กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ธนาคารธนชาต
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) รุกเพิ่มสัดส่วนลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ หวังใช้เป็นฐานเพื่อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ส่งเงินฝากออมทรัพย์อัลตร้า(Ultra Savings) และเงินฝากออมทรัพย์มีระดับ (Progressive Savings) เป็นตัวทำตลาด โดยเสนออัตราดอกเบี้ยที่แข่งกับธนาคารคู่แข่งในระบบได้ ตั้งเป้าภายในปี 2552 จะเพิ่มสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์ต่อเงินฝากประจำเป็น 35% จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% พร้อมคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะเพิ่มยอดเงินฝากรวมของธนาคารฯเป็น 295,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2551 ที่มียอดเงินฝากรวม จำนวนประมาณ 275,000 ล้านบาท
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงาน Core Businesses & E-Banking ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารฯ มีนโยบายที่จะเพิ่มสัดส่วนจำนวนบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นทั้งนี้เพื่อจะนำฐานลูกค้าเงินฝากออมทรัพย์ซึ่งเป็นฐานเงินฝากใหญ่สุดในระบบอุตสาหกรรมธนาคาร ไปใช้ในการขยายไปสู่การขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ของธนาคารฯต่อไป โดยที่ผ่านมาธนาคารฯ ได้เสนออัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์คู่แข่งในระบบได้ พร้อมทั้งได้จัดกิจกรรมการตลาดและโปรแกรมส่งเสริมการขายสำหรับเงินฝากออมทรัพย์ให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดธนาคารฯ ได้ออกแคมเปญโฆษณาเงินฝากออมทรัพย์ ชุด Monthly Money ทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์อีกด้วย
ทั้งนี้ในปัจจุบันธนาคารฯ มีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อให้บริการผู้ฝากเงินอยู่ 2 ประเภท คือ เงินฝากออมทรัพย์อัลตร้า (Ultra Savings) ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไป และจ่ายดอกเบี้ยรายเดือน มีอัตราดอกเบี้ย 0.85% ต่อปี สำหรับวงเงินฝากตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป และอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี สำหรับวงเงินฝากต่ำกว่า 1 แสนบาท เงินฝากออมทรัพย์ประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ฝากเงินที่ต้องการลงทุนระยะสั้น หรือออมเงินสำหรับใช้ยามฉุกเฉิน เพราะมีความคล่องตัวมากกว่าเงินฝากประจำ สามารถเบิกถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือนโดยไม่มีค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังมีเงินฝากออมทรัพย์มีระดับ (Progressive Savings) ที่ให้ดอกเบี้ยตั้งแต่ 0.50 - 0.75% ต่อปี โดยคำนวณดอกเบี้ยให้ทุกวันตามระดับเงินฝาก เงินฝากประเภทนี้เหมาะสำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กรที่ต้องการความคล่องตัว และเป็นบัญชีเงินสดหมุนเวียนสำหรับธุรกิจ
นายประพันธ์ กล่าวว่า ธนาคารฯ ให้ความสำคัญกับการนำเสนอบริการเงินฝากที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและมีนโยบายที่จะเน้นให้มีบริการด้านเงินฝากที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีการจัดกลุ่มลูกค้าและวิเคราะห์ถึงความต้องการและรูปแบบการใช้บริการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์สูงสุดในการฝากเงิน และเพื่อเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจเงินฝากของธนาคารฯไว้
ทั้งนี้ ธนาคารฯ ตั้งเป้าว่าภายใน ปี 2552 จะเพิ่มสัดส่วนเงินฝากออมทรัพย์ต่อเงินฝากประจำเป็น 35%จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% พร้อมคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ จะเพิ่มยอดเงินฝากรวมของธนาคารฯเป็น 295,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2551 ที่มียอดเงินฝากรวม จำนวนประมาณ 275,000 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เผยแพร่ข่าวโดย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ศตวรรษ เสือแก้ว
0-2613-6000 ต่อ 6461