AMD รวม ATI กำเนิดผู้ผลิตใหม่ที่ทรงพลังที่สุดในโลก

ข่าวเทคโนโลยี Thursday July 27, 2006 09:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
- การควบรวมมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการเติบโต นวัตกรรม และทางเลือก -
เอเอ็มดี (NYSE: AMD) และเอทีไอ (TSX: ATY, NASDAQ: ATYT) เปิดเผยแผนความร่วมมือมูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การควบรวมกิจการในครั้งนี้จะก่อให้เกิดผู้ออกแบบและผลิตเทคโนโลยีใหม่ที่ทรงพลังที่สุดในโลก ด้วยการนำจุดแข็งของเอเอ็มดีในเรื่องเทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์และของเอทีไอในด้านกราฟฟิก, ชิปเซ็ต และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มารวมเข้าด้วยกัน ผลก็คือเกิดบริษัทใหม่ที่มีศักยภาพสูงกว่าสำหรับความก้าวหน้า นวัตกรรม และทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มคอมเมอร์เชียลและโมบาย คอมพิวติ้ง รวมถึงตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับการรวมเทคโนโลยี คน และจุดแข็งของทั้งคู่เข้าด้วยกัน เอเอ็มดีคาดว่าจะสามารถส่งแพลตฟอร์มใหม่ที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของลูกค้าที่กำลังมองหาโซลูชั่นที่แตกต่างได้ในปี 2007
การควบรวมเอทีไอของเอเอ็มดีจะทำให้บริษัทใหม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าสำหรับการนำเสนอนวัตกรรมเพื่อตอบสนองตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับอินทิเกรตเต็ดโซลูชั่นที่มีทุกอย่างครบสมบูรณ์อยู่ในตัว ขณะเดียวกันก็สามารถคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดีที่สุด ในปี 2008 เอเอ็มดีคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่อันเป็นผลจากการควบรวมในครั้งนี้ ด้วยแพลตฟอร์มที่รวมไมโครโปรเซสเซอร์และกราฟฟิกโปรเซสเซอร์ไว้ด้วยกันเพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นของตลาดสำหรับการใช้งานทั่วไป งานมีเดีย งานดาต้า และงานกราฟฟิก ดังนั้นการควบรวมในครั้งนี้จึงเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับลูกค้าในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่โดดเด่น แตกต่าง และเป็นของพวกเขาเอง ภายใต้ระบบเปิดที่เปิดกว้างสำหรับการสร้างสรรค์เพื่อความสำเร็จของลูกค้า
"เอทีไอได้เข้ามาร่วมกับเราและทำให้เราทั้งคู่แข็งแกร่งมากขึ้นในฐานะผู้นำเทคโนโลยีและผู้คิดค้นนวัตกรรมที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของลูกค้า" มร.เฮ็กเตอร์ รูอิซ ประธานบริหารและประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเอเอ็มดี กล่าวและว่า "การนำ 2 บริษัทที่ยิ่งใหญ่มารวมกันทำให้ทั้งคู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า เทียบกับจุดที่ทั้งคู่ประสบความสำเร็จอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก่อให้เกิดดาวดวงใหม่ในวงการ ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีและทางเลือกใหม่ เราเชื่อว่าเอเอ็มดีและเอทีไอจะสามารถผลักดันให้
เกิดความก้าวหน้าและนวัตกรรมใหม่ในอุตสาหกรรม สร้างโอกาสให้พันธมิตรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่แตกต่าง และเพิ่มอำนาจให้กับลูกค้าในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา”
“การควบรวมในครั้งนี้หมายถึงการเติบโตที่รวดเร็วสำหรับเอทีไอและพนักงานของเรา" มร.เดฟ ออร์ตัน ประธานบริษัทและประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเอทีไอ กล่าวและว่า "ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราจะได้รับประโยชน์ด้วย การร่วมมือกับเอเอ็มดีจะทำให้เราสามารถคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาดพีซีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถทุ่มเททรัพยากรต่างๆ ให้กับกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ของเราได้มากขึ้นเพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาด"
"Windows Vista จะนำมาซึ่งประสบการณ์ที่เหลือเชื่อสำหรับผู้ใช้ อันเป็นผลจากความล้ำหน้าในเทคโนโลยีกราฟิกและคอมพิวเตอร์" มร.จิม อัลชิน ประธานร่วม กลุ่มแพลตฟอร์มและเซอร์วิส บริษัทไมโครซอฟท์ กล่าวและว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นเมื่อนึกถึงพลังของบริษัทใหม่ที่รวมจุดแข็งของเอเอ็มดีและเอทีไอไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยเสริมให้ Windows Vista สามารถแสดงศักยภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ เพื่อประสบการณ์แปลกใหม่ที่ลูกค้าของเราจะได้รับหรือยิ่งกว่านั้น" ภายใต้ข้อตกลงในการควบรวมกิจการ เอเอ็มดีจะจะซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเอทีไอด้วยเงินสด 4.2 พันล้านดอลลาร์และหุ้นจำนวน 57 ล้านหุ้นของเอเอ็มดี ตามจำนวนและราคาหุ้นของเอทีไอ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2006 รวมถึงออปชั่นและ RSU ทั้งหมดของเอทีไอด้วย ทั้งนี้ ณ เวลาปิดตลาดวันที่ 21 กรกฎาคม 2006 หุ้นของเอเอ็มดีมีราคาอยู่ที่ 18.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่หุ้นของเอทีไอมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 20.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น แยกเป็นเงินสด 16.40 ดอลลาร์และหุ้นของเอเอ็มดีจำนวน 0.2229 หุ้น
เอเอ็มดีคาดว่าทุนที่จะนำมาใช้ในการควบรวมกิจการของเอทีไอจะมาจากเงินสดและหนี้สิน โดยกู้จากมอร์แกนสแตนเลย์ซีเนียร์ฟันดิ้ง (Morgan Stanley Senior Funding) 2.5 พันล้านดอลลาร์ รวมกับเงินสด, สินทรัพย์หมุนเวียน และการลงทุนระยะสั้นที่มีอยู่ในมือรวมเป็นมูลค่า 3.0 พันล้านดอลลาร์
เอทีไอได้รับความคิดเห็นจากที่ปรึกษาด้านการเงินสำหรับการควบรวม ในมุมมองทางการเงินถือว่ายุติธรรมสำหรับผู้ถือหุ้น ขณะที่บอร์ดบริหารลงมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ เอกสารชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการควบรวมจะถูกส่งถึงบุคคลต่างๆ เพื่ออนุมัติ ได้แก่ ผู้ถือหุ้น, คณะผู้ดูแลแผนฟื้นฟูกิจการของแคนาดา และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในสหรัฐฯและแคนาดา รวมถึงเงื่อนไขปกปิดอื่นๆ สำหรับบางกรณีที่ไม่มีการเปิดเผย เอทีไอยินดีจ่ายให้เอเอ็มดีเป็นมูลค่า 162 ล้านดอลลาร์ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อตกลง และคาดว่ากระบวนการควบรวมจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในไตรมาส 4 ปี 2006
โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ
เอเอ็มดีคาดว่าการควบรวมจะเสร็จสิ้นและเริ่มมีรายได้ในปี 2007 เป็นต้นไป และจะส่งผลให้เห็นอย่างชัดเจนในปี 2008 โดยเฉพาะตัวเลขรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายในการควบรวม การประมาณการรายได้ในครั้งนี้เอเอ็มดีประเมินจากแผนการดำเนินงานของเอเอ็มดีที่เตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพิ่มโดยเสริมผลิตภัณฑ์ที่เป็น All-in-1 และผลิตภัณฑ์ประเภทแอดวานซ์แพลตฟอร์มเข้าไป รวมถึงตำแหน่งในการทำตลาดที่ดีขึ้นสำหรับกลุ่มคอมเมอร์เชียล, โมบายคอมพิวติ้ง, เกม, มีเดีย และตลาดใหม่ เอเอ็มดีเชื่อว่าบริษัทจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงได้ 75 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2007
หลังการควบรวมเสร็จสิ้น คาดว่าบริษัทใหม่จะสามารถทำยอดขายรวมได้ 7.3 พันล้านดอลลาร์ ใน 4 ไตรมาส จากพนักงานจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 คน กิจการทั้งหมดของเอเอ็มดีในปัจจุบันจะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทใหม่ ทั้งเครือข่ายการจัดจำหน่านย, ศูนย์การออกแบบ และศูนย์การผลิตทั่วโลก และศูนย์ธุรกิจหลักในซิลิคอนวัลเลย์, ออสติน, เท็กซัส และมาร์ตแฮม ออนตาริโอ ทีมผู้บริหารปัจจุบันของเอเอ็มดีจะมีเพิ่มขึ้นอีก 1 คน คือ มร.เดฟ ออร์ตัน ประธานบริษัทและประธานคณะผู้บริหารคนปัจจุบันของเอทีไอ ซึ่งจะเข้ามารับตำแหน่งใหม่เป็น รองประธานฝ่ายบริหาร หน่วยธุรกิจเอทีไอ ตามรายงานที่เสนอผู้บริหารระดับสูงของเอเอ็มดี ได้แก่ มร.เฮกเตอร์ รูอิซ ประธานบริหารและประธานคณะผู้บริหาร และ มร.เดิร์ค เมเยอร์ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ นอกจากนี้ภายใต้ข้อตกลง หลังเสร็จสิ้นกระบวนการควบรวม จะมีผู้บริหารของเอทีไออีก 2 คนมาร่วมในคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ด้วย
ด้วยฐานลูกค้าและพันธมิตรที่มีอยู่ในมือของทั้งเอเอ็มดีและเอทีไอ เมื่อรวมกัน นั่นหมายถึงอันดับ 1 แห่งวงการคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้บริโภคเหมือนกัน การรวมกันในครั้งนี้จึงส่งเสริมให้ทั้งคู่ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งทางธุรกิจใหม่ที่ดีกว่าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยโซลูชั่นใหม่ๆมากมาย, วิศวกรรมระดับซิสเต็มส์ และเวลาที่รวดเร็วขึ้น
การประชุมทางไกลผ่านโทรศัพท์
เอเอ็มดีและเอทีไอฯจะจัดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ทางการเงินในวันนี้เวลา 8.00 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ ผู้สนใจเข้าร่วมประชุมสามารถต่อสายโทรศัพท์เข้ามายังหมายเลข 612-326-1027 (สหรัฐอเมริกา) ถ่ายทอดเสียงการประชุมสามารถฟังได้ที่ http://www.amd.com/announcement
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถฟังเสียงถ่ายทอดสด สามารถรับฟังเสียงบันทึกการประชุมได้ตั้งแต่เวลา 11.00 น.ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2006 ไปจนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2006 โดยต่อสายโทรศัพท์เข้าไปยังหมายเลข 800-475-6701 (สหรัฐอเมริกา) หรือ 320-365-3844 (ประเทศอื่นๆ) ด้วยไอดี 837580
เกี่ยวกับ AMD
เอเอ็มดี (NYSE:AMD) คือผู้ออกแบบและผลิตไมโครโปรเซสเซอร์, แฟลชเมมโมรี่ และโลว์เพาเวอร์โปรเซสเซอร์สำหรับระบบคอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สื่อสาร และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เอเอ็มดีคือผู้นำเสนอโซลูชั่นมาตรฐานที่มุ่งตอบสนองทุกๆความต้องการของผู้ใช้เทคโนโลยีทุกระดับ ตั้งแต่องค์กรธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาล ไปจนถึงผู้บริโภคระดับคอนซูเมอร์ทั่วไป ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.amd.com
เกี่ยวกับ ATI
เอทีไอเทคโนโลยีส์ (ATI Technologies) คือผู้นำการออกแบบและผลิตระบบกราฟิก 3 มิติ, พีซีเทคโนโลยี และดิจิตอลมีเดียโซลูชั่น นับตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา เอทีไอฯก็เป็นผู้ผลิตกราฟิกโปรเซสเซอร์ชั้นนำของโลก และเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นสมรรถนะสูงสำหรับทั้งพีซีและแมคอินทอชเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊ค, เวิร์คสเตชั่น, เซ็ตท็อปบ็อกซ์, ดิจิตอลทีวี, เกมคอนโซล และอุปกรณ์พกพา ปัจจุบันเอทีไอฯมีพนักงานอยู่ประมาณ 4,000 คนในอเมริกา, ยุโรป และเอเชีย ทำรายได้ในปี 2005 ได้ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีหุ้นเทรดอยู่ในตลาดแนสแดค (ATYT) และตลาดโตรอนโต้ (ATY)
หมายเหตุ
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บางข้อความเป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ข้อความที่เป็นการคาดการณ์จะมีคำเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย เช่น จะ, อาจจะ, คาดว่า และคำอื่นๆที่มีความหมายใกล้เคียงกัน การคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเป็นการประเมินจากสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมในปัจจุบัน นักลงทุนพึงระลึกอยู่เสมอว่าข้อความเหล่านี้ มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นจริงอาจเป็นหรือไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก็ได้
ความเสี่ยงหรือปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ (1) ความเป็นไปได้ที่การอนุมัติจากคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะล่าช้า (2) ความเป็นไปได้ที่การควบรวมจะไม่ผ่านอนุมัติของผู้ถือหุ้นหรือคณะผู้ดูแลแผนฟื้นฟู (3) ความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง, ลูกค้า และพันธมิตรของเอเอ็มดีและเอทีไอที่อาจส่งผลให้การควบรวมต้องเลื่อนออกไปหรือไม่บรรลุผลสำเร็จ (4) ความเป็นไปได้ที่รายได้, ค่าใช้จ่าย, อัตราการเติบโต และอื่นๆที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการควบรวม อาจไม่เกิดขึ้นตามที่คาดไว้หรืออาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ (5) ความเป็นไปได้ที่การควบรวมอาจไม่บรรลุผลไปตามคาด (6) กลยุทธ์ราคา โปรแกรมการตลาด การจัดชุดผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และกิจกรรมอื่นๆของบริษัทอินเทล ที่มีเป้าหมายที่ธุรกิจโพรเซสเซอร์ อาจส่งผลให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ (7) เอเอ็มดีอาจประสบปัญหาด้านเงินทุนและอาจไม่สามารถบรรลุตามแผนที่วางไว้ได้ (8) ความเป็นไปได้ที่กระบวนการควบรวมในเรื่องคนและการปฏิบัติงานอาจล่าช้าออกไป (9) ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเสื่อมค่าของกูดวิลล์และสินทรัพย์ถาวรอื่นๆซึ่งเป็นผลจากการควบรวมและผลกระทบจากการรวมบัญชีสินทรัพย์และรายได้ (10) ปัจจัยอื่นๆที่คาดไม่ถึงที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตและดีมานด์สำหรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของบริษัทใหม่ (11) การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีในกลุ่มคอมพิวติ้งและอิเล็กทรอนิกส์ (12) ข้อจำกัดในการพัฒนา, เปิดตัว และทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงเวลาหนึ่งๆ (13) ต้นทุนวิจัยและพัฒนาสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และ (14) ปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลกระทบต่อผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของการควบรวม ดังที่ได้อธิบายไว้ในเซ็กชั่น "Risk Factors" ในรายงานผลการดำเนินงานที่ส่งถึงผู้ถือหุ้นของเอทีไอและในรายงานที่เอทีไอและเอเอ็มดียื่นให้กับ กลต.สหรัฐฯ (U.S. Securities and Exchange Commission) รายละเอียดที่ http://www.sec.gov และในเซ็กชั่น “Risk Factors” ในรายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาสของเอเอ็มดี แบบฟอร์ม 10-Q สิ้นสุดวันที่ 26 มีนาคม 2006 และเซ็กชั่น “Risks and Uncertainties” ในรายงานผลการดำเนินงานของเอทีไอ แบบฟอร์ม 40-F ปีสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2005
กรุณาดู Item 3.12 “Narrative Description of the Business — Risks and Uncertainties” ในรายงานผลประกอบการประจำปี 2005 ของเอทีไอ และเซ็กชั่น Risks and Uncertainties ในรายงานผลประกอบการประจำปี 2005 หน้า 30 ของเอทีไอที่ยื่นให้กับ กลต.แคนาดา รายละเอียดที่ http://www.sedar.com เราแนะนำให้ผู้อ่านอ่านหมายเหตุในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้อย่างละเอียด เราขอสงวนสิทธิ์ในการอัพเดทหรือปรับแก้ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
เกี่ยวกับการควบรวม เอทีไอเตรียมเสนอรายงานผลการดำเนินงานแก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แคนาดา นักลงทุนและผู้ถือหุ้นควรผ่านรายงานดังกล่าวทันทีที่ได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณะ เพราะในรายงานจะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเอเอ็มดี, เอทีไอ และการควบรวม นักลงทุนและผู้ถือหุ้นสามารถดูรายงานผลการดำเนินงานที่เอทีไอยื่นให้กับกลต.แคนาดาได้ฟรี โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ SEDAR ( http://www.sedar.com ) ซึ่งดูแลโดย กลต.แคนาดา (Canadian Securities Administrators) หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของ กลต. สหรัฐฯ ( http://www.sec.gov ) นอกจากนี้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นยังอาจได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงานที่เอเอ็มดียื่นให้กับ กลต.สหรัฐฯ ที่ http://www.sec.gov หรือจากที่เอทีไอยื่นให้กับ กลต.แคนาดา ที่ http://www.sedar.com
กรุณาติดต่อ:
มิส ลิน ยอง
ผู้จัดการการตลาดคอนซูมเมอร์
บริษัท เอเอ็มดี ฟาร์อีส จำกัด
(65) 6559 9951
lynn.yong@amd.com
ประชาสัมพันธ์ข่าวโดย
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
สุชาย เฉลิมธนศักดิ์
0 2971 3711
suchai@pc-a.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ