กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--สำนักงาน ก.พ.
ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานเปิดงานวันองค์การมหาชน ครั้งที่ ๒ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “๑ ทศวรรษองค์การมหาชนกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย” พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่อง “องค์การมหาชนกับอนาคตของประเทศไทย” ในวันที่ ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๔.oo น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นอกจากนี้ พบกับการอภิปรายให้ความรู้ในแขนงต่างๆ ทั้งทางด้านการศึกษา เศรษฐกิจและสังคม และเทคโนโลยี โดยวิทยากรและนักวิชาการชั้นนำทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังมีการออกบู้ธเพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจจากทั้ง ๒๘ องค์การมหาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงองค์การมหาชน หน่วยงานของรัฐรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนจากกลยุทธ์ตั้งรับเป็นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างถูกทิศทางและมีประสิทธิภาพ
นายอาวุธ วรรณวงศ์ รองเลขาธิการ ก.พ.ร.เปิดเผยว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากพัฒนาการด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจและสังคม และด้านเทคโนโลยี โดยพัฒนาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนชาวไทยทั้งสิ้น เมื่อมีการพัฒนาเกิดขึ้น มาตรฐานของการดำเนินชีวิตก็จะถูกปรับให้สูงขึ้นตามลำดับ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้เล็งเห็นว่าการจำแนกองค์กรจัดทำบริการสาธารณะไว้เพียงสองประเภท คือ ส่วนราชการ และ รัฐวิสาหกิจ นั้นมีข้อจำกัดและอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับต่อการเจริญเติบโตของประเทศทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมได้
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การบริหารของภาครัฐจึงสมควรต้องปรับรูปแบบการทำงาน จากกลยุทธ์ตั้งรับเป็นกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างถูกทิศทางและมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้จึงนำมาสู่รูปแบบการทำงานของภาครัฐในรูปแบบใหม่ นั่นก็คือ หน่วยงานที่เรียกว่า “องค์การมหาชน”
องค์การมหาชน เป็นหน่วยงานของรัฐรูปแบบใหม่ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับภารกิจของรัฐในการบริการสาธารณะรูปแบบอื่น นอกเหนือไปจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ และเป็นหน่วยงานที่มีความคล่องตัวในการดำเนินงานสูง เพื่อตอบรับความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่ไม่ได้มีลักษณะของการดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ ที่มุ่งแสวงหากำไร หรือคำนึงถึงรายได้เป็นสำคัญ ปัจจุบันประเทศไทยมีองค์การมหาชนทั้งสิ้น ๒๘ แห่ง ทั้งนี้จะมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เป็นหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาแนะนำต่อคณะรัฐมนตรี ในการกำกับดูแลองค์การมหาชน
รองเลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอด ๑ ทศวรรษที่ผ่านมา จากการดำเนินงานขององค์การมหาชนทั้ง ๒๘ แห่ง ทำให้เราได้บทสรุปผลงานที่เป็นรูปธรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ มากมาย เช่น ในด้านเศรษฐกิจรายได้เข้าประเทศจากการดำเนินงานโดยตรงของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ระหว่างปี ๒๕๔๗-๒๕๕๑ ประมาณ ๑๗,๗๘๓ ล้านบาท รวมทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการส่งออก จากการรับรองอัญมณีไทยของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ แห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ สวอ. นอกเหนือจากนั้น ในด้านการพัฒนาด้านการศึกษา โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ช่วยสร้างนักเรียนที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ได้รับรางวัลระดับโลก และสร้างหลักสูตรต้นแบบสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอนด้านวิทยาศาตร์ ส่วนสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ได้สร้างให้เกิดระบบประเมินมาตรฐานโรงเรียนและสถาบันอุดมศึกษาที่ดีมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งการสร้างมาตรฐานระบบทดสอบของ สทศ.
ด้านการพัฒนาทางเทคโนโลยี เช่น การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ การใช้ประโยชน์จากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรระดับปฏิบัติการดวงแรกของประเทศ ส่วนด้านสังคมนั้น โรงพยาบาลบ้านแพ้วที่เป็นต้นแบบการบริหารจัดการ โรงพยาบาลที่เปิดให้มีส่วนร่วมจากชุมชนและให้บริการที่ได้มาตรฐาน ทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือขององค์กรชุมชนและส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง
และในวันที่ ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๕๒ นี้ องค์การมหาชนจะจัดงานวันองค์การมหาชนครั้งที่ ๒ ขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “๑ ทศวรรษองค์การมหาชนกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย” ซึ่ง ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานที่ประชุมผู้บริหารองค์การมหาชน กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการจัดงานก็เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับองค์การมหาชน ภารกิจและผลงานขององค์การมหาชนที่มีต่อสังคมไทย รวมทั้งพลังร่วมขององค์การมหาชนที่ดำเนินงานเสริมสร้างหน่วยงานทั้งของภาครัฐและเอกชน ตลอด ๑ ทศวรรษ ที่ผ่านมา
พิธีเปิดงานวันองค์การมหาชน ครั้งที่ ๒ ได้รับเกียรติจากฯ พณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่อง “องค์การมหาชนกับอนาคตของประเทศไทย” นอกจากนั้น ภายในงานจะมีการเสวนาให้ความรู้ในแขนงต่างๆ ทั้งทางด้านการศึกษา เศรษฐกิจและสังคม และเทคโนโลยี โดยวิทยากรชั้นนำ อาทิ หัวข้อเสวนาหลัก “๑ ทศวรรษองค์การมหาชนกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย”โดย สมพล เกียรติไพบูลย์, ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี, ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ดำเนินรายการโดย ดร.อรพินท์ สพโชคชัย
หัวข้อ “การปฏิรูปการศึกษากับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม” โดย ศ.ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน ศ.ดร.วิจิตร ศรีสะอ้าน, ศ.ดร. ยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ / หัวข้อ “ประเมินคุณภาพสถานศึกษารอบ ๓” โดย ศาสตราจารย์ กิตติคุณ ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์
หัวข้อ “องค์การมหาชน เพื่อชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจมั่นคง” โดย ดร.วัชรัศมิ์ ลีละวัฒน์, สิน สื่อสวน, วรวุฒิ บุญเพ็ญ, พลเอกเธียรศักดิ์ พะลายานนท์, พ.อ.ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท หัวข้อ “เทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในทศวรรษหน้า” โดย ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา, ผศ. ดร.สมพร จองคำ, ชาญชัย เพียรวิจารณ์พงศ์, ดร.รอยล จิตรดอน เป็นต้น
นอกจากการเสวนาทางวิชาการแล้วยังมีการจัดนิทรรศการ แสดงสินค้าและการบริการ โดยมีองค์การมหาชนทั้ง ๒๘ แห่ง ออกบู้ธเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทการทำงานของแต่ละองค์การรวมถึงแผนงานการทำงานในอนาคต อีกทั้งยังมีกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจไม่ควรพลาด เช่น ตรวจสุขภาพ และตรวจวัดสายตาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว, ตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ และเล่นเกมชิงรางวัลพลอยแท้ ได้ที่บู้ธ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ หรือการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และแสดงผลงานศิลปาชีพและศิลปหัตถกรรมที่สวยงามและหลากหลาย พร้อมสาธิตการทำงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถทำด้วยตนเองและนำติดตัวกลับไปเป็นของที่ระลึกจากงาน โดยศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เป็นต้น
พบกับการนำเสนอผลงานแสดงสินค้า และบริการขององค์การมหาชน พร้อมเปิดโอกาสร่วมรับฟังการเสวนาในประเด็นที่น่าสนใจครอบคลุมทุกเรื่องราว ได้ในงาน “วันองค์การมหาชนครั้งที่ ๒” กับ “๑ ทศวรรษองค์การมหาชนกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒ นี้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.poday.org หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร ๐๒-๒๒๙-๓๓๓๑