กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--ก.ล.ต. ก.ล.ต. ลงโทษผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน 2 ราย โดยสั่งเพิกถอนนายวิทยา กองแก้ว เนื่องจากหลอกลูกค้าว่าจะนำเงินไปจองซื้อหลักทรัพย์นอกตลาดให้ และสั่งพักการปฏิบัติงานนายลัทธ์ ชาญอนุรักษ์ เนื่องจากตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้าโดยมีข้อตกลงจะแบ่งกำไรกับลูกค้า ซึ่งพฤติกรรมของทั้งสองรายเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนของนายวิทยา กองแก้ว ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 เนื่องจากพบว่า นายวิทยาหลอกลวงให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีของตนหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 1.58 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะนำไปจองซื้อหลักทรัพย์ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและหลักทรัพย์ที่ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ไม่ปรากฏว่ามีการจองซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวและบริษัทหลักทรัพย์ก็มิได้จัดสรรหลักทรัพย์ใดให้แก่ลูกค้า ส่วนรายนายลัทธ์ ชาญอนุรักษ์ ถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนเป็นระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2549 เนื่องจาก ก.ล.ต. พบว่า นายลัทธ์ได้สั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าโดยมีข้อตกลงที่จะแบ่งผลกำไรกับลูกค้า และในกรณีนี้นายลัทธ์ได้ซื้อขายหลักทรัพย์จนทำให้ลูกค้าเสียหาย การที่ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนกระทำการทุจริต หลอกลวง หรือฉ้อโกงทรัพย์สินของผู้ลงทุน แสวงหาผลประโยชน์จากผู้ลงทุนโดยอาศัยการปฏิบัติงาน รวมทั้งการรับมอบอำนาจจากผู้ลงทุนในการซื้อขายหรือตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนผู้ลงทุน เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ซึ่ง ก.ล.ต. ได้แจ้งย้ำมาแล้วหลายครั้ง ก.ล.ต. จึงลงโทษอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอเตือนผู้ลงทุนในการซื้อขายหรือจองซื้อหลักทรัพย์ ให้ใช้ เช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายบริษัทหลักทรัพย์หรือโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์หรือทำตามที่ใบจองซื้อหลักทรัพย์ระบุไว้เท่านั้น และต้องได้รับหลักฐานการจองซื้อหลักทรัพย์ด้วยทุกครั้ง สำหรับการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนต้องเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตนเอง ผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนเป็นเพียงผู้ให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับหลักทรัพย์ตามบทวิเคราะห์ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดทำ และดำเนินการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนเท่านั้น