แกรนท์ ธอร์นตัน พร้อมรับมาตรฐานทางบัญชีสากล รูปแบบใหม่สำหรับธุรกิจเอกชน

ข่าวทั่วไป Thursday July 23, 2009 10:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--แกรนท์ ธอร์นตัน แกรนท์ ธอร์นตัน เผยว่ามาตรฐานทางบัญชีสากลฉบับใหม่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (International Financial Reporting Standard for Small and Medium-sized Entities) หรือ IFRS for SMEs จะช่วยให้ธุรกิจเอกชนทั่วโลกสามารถจัดทำรายงานทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มาตรฐานดังกล่าวได้รับการจัดทำโดยคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Accounting Standards Board: IASB) โดยเชื่อว่าจะนำเสนอโอกาสในการสร้างสรรค์กรอบการบัญชีที่ได้มาตรฐานสำหรับธุรกิจเอกชนทั่วโลก ซึ่งแกรนท์ ธอร์นตันมีความยินดีและพร้อมเป็นอย่างยิ่งเมื่อถึงเวลานำมาตรฐานใหม่ดังกล่าวมาใช้ IFRS for SMEs นำเสนอหลักการทางการบัญชีสำหรับธุรกิจเอกชนที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและได้รับการปรับปรุงให้เรียบง่ายขึ้นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ IFRS ฉบับเดิมที่พัฒนาขึ้นเพื่อบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว มาตรฐานทางบัญชีฉบับใหม่นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจที่ดำเนินการในระดับนานาชาติโดยเฉพาะ ประเทศต่างๆ จะมีการพิจารณานำมาตรฐานใหม่มาใช้ โดยหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในประเทศเพื่อตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่และจะเริ่มต้นเมื่อใด และประเทศต่างๆ ยังจะมีความระมัดระวังเกี่ยวกับประเภทของธุรกิจเอกชนที่จะใช้มาตรฐานใหม่ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทลูกที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทข้ามชาติที่ได้รับการจดทะเบียนฯ จะสามารถใช้มาตรฐานใหม่นี้ได้ ประเทศไทยมีบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ราว 50 บริษัทที่ต้องดำเนินการตามมาตรฐาน IFRS ให้ได้อย่างครบถ้วนภายในปี 2554 และบริษัทอื่นๆ ภายในปี 2559 ซึ่งในขณะนี้ สภาวิชาชีพบัญชีได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษามาตรฐานทางบัญชีสำหรับธุรกิจเอกชนขนาดกลางและขนาดย่อม ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการปรับเปลี่ยนมาตรฐานทางบัญชีหลายครั้งภายในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้บริหารและนักบัญชีจะต้องมีความระมัดระวังในการดำเนินมาตรฐานใหม่อย่างถูกต้อง สุมาลี โชคดีอนันต์ กรรมการส่วนงานตรวจสอบบัญชีของ แกรนท์ ธอร์นตันในประเทศไทย เสริมว่าธุรกิจเอกชนส่วนมากบริหารงานอย่างใกล้ชิดโดยเจ้าของกิจการ การจัดทำรายงานทางการเงินก็เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฏหมายเป็นหลัก ดังนั้น IFRS for SME จะช่วยให้ธุรกิจเอกชนมีมาตรฐานทางบัญชีในขั้นพื้นฐานได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม สุมาลีอธิบายว่า “ธุรกิจทั่วโลกที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ขณะนี้ยังต้องดำเนินการตามมาตรฐาน IFRS ฉบับเต็มจะมีความยินดีที่คู่มือฉบับใหม่มีความยาวเพียงหนึ่งในสิบของคู่มือฉบับเต็ม และสิ่งที่จะต้องรายงานมีเพียง 300 รายการโดยประมาณ แทนที่จะเป็น 3,000 รายการในปัจจุบัน” อเล็กซ์ แมคบีธ ผู้บริหารระดับสูงส่วนงานบริการธุรกิจเอกชนของ แกรนท์ ธอร์นตัน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวเสริมว่า “เราเชื่อว่าประเทศต่างๆ ที่ใช้ IFRS ฉบับเต็มสำหรับธุรกิจทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และไม่ได้จดทะเบียนฯ ในปัจจุบัน (ประมาณ 30 ประเทศทั่วโลก) จะมีความยินดีที่จะนำ IFRS for SMEs มาใช้ เพราะแรงกดดันที่จะลดภาระการบริหารงานของเอสเอ็มอีจะชักนำให้รัฐบาลรับเอามาตรฐานใหม่อย่างใดอย่างหนึ่งมาใช้ในที่สุดอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น แอฟริกาใต้ได้บรรจุการใช้มาตรฐานใหม่ในร่างกฏหมาย จึงได้มีการดำเนินการใช้มาตรฐานใหม่แล้วอย่างมีประสิทธิภาพ” ทั้งนี้ แกรนท์ ธอร์นตัน เชื่อว่าการนำ IFRS for SMEs ไปใช้ในประเทศที่ธุรกิจเอกชนยังคงใช้มาตรฐานการบัญชีท้องถิ่น (SME GAAPs) จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดต่อไป ยกตัวอย่างเช่น สหภาพยุโรป ที่มีมาตรฐานการบัญชีท้องถิ่นประมาณ 55 รูปแบบที่แตกต่างกัน ในการนี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานทางบัญชีรูปแบบใหม่นั้นต้องมีต้นทุนทางการเงินและทางทรัพยากรในระดับหนึ่ง โดยบริษัทที่ดำเนินธุรกิจและผู้ให้คำปรึกษาทางธุรกิจจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ใหม่และเทคนิคทางการบัญชีใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบซอฟท์แวร์ของตนเอง นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงจากมาตรฐานทางบัญชีท้องถิ่นในบางประเทศแม้เพียงเล็กน้อยก็เกี่ยวพันกับการออกกฏหมายทางการภาษีและกฏหมายเกี่ยวกับบริษัท อย่างไรก็ตาม แกรนท์ ธอร์นตันมั่นใจว่าความไม่ราบรื่นเพียงชั่วคราวจะนำมาสู่อรรถประโยชน์ในระยะยาวสำหรับธุรกิจเอกชนทั่วโลก อเล็กซ์ แมคบีธ อธิบายว่า “มาตรฐานใหม่นี้คือการที่เรามุ่งหน้าเข้าสู่สถานการณ์ที่นายทุนและนักลงทุนสามารถประเมินการดำเนินงานของบริษัทโดยพิจารณาจากงบการเงินที่ใช้วิธีการทางบัญชีที่เปรียบเทียบได้โดยตรง มีหลักการ และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติได้โดยไม่คำนึงถึงแหล่งที่ตั้งของประเทศและที่มาบริษัท ซึ่งจะช่วยพัฒนาไปสู่การเข้าถึงเงินลงทุนและการตัดสินใจในการลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งยังช่วยลดภาระทางการบริหารให้แก่ธุรกิจเอกชนเป็นอย่างมาก" เกี่ยวกับ แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย: แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงธุรกิจในฐานะบริษัทที่ปรึกษาและให้บริการอย่างมืออาชีพระดับแนวหน้าของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียปี พ.ศ. 2540 โดยใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้ การลดค่าใช้จ่าย และการปรับปรุงแผนธุรกิจ กลุ่มงานให้บริการของแกรนท์ ธอร์นตัน ได้แก่ - การให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ - การตรวจสอบบัญชี - การให้คำปรึกษาทางภาษี - การให้บริการปรึกษาเฉพาะทาง - การจัดหาบุคลากรระดับผู้บริหาร ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ www.grantthornton.co.th ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: สุมาลี โชคดีอนันต์ กรรมการ แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย โทร: 02 205 8160 อีเมล์: [email protected] ลักษณ์พิไล วรทรัพย์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร แกรนท์ ธอร์นตัน ในประเทศไทย โทร: 02 205 8142 อีเมล์: [email protected]

แท็ก บัญชี   SME  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ