กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ธ.ทหารไทย
คณะกรรมการธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) มีมติเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2549 ให้ระดมเงินจำนวน 18,000-20,000 ล้านบาท ด้วยการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์กึ่งทุน และการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยมีเป้าหมายจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารในการประชุมครั้งที่ 3/2549 ได้มีมติเห็นชอบให้ธนาคารระดมเงิน ในจำนวนประมาณ 18,000 - 20,000 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์กึ่งทุน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยให้นับเป็นเงินกองทุนได้ โดยจะจำหน่ายในต่างประเทศ ในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าประมาณ 8,000 ล้านบาท พร้อมทั้งการจำหน่ายหุ้นสามัญ จำนวน 3,222,389,300 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 4.75 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 7 วันทำการ ของหุ้นสามัญธนาคาร ก่อนวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2549
นายสุภัค กล่าวว่า “ภายหลังจากการรวมกิจการของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ดีบีเอส ไทยทนุ จำกัด (มหาชน) และ บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2547 ธนาคารทหารไทย ก็มีความก้าวหน้าในการดำเนินกิจการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2547 ธนาคารมีผลกำไรสุทธิ 948 ล้านบาท และในปี 2548 ธนาคารมีผลกำไรสุทธิ 7,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการผลการดำเนินงานแบบก้าวกระโดด สะท้อนให้เห็นประโยชน์จากการรวมกิจการของธนาคาร (Synergy) นอกจากนี้ธนาคารยังมีพัฒนาการที่ดีในการสร้างแบรนด์ และ มีความเติบโตอย่างต่อเนื่องในการให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคารแบบครบวงจร ด้วยเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงมีความต้องการเงินทุนเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยมีเป้าหมายให้ธนาคารมีอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ในระดับ 12% และ เงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ในระดับ 8.5% ซึ่งจะเป็นระดับเดียวกับธนาคารพาณิชย์ชั้นนำอื่น นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งในระยะยาวภายใต้เกณฑ์ Basel II ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะบังคับใช้ในอนาคต”
ประโยชน์ของการระดมเงินครั้งนี้ นอกจากธนาคารจะนำเงินที่ได้ไปไถ่ถอนก่อนกำหนดหุ้นบุริมสิทธิ ควบหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ (CAPS) ในจำนวนเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท แล้วธนาคารจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้อื่นที่มีต้นทุนสูง อันเป็นการช่วยให้ธนาคาร มีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้น รวมทั้งให้ธนาคารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
การระดมเงินครั้งนี้ธนาคารได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ถือหุ้นใหญ่ในปัจจุบันซึ่งได้แก่ กระทรวงการคลัง และ ธนาคารดีบีเอส กลุ่มไทยประกันชีวิต และ สามเหล่าทัพ
การดำเนินการระดมเงินครั้งนี้ จะมีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการประชุม ผู้ถือหุ้นและการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในวันที่ 7 เมษายน 2549 และจะมีการกำหนดราคาจองซื้อหุ้นสามัญใน วันประชุมผู้ถือหุ้น โดยจะมีการขออนุมัติการระดมเงินจากผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2548 ใน วันที่ 27 เมษายน 2549
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
วรงค์ / สุดาวรรณ โทร. 02 242 3258 — 60