม 209 รายสำเร็จ

ข่าวทั่วไป Friday April 7, 2006 17:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--กระทรวงสาธารณสุข
วงการแพทย์ไทยประสบผลสำเร็จ ดูแลผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากหน่อไม้ปี๊บอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วย 209 รายรอดชีวิตได้ทั้งหมด องค์การอนามัยโลกได้แสดงความชื่นชม และยกย่องให้เป็นตัวอย่างนานาประเทศ โดยวันนี้ผู้ป่วยหนักที่เข้ามารักษาในกทม.อาการเป็นปกติ กลับบ้านได้อีก 4 รายคาดว่าอีก 10-20 วันกลับบ้านได้หมด
เช้าวันที่ 5 เมษายน 2549 ที่ผ่านมา ที่กระทรวงสาธารณสุข นนทบุรี นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ร่วมกันแถลงข่าว "ความสำเร็จจากการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostidlum Botulinum) จากการกินหน่อไม้ปี๊บที่จังหวัดน่าน โดยไม่ต้มให้เดือดก่อน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2549 " ว่า การป่วยครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งร้ายแรงและใหญ่ที่สุดของไทยและของโลก มีผู้ป่วยมากถึง 209 ราย ในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง เนื่องจากกล้ามเนื้อระบบหายใจชา ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 137 ราย และอาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถึง 42 ราย กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานขอสนับสนุนสารต้านพิษ (Antitoxin) จากประเทศอังกฤษ แคนาดา สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น รวม 103 โดส ฉีดให้ผู้ที่มีอาการหนักอย่างเร่งด่วน และให้การดูแลผู้ป่วยทุกรายอย่างใกล้ชิด การรักษาได้ผลดีมาก ทุกรายอาการฟื้นตัว
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวว่า ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ 22 หลังเกิดเหตุ ยังเหลือผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลเพียง 34 ราย ผู้ป่วยหนักที่ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาล 7 แห่งในกทม. จำนวน 17 ราย สามารถกลับบ้านได้ 4 ราย เป็นผู้ป่วยที่โรงพยาบาลราชวิถี 2 ราย ได้แก่ นางวนิดา พอใจ และนางสุริยะกานต์ พอใจ และจากโรงพยาบาลจุฬาฯ 2 ราย คือ นายบุญยก แสนทะนะ และนางสุพรรณบัฎ จันทร์เขียว โรงพยาบาลน่านได้ส่งรถตู้ปรับอากาศารับกลับบ้านในวันนี้ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัมรอดชีวิตทุกราย ซึ่งในทางวิชาการโรคดังกล่าวมีความรุนแรงมาก หากดูแลไม่ถูกวิธี ผู้ป่วย 5-10 %จะมีโอกาสเสียชีวิตได้ แต่ประเทศไทยทำได้สำเร็จ
"องค์การอนามัยโลกได้แสดงความชื่นชม และให้ใช้การดำเนินงานของไทยเป็นแนวทางสำหรับประเทศอื่นต่อไปด้วย นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมโครงการอาหารปลอดภัย ซึ่งประเทศไทยแทบจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลายประเทศได้ส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาศึกษาการเกิดพิษที่จังหวัดน่าน เพื่อนำไปพัฒนาการรักษาและวางแนวทางป้องกัน"นายแพทย์ปราชญ์กล่าว
นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวอีกว่า พิษของเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม เป็นหนึ่งในอาวุธชีวภาพร้ายแรง มีอาณุภาพการทำลายมากกว่าเชื้อแอนแทรกซ์ ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ จากวิเคราะห์อาการผู้ป่วย ส่วนใหญ่จะปรากฎมากในวันที่ 15 มีนาคม โดยส่วนาใหญ่ 77 % มีอาการปวดท้อง รองลงมาคือ ปากแห้ง คลื่นไส้อาเจียน พบ 50 % กลืนลำบากพบ 38 % และอาการมวนท้องพบ 38 %
โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำตัวอย่างหน่อไม้ปี๊บจากจังหวัดน่าน ไปตรวจเพาะเชื้อ ยืนยันเป็นเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม ซึ่งเกิดจากการผลิตหน่อไม้ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวมีอยู่ทั่วไปในดินอาจมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก เนื่องจากชาวบ้านมีความคุ้นเคยการบริโภคหน่อไม้ ในการป้องกันปัญหา อย. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในภาคเหนือ และภาคอื่น ๆ ที่มีการแปรรูปหน่อไม้ทำเป็นหน่อไม้อัดปี๊บ ให้ความรู้และเทคนิคการผลิตที่ถูกต้อง แก่เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบ ผู้ประกอบการขนาดเล็ก กลุ่มแม่บ้านผลิตหน่อไม้ปี๊บ เพื่อให้ทันฤดูกาลผลิตในเดือนกรกฎาคมนี้
ขณะเดียวกัน ได้เตรียมออกประกาศฯ กำหนดวิธีการผลิตหน่อไม้ปี๊บเพิ่มเติมจากหลักเกณฑ์สุขลักษณะที่ดีในการผลิต โดยต้องมีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนตามอุณหภูมิและเวลาที่กำหนด คือวัดอุณหภูมิหน่อไม้ชิ้นบนสุด ให้ได้อย่างน้อย 75 องศาเชลเซียส นาน 5 นาที ซึ่งเพียงพอในการทำลายสปอร์ของเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม ที่อาจจะมีการปนเปื้อนในวัตถุดิบได้ และขอแนะนำให้ผู้บริโภคสังเกตฉลากอาหารกระป๋อง ที่สำคัญคือ ต้องมีเครื่องหมาย อย. สภาพกระป๋องต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยบุบ หรือมีสนิมรอบตะเข็บ และเมื่อจะรับประทานอาหารกระป๋องทุกครั้งต้องเทออกจากกระป๋องแล้วนำมาอุ่นไฟให้ร้อน โดยเฉพ่ะหน่อไม้ปี๊บ ขอให้ต้มนาน 20-30 นาที และเทน้ำทิ้งประมาณ 2 ครั้งก่อนรับประทาน หากรับประทานแล้วมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ คอห้ง ปากแข็ง หรือปวดท้อง ให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
http://www.moph.go.th/opa/iprg

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ